ข่าวภูมิภาค
สุดยื้อ “โลมา” เกยตื้นภูเก็ต ติดเชื้อในกระแสเลือดตายแล้ว

โลมาลายแถบคลื่นซัดเกยหาดกมลา- ภูเก็ตเมื่อ 5 วันก่อน ตายแล้วติดเชื้อในกระแสเลือด แม้สัตวแพทย์รักษาเต็มที่ดูแลทุ กชั่วโมง ผลผ่าพิสูจน์ไม่พบสิ่ งแปลกปลอมระบบภายใน ส่วนซากวาฬหัวทุยแคระที่หาดบ้ านเกาะพร้าวพบติดเชื้อเช่นกัน รอผลตรวจชิ้นเนื้ออีกครั้ง

กรณีเจ้าหน้าที่กลุ่มสัตว์ ทะเลหายาก ศูนย์วิจัยและพัฒนาทรั พยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอั นดามัน ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต นำโลมาลายแถบเพศผู้ มาอนุบาลในบ่อพัก เนื่องจากถูกคลื่นซัดขึ้ นมาเกยตื้นหน้าหาดกมลาเมื่อวั นที่ 6 พ.ย.ที่ผ่านมา ในสภาพอ่อนแรง ต้องใช้เสื้อชูชีพพยุงไว้ ตลอดเวลา พร้อมให้น้ำเกลือและเจาะเลื อดเพื่อประเมินผลการรักษาและดู อาการเป็นรายชั่วโมง
สัตวแพทย์หญิงชวัชญา เจียกวธัญญู และนายสัตวแพทย์ปฐมพงศ์ จงจิตต์ สัตวแพทย์ประจำกลุ่มกลุ่มสัตว์ ทะเลหายาก กล่าวว่า ล่าสุดโลมาตายแล้วจากการติดเชื้ อในกระแสเลือด พบม้ามอักเสบ และหลุมในกระเพาะอาหาร จากการผ่าพิสูจน์ไม่พบสิ่ งแปลกปลอมในกระเพาะอาหาร ซึ่งเป็นการป่วยตายตามธรรมชาติ

ส่วนวาฬหัวทุยแคระ เพศผู้ ที่ชาวบ้านเกาะมะพร้าว หมู่ 6 ต.เกาะแก้ว อ.เมือง จ.ภูเก็ต พยายามช่วยกันส่งกลับลงทะเลหลั งว่ายเข้าหาฝั่ง เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.ที่ผ่านมา และตายในเวลาต่อมานั้น ผลจากการผ่าพิสูจน์พบว่า วาฬหัวทุยแคระป่ วยตายตามธรรมชาติ ซึ่งอาการป่วยมีภาวะช็อก สำลักน้ำ มีลักษณะของการติดเชื้อ พบแผลหลุมที่กระเพาะอาหาร มีฟองอากาศในหลอดลมค่อนข้างมาก โดยเฉพาะพยาธิ ตามธรรมชาติแล้วสามารถเจอได้ แม้ในตัวที่แข็งแรง แต่วาฬหัวทุยแคระตัวนี้มีพยาธิ มากกว่าปกติ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จะตัดชิ้นเนื้ อไปตรวจสอบหาสาเหตุอีกครั้งว่ าป่วยด้วยโรคใด ซึ่งวาฬหัวทุยแคระนั้นพบเห็นไม่ บ่อยนัก และนับเป็นตัวแรกของปีนี้ที่ พบวาฬชนิดดังกล่าว