คดีโบกปูน “เอ็ม ส่องศักดิ์” พบพฤติการณ์สุดทมิฬ ยัดศพ 2 ทารกใส่ถุงปุ๋ย-ทิ้งข้างทาง
ตามต่อคดีโบกปูนวันนี้ไปถึงไหน ความคืบหน้า 10 โมงเช้า ผู้บังคับการสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ ยืนยันผลตรวจดีเอ็นเอ เอ็ม ส่องศักดิ์ พ่อเด็กผู้ต้องหากมลสันดานทมิฬและภรรยา แถลงพฤติการณ์เดรัจฉานเกินมนุษย์ ยัดศพ 2 ทารกใส่ถุงปุ๋ยทิ้งข้างทางย่านบางซื่อ
วันนี้ (22 ก.ย.2566) เมื่อเวลา 10.50 น. ที่ผ่านมา ความชัดเจนในคดีโฉดต่ำช้าที่สุดครั้งหนึ่งซึ่งมีจุดเริ่มต้จากครอบครัวนายเอ็ม ส่องศักดิ์ ผูต้องหาเมีย 4 ลูก 10 ซึ่งนับถึงเวลานี้เด็กเสียชีวิตไปแล้วด้วยกัน 5 ศพ โดยภายหลังจากที่ พล.ต.ต.วาที อัศวุตมางกุร ผู้บังคับการและโฆษกสำนักงานพิสูจน์หลักฐาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยืนยันผลตรวจดีเอ็นเอของผู้ต้องหาคือ นายส่องศักดิ์ พ่อเด็ก และภรรยา น.ส.เจษฎา (ขอสงวนนามสกุล) เมื่อได้นำมาเปรียบเทียบกับดีเอ็นเอที่เคยเก็บจากร่างศพเด็กนิรนามที่ถูกทิ้งในพื้นที่ บริเวณถนนกำแพงเพชร 3 อยู่ในเขตความรับผิดชอบของ สน.บางซื่อ ทั้ง 2 ศพ ในปี พ.ศ.2556-2557
ปรากฏจากรายงานแจ้งว่า ศพเเรกถูกพบเมื่อวันที่ 10 ต.ค.2556 โดย สน.บางซื่อรับแจ้งเหตุพบศพเด็กทารกเพศชายถูกยัดไว้ในกระเป๋าเป้สีดำ บริเวณริมถนนนิคมรถไฟสาย 1 แขวงจอมพล เขตจตุจักร กทม. ใกล้กับสวนวชิรเบญจทัศ (สวนรถไฟ) จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ที่เกิดเหตุบริเวณเสาไฟฟ้าเลขที่ 43 พบกระเป๋าสะพาย ยี่ห้อเอ้าท์ดอร์ สีดำลายจุดรูปดาว วางทิ้งไว้ใกล้กับพุ่มไม้ ภายในพบศพเด็กทารกเพศชาย อายุประมาณ 10 เดือน คาดว่าเพิ่งเสียชีวิตได้ไม่นาน
ส่วนศพที่ 2 พบเมื่อวันที่ 12 พ.ย.2557 สน.บางซื่อ รับแจ้งเหตุพบศพทารกเพศชาย อายุประมาณ 2 เดือน ถูกทิ้งไว้ที่บริเวณหน้าโครงการจตุจักรกรีน ถนนกำแพงเพชร 3 แขวงและเขตจตุจักร กทม. พนักงานทำความสะอาดเขตจตุจักร ขณะกวาดถนนเวลา 06.00 น. พบถุงปุ๋ยวางอยู่โคนต้นไม้ โดยมีเชือกมัดปากถุงไว้ เมื่อเปิดดูพบว่าเป็นศพเด็กทารก จึงตกใจรีบแจ้งตำรวจมาตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณโคนต้นไม้บนทางเท้าเป็นศพทารกเพศชาย อายุประมาณ 2 เดือน สภาพศพสวมชุดทารกแรกเกิดสีขาว สวมถุงมือสีชมพู ถูกห่อด้วยผ้าห่มสีฟ้า โดยมีกระสอบปุ๋ยสีชูมพูตัดปากถุงห่อไว้อีกชั้นหนึ่ง ใกล้กันพบกระเป๋าผ้าสีเขียวตกอยู่อีก 1 ใบ ตรวจสอบตามร่างกายไม่พบบาดแผล แต่ลักษณะคอหมุนได้ผิดปกติคล้ายกับคอหัก มีมดขึ้นตามตัวเป็นจำนวนมาก เบื้องต้นคาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 4 ชั่วโมง
ออกหมายจับ เจษฎา ภรรยาคนที่ 2 ร่วมฆ่าลูกวันนี้ (22 ก.ย.66)
ทั้งนี้ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาตำรวจนครบาล กล่าวหลังจากแพทย์นิติเวชโรงพยาบาลตำรวจยืนยัน ผลตรวจดีเอ็นเอร่างทารก 2 รายที่ถูกนำมาทิ้งในพื้นที่ เขตบางซื่อ เมื่อปี 2556 และ 2557 ผลตรวจดีเอ็นเอนายส่องศักดิ์ และ น.ส.เจษฎา ผู้เป็นพ่อแม่ตรงกัน สอดคล้องกับคำรับสารภาพที่ทั้งคู่ระบุว่าได้นำเด็กไปทิ้งในจุดดังกล่าวจริง
สอดคล้องกับสาเหตุการตายของเด็กทั้ง 2 ที่ยืนยันว่าถูกทำให้เสียชีวิต พบกะโหลกศีรษะแตก และเลือดคั่งในสมอง ส่วนอีกคนระบบหายใจล้มเหลว ในส่วนนี้ได้ปรึกษากับคณะพนักงานสอบสวนแล้วว่าจะดำเนินคดีกับน.ส.เจษฎา ทุกข้อหาที่เกี่ยวข้องทั้งหมด จะนำผลตรวจดีเอ็นเอ อย่างเป็นทางการในช่วงบ่ายวันนี้มาประกอบในสำนวนด้วย เพื่อขอออกหมายจับภายในวันนี้ 22 ก.ย.66
ปมสืบย้อนที่มาที่ไปศพเด็กยังต้องสางเพิ่ม
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ซึ่งได้ลงพื้นที่.พร้อมกับ พล.ต.ต.วาที โฆษกกองพิสูจน์หลักฐานและ พ.ต.อ.รังสรรค์ สอนสิงห์ ผกก.สน.สายไหม นำชุดสืบสวนและตำรวจ “สพฐ.ตร.” นำรถแบ็คโฮขุดหน้าดินบนที่ดินริมถนนพหลโยธิน หลักกิโลเมตรที่ 25 ซึ่งเป็นจุดที่ น.ส.เจษฎา ภรรยาคนที่ 3 ของนายส่องศักดิ์ ผู้ต้องหาคดีฆ่าโบกปูนลูกตัวเอง นำศพทารกมาทิ้งไว้ริมศาลพระภูมิตามคำให้การ
โดยผบก.สส.บช.น. กล่าวถึงเรื่องคำให้การของผู้ต้องหากับภรรยา เท่าที่ผ่านมาถือว่าเป็นประโยชน์ต่อการทำงานของตำรวจจนนำไปสู่การตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย ส่วนกระดูกที่พบวานนี้ (21 ก.ย.66) ตรงกับข้อมูลที่ได้รับมา แต่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การของผู้ต้องหาทั้งหมด โดยลูกทั้งหมด 5 คนของ น.ส.เจษฎา อ้างว่าป่วยเสียชีวิต 2 คน คือที่ จ.กำแพงเพชร และทารกชายที่เสียชีวิตในปี 2559
ขณะที่ปมการค้นหาวานนี้ ตำรวจพบถุงดำ ถุงขาว และกระดูก 2 ชิ้น ซึ่งนายส่องศักดิ์เห็นแล้วจำนนต่อสิ่งที่กระทำไปจึงยอมรับว่าได้ลงมือฆาตกรรมเด็กจริง อ้างว่าไม่ชอบเด็กผู้ชายกับเสียงเด็ก แต่ตำรวจต้องตรวจสอบเชิงลึกมากกว่านี้ เพราะผู้ต้องหาอาจกลับคำให้การอีกได้ โดยได้ส่งชุดสืบสวนไปสืบหาพยานที่เคยคบหากับผู้ต้องหา รวมถึงญาติพี่น้องด้วย
ขณะที่ น.ส.เจษฎา บอกว่าเจ้าตัวนั้นมีความรักกับนายส่องศักดิ์จริง แต่จำใจทำร้ายลูกเพราะถูกบังคับและทำร้ายร่างกายจนมีบาดแผล ส่วนผลการตรวจสุขภาพจิตของนายส่องศักดิ์ แพทย์ยืนยันเบื้องต้นว่าเป็นปกติทุกประการ สามารถพูดคุยตอบโต้ได้หมด
สำหรับในส่วนของขั้นตอนหลังจากนี้ นายส่องศักดิ์ และ น.ส.สุนัน (สงวนนามสกุล) ภรรยาคนที่ 4 จะถูกนำตัวไปฝากขังที่ศาลอาญารัชดา ในฐานความผิดร่วมกันฆ่าผู้อื่น ทำร้ายร่างกายเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และซ่อนเร้นทำลายศพ.