โหนกระแส คดี ‘หน่อง ท่าผา’ สลด ‘สารวัตรแบงค์’ โดนยิงดับเพราะไม่ยอมรับอำนาจเงิน
จับตารายการโหนกระแสวันนี้ มือปราบรวมตัว พูดคุยประเด็น หน่อง ท่าผา มือปืนยิงตำรวจทางหลวงดับ ลามชำแหละกฎหมายครอบครองปืน เทียบการทำงานตำรวจสมัยนี้กับในอดีต คาดกำนันหน่องกล้ากับตำรวจเพราะใช้เงินฟาด แต่สารวัตรแบงค์ไม่ยอมรับอำนาจเงินจึงถูกยิง
สืบเนื่องจากรณีข่าว “หน่อง ท่าผา” หรือ “นายธนัญชัย หมั่นมาก” ก่อเหตุยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจ “พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว” เสียชีวิต และเป็นเหตุให้ “พ.ต.ท.วศิน พันปี” ได้รับบาดเจ็บที่แขน โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นทีจังหวัดนครปฐม ณ บ้านของ “กำนันนก” หรือ “นายประวีณ จันทร์คล้าย”
ล่าสุดพบว่าวันนี้ (8 ก.ย. 66) เวลาประมาณ 05.45 น. หน่อง ท่าผา ถูกตำรวจวิสามัญเสียชีวิตที่จังหวัดกาญจนบุรี ด้านกำนันนกเจ้านายมือปืนถูกตั้งข้อหากระทำความผิด เป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นกระทำความผิดฐาน ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และพยายามฆ่าผู้อื่น แต่ปฏิเสธไม่มีส่วนรู้เห็น พร้อมให้ติดต่อกับทนายส่วนตัวโดยตรงเท่านั้น
งานนี้พูดคุยกันผ่านรายการ โหนกระแส ที่มี หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย เป็นพิธีกร ในหลากหลายประเด็นตั้งแต่ตำรวจร่วมงานเลี้ยงประจำเดือนกับผู้มีอิทธิพลในท้องถิ่น เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็นับว่าอุกอาจมาก แถมหลังเกิดเหตุมีการทำลายหลักฐาน ทั้งภาพกล้องวงจรปิดหาย ล้างคราบเลือด รวมถึงสภาพสถานที่เกิดเหตุที่ถูกปรับเปลี่ยนไปต่างจากตอนเกิดเหตุ
ด้าน ท่านเรวัช พล.ต.ท.เรวัช กลิ่นเกษร อดีตผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ยิ่งคำพูดแรงตั้งแต่ต้นรายการ ว่าการกระทำของหน่องเรียกว่า “จิกกบาลยิง” พร้อมตั้งคำถามถึงตำรวจที่มาร่วมงานอีก 20 กว่านายทำอะไรกันอยู่ “ใจเท่ามด” หากไม่มีปืนก็ต้องเข้าชาร์จ ต้องทำหน้าที่ของตำรวจ ลั่นแรงว่า “ถ้าเป็นตนจะยิงมือปืนให้ตายตรงนั้นเลย”
รองแต้ม พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวเสริมด้วยความเดือดดาลเช่นเดียวกันว่า “ถ้าเป็นเมื่อก่อนไม่เอาไว้ เหยียบย่ำศักดิ์ศรีเกินไป ยิ่งทำกับตำรวจน้ำดี เป็นตนจะลงโทษตำรวจอีก 20 นายอย่างหนัก ตั้งคำถามถึงตำรวจในงานเลี้ยง เหตุใดเป็นตำรวจถึงไม่พกปืน”
สำหรับในประเด็นนี้ พล.ต.ท.เรวัช และ พล.ต.ต.วิชัย มองว่ากำนันน่าจะมีอำนาจเงินมากกว่า เพราะดูจากอายุแล้วยังไม่แก่มากยังไม่น่าสั่งสมบารมีได้ขนาดนั้น แต่กลับสามารถทำให้ตำรวจเกรงใจได้ พร้อมวิพากษ์ว่าตำรวจที่เข้าร่วมงานเลี้ยงก็น่าจะมีผลประโยชน์ด้วยกันทั้งหมด และชนวนเหตุของเรื่องนี้อาจไม่ใช่แค่การขอย้ายตำแหน่งโดยมิชอบเท่านั้น
“มีคนถามผมว่า เราจะแก้ปัญหานี้ยังไง ผมบอกว่า ไม่ต้องทำx่าอะไรหรอก มึงก็แค่ไม่รับเงินมัน มันก็ไม่กล้ากับมึงแล้ว ที่มันกดขี่กดหัวมึงได้ เพราะมึงไปรับเงินเขาก่อน แล้วไอ้น้องที่เสียชีวิตเนี่ย มันเพิ่งไปใหม่ มันไม่รับผลประโยชน์ ผมไปสืบมาแล้ว มันไม่ใช่เรื่องขอตำแหน่งอย่างเดียว มันเรื่องผลประโยชน์ ทำรถบรรทุกไง” พล.ต.ต.วิชัยกล่าวตอนหนึ่งของรายการ
ส่วนเรื่องการวิสามัญคนร้าย มุมมองของ พล.ต.ต.วิชัย เห็นว่ามีเหตุให้เชื่อได้ว่าเกิดการต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจจริง คือมีการหลบหนีไปพร้อมอาวุธปืน ซึ่งแค่นั้นก็เพียงพอให้ตำรวจทำการวิสามัญแล้ว ประกอบกับการก่อเหตุอุกฉกรรจ์ที่สังคมกำลังจับตาดูอยู่ทั่วประเทศ ทำให้ตำรวจต้องดำเนินการขั้นเด็ดขาดในเรื่องนี้
ในส่วนของสำนวนคดี ปรเมศวร์ อินทรชุมนุม อัยการอาวุโส สำนักงานการสอบสวน มองอีกมุมว่าถ้ามือปืนยังมีชีวิตอยู่ อาจทำให้กำนันนกรอดคุกสูงกว่า เนื่องจากอาจให้การรับสารภาพผิดเพียงคนเดียว แต่การที่กล้องวงจรปิดหาย แถมกำนันก็หลบหนีด้วย แทนที่จะจับกุมมือปืนเนื่องจากเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ถือว่าละเว้นหน้าที่ ด้วยเหตุนี้คาดว่าโอกาสรอดของคุกของกำนันนกนั้นต่ำมาก
พร้อมกับตั้งข้อสังเกตว่าการโยกย้ายหลักฐานในที่เกิดเหตุ หรือการทำลายหลักฐานต่าง ๆ ทันทีที่มือปืนก่อเหตุนั้น หากไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งอนุมานได้ว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยกันเองเป็นคนลงมือกระทำ ก็ไม่น่าจะมีใครที่คิดแก้สถานการณ์นี้ได้ ดังนั้นจึงปักใจเชื่อว่าผู้มี่ส่วนเกี่ยวข้องในการทำลายหลักฐานคือเพื่อนตำรวจด้วยกัน
ทางออกของกฎหมายครอบครองอาวุธปืน จะสิ้นสุดที่ตรงไหน?
สำหรับเรื่องการก่อเหตุยิงตำรวจท่ามกลางตำรวจอีก 20 กว่านายนั้น เป็นการนำพาเรื่องราวไปสู่การตั้งคำถามถึงกฎหมายครอบครองอาวุธปืน โดยทาง พล.ต.ต.วิชัย ได้ฝากกรมการปกครองว่าอยากให้ป้องกันเรื่องปืนเถื่อนก่อน เห็นด้วยว่ามีปืนไว้ปกป้องชีวิตและทรัพย์สินได้ แต่ไม่ควรจะสะสมไว้หลายกระบอก ต้องออกกฎควบคุม ฝึกการใช้ ให้มีการประเมินว่าจะสามารถครอบครองปืนได้โดยไม่ก่ออันตรายแก่บุคคลอื่น
อย่างไรก็ดี ในส่วนประเด็นที่เจ้าหน้าที่รัฐมีปืนในครอบครองนั้น สมชัย เลิศประสิทธิพันธ์ รองอธิบดีกรมการปกครอง กล่าวว่าแนวทางแก้ปัญหา จะมีการตรวจสอบคุณสมบัติมากขึ้น นอกจากนี้กรมการปกครองมีการสร้างศูนย์สำหรับจัดเก็บหัวกระสุนปืน 10 ศูนย์ทั่วประเทศ
แต่มีข้อจำกัดคือเก็บได้แค่อาวุธปืนที่เข้ามาใหม่ ส่วนประเด็นอุปกรณ์เทียมอาวุธปืนต้องมีการแก้กฎหมาย เนื่องด้วยช่องโหว่ที่ทำให้ไม่สามารถเอาผิด และเรื่องเรียกอาวุธปืนเถื่อนอยู่ในขั้นตอนพิจารณาของสำนักงานกฤษฎีกา ซึ่งก็จะได้ทราบผลกันในเร็ว ๆ นี้อย่างแน่นอน
ต่อมา พล.ต.ต.วิชัย เสนอว่า ต้องเรียกคนที่ครอบครองอาวุธปืนทั้งหมดเข้ามารายงานตัว ก่อนที่ทาง พล.ต.ท.เรวัช จะแนะนำให้เพิกถอนใบอนุญาตครอบครองอาวุธปืนก่อน เนื่องจากกำนันนกขาดคุณสมบัติในการเป็นเจ้าหน้าที่รัฐไปแล้ว แม้ยังไม่ถูกตัดสินว่ากระทำความผิดหรือไม่สำหรับเหตุการณ์ยิงตำรวจนี้
สุดท้าย หนุ่ม กรรชัย ฝากคำถามที่ทางบ้านกังวลเรื่องอายุงานของกำนันและผู้ใหญ่บ้าน ที่ก่อนนี้ครบวาระเพียง 4 ปี แต่ปัจจุบันให้เกษียณได้เมื่ออายุ 60 ปี อาจทำให้ผู้มาดำรงตำแหน่งฉกฉวยโอกาสนี้ในการสั่งสมอำนาจหรือไม่
ทางฝ่าย สมชัย ได้ชี้แจงถึงแนวทางแก้ปัญหานี้ว่าจะมีการประเมินทุก 5 ปีอยู่แล้ว โดยในตอนนี้เคสของกำนันนกคือให้พักการปฏิบัติหน้าที่ไปก่อน เนื่องจากอาจเข้าไปวุ่นวายกับคดีความได้ แต่ยังไม่ให้พ้นจากตำแหน่งเพราะยังไม่มีการตัดสินชี้ขาดว่าผิดจริง ก่อนมือปราบทั้ง 2 รวมถึงอัยการอาวุโสจะเห็นพ้องตรงกันว่ากำนันนกไม่มีทางรอดคุกแน่นอน