“หนุ่ม กรรชัย” เดินหน้าฟ้องอาจารย์ ม.ดัง หลังถูกด่านานนับปี ไม่รับคำขอโทษ
เดินหน้าต่อ! หนุ่ม กรรชัย ยืนยัน ลุยฟ้องอาจารย์มหาวิทยาลัยดัง หลังถูกเอาไปโพสต์แขวน แถมหมิ่นว่าเป็นมาเฟีย ยืนยันไม่รับคำขอโทษ
ยังคงเป็นประเด็นเดือดที่ต่อสู้กันอยู่ในขั้นตอนของกฎหมาย สำหรับข้อพิพาทระหว่างพิธีกรดัง “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” และอาจารย์มหาวิทยาชื่อดังท่านหนึ่ง เหตุเพราะก่อนหน้านี้ หนุ่ม กรรชัย โดยอีกฝ่ายโพสต์ด่าทอนานแรมปี จนต้องฟ้องหมิ่นประมาทเพราะถูกกล่าวหาว่าเป็นมาเฟีย ล่าสุดหนุ่มเปิดใจ แค่คำขอโทษมันไม่จบ หากมองว่าตนใส่ร้ายให้ฟ้องกลับมาได้เลย
เมื่อวานนี้ (5 ก.ย. 66) หนุ่ม กรรรชัย ได้ออกมาพูดถึงข่าวการยื่นฟ้องคู่กรณีว่า ตลอดเวลาเกือบปีที่ผ่านมา ตนไม่เคยตอบโต้หรือให้ร้ายพาดพิงคนอื่นเลย เพราะทุกอย่างควรเป็นไปตามกฎหมาย ซึ่งตนได้ยื่นต่อศาลและแจ้งความแล้ว
สำหรับประเด็นที่ออกมาโพสต์ครั้งก่อน หนุ่มยืนยันไม่ได้จะปั่นกระแส โดยตนแค่อยากแจ้งให้ทุกคนทราบว่ามีเรื่องนี้เกิดขึ้น เพราะที่ผ่านมาไม่เคยได้พูดเลย โดยตอนนี้ศาลได้รับฟ้องแล้ว ซึ่งฟ้องไปทั้งหมด 1 คดี และแจ้งความไปอีก 2 คดี
ส่วนจุดที่ทำให้หนุ่ม กรรชัย ทนไม่ไหว เจ้าตัวได้ระบุว่า “พี่รู้สึกว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา พี่ไม่เคยทำร้ายใคร การที่จะมาบอกว่าพี่เองเนี่ยเป็นมาเฟียโซเชียลแล้วชักจูงสังคมไปในทางที่ไม่ดี เหมือนว่าพี่หัวหน้าตัวตึง มีลูกน้องเป็นเพจสายดาร์ก
หรือเอารูปพี่ไปใส่ในเพจของท่านแล้วบอกว่าพี่อยู่ในกลุ่มนั้น ซึ่งข้อเท็จจริงมันไม่ใช่ พี่เชื่อว่าคนที่ติดตามพี่จริง ๆ จะรู้ว่าพี่เป็นคนยังไง แต่อาจจะมีอีกหลาย ๆ คนที่ไม่ทราบและอาจหลงเชื่อ”
ทั้งนี้หนุ่ม กรรชัย ได้เปิดเผยต่อว่า ตนมีเพจที่ผู้ติดตามเกือบ 3 ล้านคน แต่ไม่เคยเอาไปโพสต์ทำร้ายใคร ส่วนในเรื่องการฟ้อง หนุ่มระบุว่าไม่ได้เรียกร้องค่าเสียหาย แค่อยากทำให้มันถูกต้อง และต้องการให้เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์ต่อใครหลายคน ในการแยกแยะเรื่องการวิพากษ์วิจารณ์และหมิ่นประมาทที่มีเส้นบาง ๆ กั้นเอาไว้
นอกจากนี้หนุ่มยังได้บอกต่อว่า สุดท้ายหากมองว่าตนฟ้องโดยไม่มีมูล หรือดูรังแกกลั่นแกล้งอีกฝ่าย เขาสามารถฟ้องกลับได้เลย ซึ่งหนุ่มได้บอกอีกว่าตนไม่เคยฟ้องใคร มีแค่คดีมรดกเมื่อสิบกว่าปีก่อนเท่านั้น
เมื่อโดนถามว่าได้เคลียร์กันต่อหน้าหรือไม่ หนุ่มเผยว่าไม่จำเป็นต้องเคลียร์เพราะเป็นเหมือนการเปิดโอกาส โดยหนุ่มเล่าว่าตนได้รับการติดต่อจากคนรอบข้างหลายครั้งว่า คู่กรณีอยากขอโทษและจะโทรศัพท์มา ทว่าสุดท้ายก็ไม่โทรมา แต่ไปร้องที่ช่อง 3 ว่าตนไม่มีจรรยาบรรณ ทำให้รู้สึกว่าแปลกเลยตัดสินใจออกมาปกป้องสิทธิ์ของตัวเอง.