ใกล้หมดเขตแล้ว ลงทะเบียนยังชีพผู้สูงอายุ 2567 รีบลงทะเบียนก่อนสิ้นเดือนกันยายนนี้ เช็กคุณสมบัติ เงื่อนไขของผู้มีสิทธิได้รับเงิน และวิธีสมัครได้เลยที่นี่
เบี้ยผู้สูงอายุ หรือเบี้ยคนชรา สวัสดิการของรัฐที่จะมีการเปิดให้ลงทะเบียนทุกปี โดยการลงทะเบียนขอรับเบี้ยยังชีพดังกล่าวจะเป็นการลงทะเบียนล่วงหน้าก่อนถึงปีงบประมาณที่จะมีอายุครบ 60 ปี เพื่อรับเบี้ยสูงอายุในงบประมาณปี 2567 วันนี้ Thaiger จึงไม่รอช้า ขอพาทุกท่านมาเช็กกันให้ชัวร์ว่า ผู้สูงอายุที่บ้าน จะต้องลงทะเบียนยังชีพ 2567 หรือไม่ เริ่มลงเมื่อไหร่ พร้อมรายละเอียดที่ควรรู้ก่อนหมดเขตสิ้นเดือนกันยายนนี้
ลงทะเบียนรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 2567 เริ่มเมื่อไหร่
สำหรับเบี้ยผู้สูงอายุ 2567 จะเปิดให้ผู้สูงอายุที่เข้าเกณฑ์ สามารถลงทะเบียนได้ 2 ช่วง ได้แก่
- ช่วงที่ 1 เดือน ตุลาคม – พฤศจิกายน 2565
- ช่วงที่ 2 เดือน มกราคม – กันยายน 2566
คุณสมบัติผู้มีสิทธิลงทะเบียนรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 2567
ผู้ที่มีสิทธิ์ได้รับเงินช่วยเหลือเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 2567 จะต้องมีคุณสมบัติตรงตามหลักเกณฑ์ คือ
1. มีสัญชาติไทย
2. มีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ในงบประมาณปี พ.ศ. 2567 คือ ผู้ที่เกิดก่อนวันที่ 2 กันยายน 2507 และได้ยืนยันสิทธิ์ขอรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุต่อองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
3. มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในเขตองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
4. ไม่เป็นผู้ได้รับสวัสดิการหรือสิทธิประโยชน์อื่นใดจากหน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้แก่ ผู้รับเงินบำนาญ เบี้ยหวัด บำนาญพิเศษ หรือเงินอื่นใดในลักษณะเดียวกัน ผู้สูงอายุที่อยู่ในสถานสงเคราะห์ของรัฐหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้ที่ได้รับเงินเดือน ค่าตอบแทน รายได้ประจำ หรือผลประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นที่รัฐหรือองค์กรส่วนปกครองส่วนท้องถิ่นจัดให้เป็นประจำ
สำหรับผู้ที่เคยลงทะเบียนเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุไปก่อนหน้านี้แล้วจะไม่มีผลกระทบ โดยคาดว่าหลักเกณฑ์ใหม่ที่จะพิจารณาเรื่องรายได้ของผู้สูงอายุด้วยนั้น จะมีผลบังคับใช้กับการลงทะเบียนเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุตั้งแต่ปีงบประมาณ 2567 เป็นต้นไป
ลงทะเบียนรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 2567 ได้ที่ไหนบ้าง
หากท่านมีคุณสมบัติที่ผ่านเกณฑ์ในการรับเบี้ยคนชราแล้ว สามารถลงทะเบียนรับเงินช่วยเหลือเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 2567 ได้ที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตามภูมิลำเนาของตัวเอง ได้แก่
- กรุงเทพฯ : สำนักงานที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน ในวัน-เวลาราชการ
- ต่างจังหวัด : สำนักงานเทศบาล หรือองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านตามวัน-เวลาราชการ
กรณีผู้สูงอายุที่เคยลงทะเบียนมาก่อนแต่ย้ายภูมิลำเนามาใหม่ จะต้องมายืนยันสิทธิ์รับเบี้ยเงินผู้สูงอายุที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ตามทะเบียนบ้านใหม่
เอกสารที่ต้องเตรียมในการลงทะเบียนรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 2567
- บัตรประจำตัวประชาชน หรือบัตรอื่นที่ออกโดยหน่วยงานของรัฐที่มีรูปถ่าย
- ทะเบียนฉบับเจ้าบ้าน
- สมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร สำหรับผู้ที่ขอรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุผ่านธนาคาร
เอกสารเพิ่มเติม (กรณีผู้สูงอายุไม่สะดวกดำเนินการด้วยตนเอง)
สำหรับผู้สูงอายุที่ไม่สามารถลงทะเบียนได้ด้วยตัวเอง สามารถมอบอำนาจเป็นลายลักษณ์อักษรให้ผู้อื่นมายื่นคำขอรับเงินแทนได้ โดยจะต้องเตรียมเอกสารดังต่อไปนี้
- หนังสือมอบอำนาจ (แบบฟอร์มมอบอำนาจขึ้นอยู่กับการดำเนินการของแต่ละพื้นที่ ให้ติดต่อเจ้าหน้าที่โดยตรง)
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้รับมอบอำนาจ อย่างละ 1 ฉบับ
- สำเนาทะเบียนบ้านของผู้รับมอบอำนาจ อย่างละ 1 ฉบับ
หากเตรียมเอกสารครบเรียบร้อยแล้ว ให้ลงชื่อรับรองสำเนาถูกต้องทุกฉบับ หากผู้สูงอายุไม่สามารถเขียนได้ ให้พิมพ์ลายมือแทน
ตรวจสอบรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับเบี้ยผู้สูงอายุ 2567 ได้เมื่อไหร่
เมื่อลงทะเบียนแล้ว สามารถตรวจสอบรายชื่อผู้มีสิทธิ์รับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุได้ในวันที่ 5 ของเดือนถัดไป ณ บอร์ดประชาสัมพันธ์ของ อบต. หรือเทศบาลที่ได้ไปลงทะเบียน หรือพื้นที่ที่ อบต. หรือเทศบาลกำหนดไว้ โดยสามารถตรวจสอบบัญชีรายชื่อผู้สูงอายุที่มีสิทธิได้รับเบี้ยสูงอายุทั้งหมดได้ในวันที่ 9 กันยายน 2566
ลงทะเบียนเบี้ยผู้สูงอายุ 2567 แล้วจะได้รับเงินเมื่อไหร่
การลงทะเบียนขอรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ จะเป็นการลงทะเบียนล่วงหน้าเพื่อขอรับเงินในปีงบประมาณถัดไป ดังนั้น ผู้ที่ลงทะเบียนในเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน 2565 และเดือนมกราคม-กันยายน 2566 จะยังไม่ได้รับเงินในทันที แต่จะได้รับเงินตั้งแต่ปีงบประมาณ 2567 เป็นต้นไป คือช่วงเดือนตุลาคม 2566 – กันยายน 2567 นั่นเอง
ส่วนจะได้รับเงินในเดือนไหน ขึ้นอยู่กับวันเกิดของผู้ลงทะเบียน โดยจะจ่ายให้ในเดือนถัดจากวันเกิด 1 เดือน เช่น เกิดวันที่ 2-31 ธันวาคม 2506 จะได้รับเงินครั้งแรกในเดือนมกราคม 2567 ยกเว้นคนเกิดวันที่ 1 จะได้รับเงินในเดือนเกิดนั้นเลย
เบี้ยผู้สูงอายุ 2567 ได้รับเงินเท่าไหร่บ้าง
การจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ จะจ่ายทุกวันที่ 10 ของเดือน หากเดือนใดวันที่ 10 ตรงกับวันหยุดราชการจะจ่ายในวันทำการก่อนวันหยุดนั้น โดยจะได้รับเงินตามช่วงอายุของผู้สูงอายุ ได้แก่
- อายุ 60-69 ปี จะได้รับ 600 บาท/เดือน
- อายุ 70-79 ปี จะได้รับ 700 บาท/เดือน
- อายุ 80-89 ปี จะได้รับ 800 บาท/เดือน
- อายุ 90 ปีขึ้นไป จะได้รับ 1,000 บาท/เดือน
วิธีการรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ
ในส่วนของการรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 2567 ผู้ที่ได้รับสิทธิ สามารถรับเงินช่วยเหลือเบี้ยยังชีพได้ตามช่องทางการรับเงิน ดังต่อไปนี้
- รับเงินสดด้วยตนเอง
- รับเงินสดโดยบุคคลที่ได้รับมอบอำนาจจากผู้มีสิทธิ
- โอนเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารในนามผู้มีสิทธิ
- โอนเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารในนามบุคคลที่ได้รับมอบอำนาจจากผู้มีสิทธิ
กรณีอายุเกิน 60 ปี แต่เพิ่งลงทะเบียนครั้งแรก จะได้รับเงินเมื่อไหร่
หากผู้สูงอายุท่านใดที่มีอายุเกิน 60 ปีไปแล้ว แต่ไม่เคยมาลงทะเบียนรับเบี้ยผู้สูงอายุ สามารถมาลงทะเบียนในช่วงเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน 2565 และเดือนมกราคม-กันยายน 2566 ได้เลย เพื่อรับเงินผู้สูงอายุในงบประมาณ 2567 โดยจะได้รับเงินครั้งแรกในเดือนตุลาคม 2566 แต่จะไม่มีการจ่ายเงินย้อนหลัง
ทั้งหมดนี้คือรายละเอียดของการลงทะเบียนเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ งบประมาณ 2567 ที่ผู้สูงอายุทุกคนควรทราบ เพื่อที่จะได้รีบเข้าไปลงทะเบียนกันก่อนหมดเขตเดือนกันยายนนี้ หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติม สามารถสอบถามได้ที่สำนักงานเขต หรือเทศบาลและองค์การบริหารส่วนท้องถิ่น หรือติดต่อกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เบอร์ 02-2419000 ต่อ 4131