“น้ำ วารุณี” น้ำหนักเหลือ 31 กิโลกรัม หลังอดอาหาร 19 วัน ฝากขอบคุณทุกกำลังใจ
“น้ำ วารุณี” ผู้ต้องขังคดีมาตรา 112 น้ำหนักเหลือ 31 กิโลกรัม หลังอดอาหาร 19 วัน ฝากขอบคุณทุกกำลังใจ อยากให้ทุกคนโฟกัสผู้ต้องขังทางการเมืองคนอื่นด้วย ไม่ใช่เฉพาะมาตรา 112
สืบเนื่องจากกรณีที่ น้ำ วารุณี ผู้ต้องขังคดีมาตรา 112 ชาวพิษณุโลก อดอาหารต่อเนื่องเป็นเวลานานกว่า 2 สัปดาห์ ส่งผลให้ทางทัณฑสถาน โรงพยาบาลราชทัณฑ์ ต้องส่งตัวน้ำ วารุณี ไปยังโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เฉลิมพระเกียรติ ล่าสุด วันศุกร์ที่ 8 กันยายน 2566 เพจเฟซบุ๊ก ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน โพสต์ข้อความบันทึกเยี่ยมน้ำ วารุณี หลังอดอาหาร 19 วัน
ข้อความจากโพสต์เฟซบุ๊กดังกล่าวระบุว่า วันที่ทนายเข้าเยี่ยม นับเป็นการอดอาหารประท้วงวันที่ 19 ของน้ำ วารุณี ตอนนี้น้ำหนักลดลงไป 6 กิโลกรัม เหลือ 31 กิโลกรัม มีผลข้างเคียงด้านสุขภาพ ตอนนี้จำกัดการจิบน้ำอยู่ที่วันละ 60 ซีซี อีกทั้งได้เผยว่า น้ำรู้สึกผิดกับตนเอง รู้สึกผิดกับคนข้างนอกที่เคลื่อนไหว พร้อมขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจ อยากให้สนใจผู้ต้องขังการเมืองคนอื่นด้วย ไม่ใช่แค่ ม.112
“เมื่อวันที่ 8 ก.ย. 2566 ทนายความได้เข้าเยี่ยม น้ำ วารุณี ชาวพิษณุโลกวัย 30 ปี ที่ทัณฑสถานหญิงกลาง หลังถูกศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุก 1 ปี 6 เดือน ตั้งแต่วันที่ 28 มิ.ย. 2566 ในคดีมาตรา 112 กรณีโพสต์เฟซบุ๊กเป็นภาพรัชกาลที่ 10 ขณะเปลี่ยนเครื่องทรงพระแก้วมรกต เป็นชุดกระโปรงยาวสีม่วงจากแบรนด์ Sirivannavari และใส่ภาพสุนัข โดยศาลอุทธรณ์รวมถึงศาลฎีกามีคำสั่งไม่อนุญาตให้ประกันตัวระหว่างอุทธรณ์คดี
วันที่ทนายเข้าเยี่ยมนี้ นับเป็นการอดอาหารประท้วงวันที่ 19 ของวารุณี และจำกัดการดื่มน้ำเป็นวันที่ 16 แล้วการแสดงออกดังกล่าวดำเนินมาตั้งแต่เวลาประมาณเที่ยงของวันที่ 21 ส.ค. 2566 มีจุดประสงค์เพื่อเรียกร้องสิทธิประกันตัวและประท้วงต่อศาลที่มีคำสั่งไม่ให้ประกันตัวเรื่อยมา โดยได้ถูกยกระดับเป็นการอดอาหารและน้ำ มาตั้งแต่วันที่ 24 ส.ค. เป็นต้นมา โดยจะจำกัดการดื่มน้ำเฉพาะเวลารับประทานยานอนหลับและยารักษาโรคอารมณ์สองขั้วเท่านั้น
วารุณีนั่งรอเราเข้าเยี่ยมอยู่บนเตียงผู้ป่วย เธอบอกว่าอาการตอนนี้ทรงตัว น้ำหนักตัวลดลงประมาณ 6 กิโลกรัม ตอนนี้เหลือ 31 กิโลกรัมแล้ว ค่าคีโตนในปัสสาวะอยู่ที่ 4+ มีอาการปวดหัวตอนเช้า รู้สึกกระหายน้ำมาก ปวดท้องตลอดวัน มีอาการน้ำลายเหนียว เราสังเกตว่าวารุณีพูดเสียงเบามาก เธอบอกเป็นเพราะหูอื้อ เลยได้ยินเสียงตัวเองดังกว่าปกติ คิดว่าเป็นหนึ่งในผลข้างเคียงจากการภาวะขาดน้ำ
น้ำบอกว่า ตอนเช้าเขาก็เรียกจิตแพทย์เข้ามา คุยกับจิตแพทย์ว่ารู้สึกแย่ที่ค่าเลือดยังดีอยู่ คิดจะไม่กินยาประจำตัวเลยนะ อดทุกอย่างเลย แต่จิตแพทย์ห้ามไว้ เพราะถ้าไม่กินยาปรับขั้วอารมณ์มันจะนอนไม่ได้ คงจะคิดเรื่องนู้นเรื่องนี้ทั้งวัน แล้วก็จะเครียด อาการคงแย่ลงอีก ทั้งยังรู้สึกผิดทุกครั้งที่จิบน้ำ รู้สึกผิดกับตัวเอง รู้สึกผิดกับคนข้างนอกที่เคลื่อนไหวเพื่อเรา มันเป็นแบบนี้ไปแล้ว
ตอนนี้วารุณีจำกัดการจิบน้ำ อยู่เพียงวันละ 60 ซีซี ในตอนกินยาเท่านั้น และขอให้อัปเดตสถานการณ์ข้างนอกให้ฟัง เรานำรูปการเคลื่อนไหวต่าง ๆ ทั้งในสภาและนอกสภา รวมถึงบทสัมภาษณ์ของน้องสาววารุณี เมื่อน้ำเห็นรูปต่าง ๆ เธอก็น้ำตาคลอด้วยความตื้นตันใจ
วารุณีบอกขอบคุณ เธอไม่คิดเลยว่าสิ่งที่ทำมันจะมีอิมแพคมากขนาดนี้ ไม่คิดว่าจะมีคนสนใจเยอะ ก็รู้สึกดีใจ แม้ว่าสิ่งที่ทำไปอาจจะยังไม่สุดทาง แต่มันก็ไม่สูญเปล่า เพราะมันได้สร้างความตระหนักรู้ให้คนสนใจมาตรา 112 มากขึ้น อยากให้ทุกคนโฟกัสผู้ต้องขังทางการเมืองคนอื่นด้วย ไม่ใช่เฉพาะมาตรา 112 เท่านั้น ตอนนี้ยังมีผู้ต้องขังจากการชุมนุมคดีอื่น ๆ ที่รอกำลังใจจากคนข้างนอกอยู่”
อย่างไรก็ตาม จุดประสงค์ในการอดอาหารของ น้ำ วารุณี คือต้องการเรียกร้องสิทธิประกันตัว และเธอยังบอกด้วยว่า แม้การอดอาหารจะเสี่ยงต่อสุขภาพของเธอ แต่เธอยังอยากมีชีวิตอยู่ เพราะเมื่อเธอนึกถึงคนข้างหลังแล้ว ทำให้ต้องคิดเยอะมากขึ้น โดยทุกท่านสามารถอ่านบันทึกการเข้าเยี่ยม น้ำ วารุณี เพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน คลิกที่นี่