‘ใหม่ ดาวิกา’ เปิดใจถึงชีวิตรัก วางแพลนแต่งงาน จนอยากมีครอบครัวแล้ว
แฟนคลับลุ้นข่าวดี! ‘ใหม่ ดาวิกา’ เปิดใจชีวิตรักผ่านรายการ WOODY FM เผยชัด ‘เต๋อ ฉันทวิชช์’ คือคนที่ใช่ ตอนนี้วางแพลนไว้แล้ว อยากมีลูกมาก
นับเป็นหนึ่งคู่รักของวงการบันเทิงที่คบหาดูใจกันมาอย่างยาวนาน สำหรับนางเอกสาว ‘ใหม่ ดาวิกา โฮร์เน่’ และนักแสดงหนุ่มสุดฮา ‘เต๋อ ฉันทวิชช์’ ที่ทั้งคู่มักจะออกมาเสิร์ฟความหวาน ซัพพอร์ตกันออกสื่อ จนแฟน ๆ ถึงกับฟิน กรี๊ดกร๊าดกันใหญ่ แถมบางโมเมนต์คนไทยทั้งประเทศถึงกับอิจฉา ไม่อยากโสดแล้ว
ล่าสุด ใหม่ ดาวิกา ได้มีโอกาสไปเป็นแขกรับเชิญในรายการ WOODY FM ที่มี วู้ดดี้ วุฒิธร เป็นพิธีกร ซึ่งในรายการ สาวใหม่ ก็ได้ออกมาเผยความในใจถึงเรื่องราวต่าง ๆ ที่เธอต้องพบเจอ และในช่วงหนึ่งเธอก็ได้เปิดเผยถึงเรื่องความรัก พร้อมแพลนในอนาคตที่แฟน ๆ ต้องกรี๊ด
10 ปีที่ผ่านมาเชื่อว่าคุณโตขึ้นมาก การที่ต้องเจอดราม่าและยังต้องดูดีตลอดเวลาจนถึงสามารถเปิดใจเรื่องแฟนได้ การโตขึ้นเรื่อย ๆ ในวันนี้คุณรู้สึกว่าเริ่มเบาขึ้นมากกว่าแต่ก่อนขนาดไหน?
“เยอะมาก 100% แล้วก็เริ่มรู้จักตัวเอง ใช้เวลาในการรู้จักตัวเอง”
ดูจากพลังงานของคุณ จากสายตาแววตาของคุณ เหมือนคนละคน คนที่พี่เจอในวันแรก?
“คือหนูไม่รู้ว่าต้องพูดอะไร พูดอะไรไปถูกไหม คือมันมีภาพที่เราจะต้อง ฉันต้องเป็นนางเอก ทุกอย่างมันจะต้องถูกกำหนดให้เป็นอย่างนี้ แต่ขอบคุณโลกปัจจุบันมากๆ ที่เขาทำให้พวกเราเป็นคนมากขึ้น ให้ทุกคนรู้ว่าเขาแยกแยะออกจริงๆ อย่างทุกคนมีแฟน ก็มีกันอย่างเปิดเผย ใช้ชีวิตอย่างเปิดเผย ไม่มีอะไรที่ต้องมาตามธรรมเนียมที่ต้องเรียบร้อย ผ้าพับไว้ อะไรอย่างนี้ ใหม่ทำงานในวงการปีหน้าจะครบปี 20 แล้วค่ะ”
มีอะไรในความเป็นดาราที่เรารู้สึกว่ามันเปลี่ยนไป?
“อย่างแรกเลยคนเข้ามาขอถ่ายรูป ใหม่โชคดีที่เราไม่เคยเบื่อ แล้วก็รู้สึกว่าอยู่ในยุคที่เราต้องยิ้ม แต่เรายิ้มจริง ๆ นะ คือเราอยากเจอเขาจริง ๆ แล้วก็รู้สึกว่าอยู่ในช่วงชีวิตที่การมีคนที่ยังชื่นชอบเราอยู่ถือเป็นความโชคดีเลย ถ้าเด็กรุ่นใหม่โดนคนรุมเยอะ ๆ เราจะบอกว่าคุณต้องภูมิใจนะ เพราะวันหนึ่งพวกเขาจะหายไป”
“เราก็บอกน้อง ๆ ที่รู้จักว่าดีแล้วที่มีคนรักอย่างนี้รักษาไว้ บางทีเราไม่ต้องไปเหนื่อยมากเลยไม่อยากถ่ายรูปหรืออะไรอย่างนี้ เรายิ้มไว้ก่อน สำหรับหนูรู้สึกว่าเราจะไม่มองตาคนเยอะขึ้น ไม่มองตาคนมากเท่าเดิม เวลาเราไปซุปเปอร์มาร์เก็ต จะไม่ค่อยคิดเยอะแล้วค่ะ คือถ้าใครจะมาขอถ่ายรูป เขาเข้ามาเราก็ดีใจ ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ชื่อเสียงของเรามันทำให้คนเข้ามาเราก็แค่ซาบซึ้งมัน”
คุณก็คงเคยผ่านเรื่องยากๆ แต่พอโตขึ้นอะไรหลายๆอย่างก็สามารถวางเป็นและง่ายขึ้น ช่วยเล่าถึงปรากฎการณ์เปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆได้ไหมถึงดราม่าที่เคยเจอและการก้าวผ่าน ?
“เวลาใหม่เห็นข่าวดารา ไม่ว่าจะยังไง เราไม่รู้ความจริงว่ามันจริงหรือผิดแต่ว่าใหม่เชียร์ตลอดเลย ใหม่ให้กำลังใจคนในวงการด้วยกันนะ แล้วบางทีใหม่ส่งข้อความไปด้วย บางคนโดนโกงโดนอะไรแบบนี้ เราไม่รู้นะ แต่เรารู้สึกว่าแค่อยากจะส่งไปให้กำลังใจ ตอนที่ใหม่โดนดราม่าก็มีเหมือนกันที่เป็นพี่ ๆ ที่ส่งข้อความเข้ามา อันแรกเลยรู้สึกเป็นกำลังใจให้ทุกคนจริงๆ มันไม่มีอะไรที่เรียกว่าง่ายเลย ต่อให้คุณจะโดนมา 10-30 ครั้ง สำหรับใหม่นะไม่มีครั้งไหนรับมือได้ดีเลย ครั้งแรกมันจะสติแตกก่อน จะฟุ้งไปหมด”
“ดังนั้นการรับมือของใหม่ในวัยนี้ก็คือให้เวลา แล้วก็ยอมรับอารมณ์ ทุกอารมณ์ที่เกิดขึ้น ใหม่โตมากับความรู้สึกว่าอย่าแสดงอารมณ์เหล่านี้ เป็นสิ่งที่ผิด เช่น โกรธ เกลี่ยด อิจฉา หรือแม้กระทั่ง เสียใจ ร้องไห้ รู้สึกว่าสิ่งนี้มันไม่ควรเกิดขึ้นกับเรา เราควรจะมีแค่อารมณ์เดียวคืออารมณ์มีความสุขแล้วก็ยิ้ม แล้วเราควรจะเป็นคนที่ทุกคนต้องรักเรา และพอเราเริ่มโตขึ้นมารู้สึกว่า พอใหม่ไปเริ่มเข้ารับการรักษา อารมณ์เหล่านี้ที่ใหม่พูดมาตอนแรกมันไม่ใช่สิ่งที่ผิดทุกคนมีหมดแค่ต้องยอมรับว่าโอเค ณ โมเมนต์นี้โกรธ สบสน ร้องไห้ มันไม่ใช่เรื่องผิด ยอมรับมันให้ได้นั่นคือตัวของคุณเองแล้วก็ค่อย ๆ จัดการไปทีละเรื่อง ๆ”
เรื่องที่ท้าทายที่สุดในชีวิต และคุณก้าวผ่านมายังไง?
“ที่จริงก็น่าจะเป็นเรื่องอุปสรรคในชีวิตทุกอย่าง ถ้ากระทบกระเทือนจิตใจจริงๆ ก็น่าจะเป็นทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับการงาน เพราะว่าเหมือนเราโตมา สิ่งที่สำคัญที่สุดที่จะเลี้ยงเรา เลี้ยงครอบครัวเราได้ก็น่าจะเป็นเรื่องของเงินเนอะ ดังนั้นการงานก็สำคัญมาก เราก็อยากทำให้มันค่อนข้างมั่นคง อะไรที่มากระทบกับงานเรา แล้วพอเราเป็นดาราสิ่งที่กระทบที่สุดก็น่าจะเป็นเรื่องข่าว เรื่องกระแส จะเป็นสิ่งหนึ่งที่เราค่อนข้างกังวลว่ามันจะทำให้เงินและงานเราน้อยลงไหม เพราะว่าเราไมใช่ดูแลตัวเองคนเดียวไงเราต้องดูแลทั้งครอบครัว”
แต่คุณแม่ก็ยังไม่ยอมหยุดทำงานเลย?
“คือแม่หนูเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว พ่อแม่แยกกันตั้งแต่เราอายุ 10 ขวบ ดังนั้นหนูก็จะอยู่กับแม่และก็มีคุณน้าที่เลี้ยงหนูมาตั้งแต่เด็ก ๆ เป็นเหมือนแม่ ทุกวันนี้หนูก็นอนกับน้า ตั้งแต่เกิดจนอายุ 32 ปี ก็ยังนอนกับคุณน้าทุกคืน ส่วนแม่เขาก็เป็นผู้หญิงทำงาน เขาจะทำงานอย่างเดียวเลย”
เขาบอกว่าความสัมพันธ์ที่มันใช่มาก จะไม่มีความรู้สึกถึงน้ำบ่อหน้า ตอนนี้รู้สึกว่ามีน้ำบ่อหน้าไหม?
“ไม่มีแล้วค่ะ”
คุณเป็นคนแบบไหนอยู่กับปัจจุบันหรือเป็นคนคิดถึงอนาคต ?
“หนูคิดถึงอนาคตตลอดเวลาเลยค่ะพี่วู้ดดี้ คิดว่าจะแต่งงานที่ไหน ใส่ชุดอะไร คือคิดไว้หมดเลยค่ะ แต่ว่าอนาคตของหนูเนี่ยเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลาค่ะ ยืดหยุ่นมาก ๆ เปลี่ยนได้หมดค่ะ จะมีลูกก็ได้ไม่มีลูกก็ได้ คิดได้หมดเลยแล้วก็ชอบด้วยค่ะ อยากมีครอบครัวมาก ๆ”
พี่รู้สึกว่า เต๋อ ฉันททวิชช์ ก็ยังมีมุมที่คุณยังไม่เห็นใช่ไหม?
“ใช่ค่ะ อย่างหนึ่งเลยก็คือสบายใจ เขาเป็นคู่ที่สมบูรณ์แบบกับหนูมาก ๆ พอดีทุกอย่าง”
อะไรที่เขามีแล้วคุณไม่มี?
“ความช้ามั้งคะ หนูเร็วเขาช้ามันก็เลยบาลานซ์ ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีสำหรับหนูมาก ๆ หนูต้องการอันนั้นในชีวิตมาก เขามาเหมือนช่วยชีวิตเหมือนกัน เป็นหนึ่งคนที่เหมือนช่วยในวันที่ทุกอย่างมันเร็วไปหมดแล้วเราหลงทางมาก ๆ ไม่มีคนที่จะคอยปรึกษา คอยระบาย เขาเข้ามาถูกจังหวะพอดี ก็เลยโดนไปเต็ม ๆ ฟังไปให้หมด เขาเป็นนักฟังที่ดีมาก”