เคล็ดลับดูแลเส้นผมหลังย้อมผม ทำอย่างไรให้สีผมติดทนนาน สีไม่เฟด สีไม่หลุด

Danita S.เผยแพร่: 11 ก.ย. 2566 13:09 น.| อัปเดต: 11 ก.ย. 2566 13:54 น.

342

เผยเคล็ดลับดูแลเส้นผมหลังย้อมผม ทำอย่างไรให้สีผมติดทนนาน สีไม่เฟด สีไม่หลุด

เผยเคล็ดลับดูแลสีผมหลังย้อมผม ทำอย่างไรให้สีผมยังคงติดทน สีผมยังคงสวยเหมือนวันแรกที่ออกจากร้าน หมดปัญหาสีผมเฟด สีผมหลุด คงความสวยของสีผมพวกคุณได้ เพียงทำตามขั้นตอนเหล่านี้

ในปัจจุบันการย้อมผม การเปลี่ยนสีผมเป็นสิ่งที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน เพราะการเปลี่ยนสีผมเป็นหนึ่งหนทางในการช่วยปรับเปลี่ยนลุค หรือเปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์ที่ใคร ๆ ก็สามารถทำได้ ซึ่งจะช่วยเพิ่มมั่นใจ และช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ให้ดูโดดเด่น น่าค้นหามากยิ่งขึ้น

วิธีดูแลเส้นผมหลังย้อมผมอย่างไรให้สีผมติดทนนาน

1. สระผมหลังจากทำสีผม 48 ชั่วโมง

การสระผมหลังจากทำสีผมเสร็จสิ้นมาแล้ว 48 ชั่วโมง หรือราว 2 วัน เป็นวิธีในการทิ้งระยะเวลาเพื่อให้สีย้อมผมติดทนมากขึ้น และเพื่อให้สีเหล่านั้นสามารถติดแน่นลงไปที่ผมได้ดียิ่งขึ้น เมื่อเป็นเช่นนี้ภายหลังการทำสีผมเสร็จสิ้นแล้วจึงไม่ควรรีบสระผมในทันที เพราะจะทำให้สีย้อมผมเหล่านั้นไม่ติดทน และยังมีแนวโน้นที่สีผมจะหลุดลอกหรือเฟดจางลงอีกด้วย

2. เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผมสำหรับผมทำสีโดยเฉพาะ

การเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับภาพเส้นผมในขณะนั้น ๆ เป็นหนึ่งวิธีที่ไม่ควรมองข้าม เนื่องจากสภาพเส้นผมหลังทำสีนั้นย่อมมีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ซึ่งผลิตภัณฑ์ที่เคยใช้อยูาเป็นประจำก่อนทำสีผมนั้นจึงไม่สามารถตอบโจทย์การดูแลเส้นผมได้ครอบคลุมมากพอ การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับผมทำสีโดยเฉพาะจึงเป็นทางออกที่ดีที่สุด ที่จะช่วยให้สีผมเหล่านั้นติดทนนานยิ่งขึ้น เปรียบเสมือนการล็อคสีผมให้คงเดิมอยู่เสมอ อีกทั้งผลิตภัณฑ์เหล่านั้นยังช่วยฟื้นฟูเส้นผมหลังทำสีไม่ให้แห้งเสียได้ดีกว่าผลิตภัณฑ์ปกติทั่วไป สำหรับผู้ทำสีผมสีสว่างแนะนำให้ใช้แชมพูม่วงในการสระผม โดยสามารถหาซื้อผลิตภัณฑ์ตามร้านค้าชั้นนำทั่วไป

3. ไม่ควรสระผมบ่อยเกินไป

ภายหลังการทำสีผมไม่ควรสระผมบ่อยหรือถี่จนเกินไป เนื่องจากในทุก ๆ ครั้งที่สระผมผลิตภัณฑ์เหล่านั้นก็จะชะล้างน้ำมันธรรมชาติออกไปจากเส้นผมเกินความจำเป็น ซึ่งเป็นเหตุให้ผมแห้งเสียและสีผมจะหลุดลอกออกได้ง่าย สีเฟดจางลงเร็วกว่าที่ควร เช่นนั้นแล่วผู้ทำสีผมควรสระผมเว้นวันวัน หรือหากต้องการให้สีผมเหล่านั้นอยู่คงทนที่สุด ควรสระผม 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์

4. หลีกเลี่ยงการใช้ความร้อน

อุณหภูมิที่สูงเกินไปก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ส่งผลให้สีผมหลุดลอกและจางลง กล่าวคือ ไม่ควรสระผมด้วยน้ำอุ่นหรือน้ำที่มีอุณหภูมิสูงกว่าปกติ รวมไปถึงหลีกเลี่ยงการใช้อุปกณ์ที่มีอุณหภูมิสูงกับเส้นผม อาทิ การใช้ไดร์เป่าผม การใช้เครื่องหนีบผม การใช้เครื่องม้วนผม หรืออุปกรณ์อื่น ๆ ที่ต้องอาศัยความร้อนในการทำงาน เนื่องจากอุณหภูมิที่สูงจนเกินไปเป็นหนึ่งปัจจัยที่ทำให้สีผมจางลงได้ง่ายและเร็วมากขึ้น อีกทั้งยังส่งผลเสียต่อเ้สนผมอีกด้วย ทั้งปัญหาผมแห้งเสีย ปัญหาผมชี้ฟู ปัญหาผมแตกปลาย

เช่นนั้นแล้วการสระผมด้วยน้ำที่มีอุณหภูมิปกติ และหลีกเลี่ยงการใช้ความร้อนกับเส้นผมที่ทำสี จึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในการดูแลสีผมให้ติดทนนาน

5. หลีกเลี่ยงการให้เส้นผมสัมผัสกับคลอรีน

หลาย ๆ คนคงจะยังไม่รู้ว่าคลอรีนเป็นหนึ่งตัวการสำคัญที่ทำให้สีผมจางลง หรือเรียกได้ว่า สิ่งนี้เป็นฝันร้ายของเหล่าคนทำสีผมเลยก็ว่าได้ เนื่องจากคลอรีนเป็นสารที่ทำให้เส้นผมแห้งเสีย เส้นผมจะเปราะบางและเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาผมแตกปลาย อีกทั้งคลอรีนยังชะล้างน้ำมันตามธรรมชาติบนเส้นผมออกไปเกินความจำเป็นด้วย ซึ่งจะเห็นได้จากในทุก ๆ ครั้งที่ว่ายน้ำ สภาพเส้นผมหลังขึ้นจากสระว่ายน้ำจะมีลักษณะที่หยาบกระด้าง และชี้ฟู และสำหรับผู้ทำสีผม นอกจากความหยาบของเส้นผมแล้วนั้น สีผมของคุณก็อาจจะหลุดลอกและอาจส่งผลให้สีผมแตกต่างไปจากสีเดิม

เช่นนั้นผู้ทำสีผมจึงควรสวมใส่หมวกว่ายน้ำที่สามารถกันน้ำเข้าสู่เส้นผม เพื่อเปผ้นการปกป้องเส้นผมให้สัมผัสกับคลอรีนน้อยที่สุด

เคล็บลับการดูแลสีผมให้ติดทนนาน สีไม่เฟด สีไม่ลอก ตามที่ได้กล่าวไปข้างต้นนั้น ผู้อ่านสามารถนำไปใช้ปรับใช้กับวิถีชีวิตประจำวันของแต่ละบุคคลได้ตามความสะดวกและเหมาะสม เพื่อให้สีผมบนเส้นผมยังคงงดงามอยู่เสมอ หรืออาจเลือกใช้ผลิตภัณพ์ดูแลเส้นผมอื่น ๆ ร่วมด้วยก็สามารถทำได้ เพื่อให้เส้นผมไม่แห้งเสีย จะหลีกเลี่ยงการเกิดปัญหาเกี่ยวกับเส้นผมอื่น ๆ ที่อาจตามมาหลังจากทำสีผมนั่นเอง