‘สุริยะ’ เผย ไม่เสนอนโยบาย รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย รออีก 2 ปี มองว่าไม่เร่งด่วน
“สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” รมว.คมนาคม เผย จะไม่เสนอนโยบายรถไฟฟ้า กทม. 20 บาทตลอดสายต่อรัฐสภา เหตุมองว่าไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน อาจต้องรออีก 2 ปี
เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2566 นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ชี้แจ้งเรื่องนโยบายรถไฟฟ้า กทม. 20 บาทตลอดสายเพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน ว่า ในการแถลงต่อรัฐสภาในสัปดาห์หน้าจะไม่มีการเสนอนโยบายรถไฟฟ้า กทม. 20 บาทตลอดสาย เนื่องจากเป็นรายละเอียดปลีกย่อย ตั้งใจทำแน่นอน แต่ตอนนี้มีนโยบายอื่นใหญ่และสำคัญกว่า
‘ตอนนี้นโยบายของทางพรรคเพื่อไทย เรื่องรถไฟฟ้า กทม. 20 บาท ไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน แม้ว่าต้องการทำ แต่มีปัญหาเรื่องนโยบายอื่น ๆ ที่มีความสำคัญมากกว่า ต้องนำเงินไปใช้ตรงนั้นก่อน น่าจะไม่เกิน 2 ปี เราจะผลักดันเพื่อนโยบายนี้ให้เป็นรูปธรรมให้ได้’
นายสุริยะ กล่าวถึงเหตุผลที่จะไม่แถลงนโยบายนี้ต่อรัฐสภา ว่า
‘คำแถลงนโยบายจะพูดถึงระบบโลจิสติกส์ ทำเพื่อประชาชน นโยบายนี้ก็มีส่วนอยู่เพราะเรามีความตั้งใจที่จะทำ แต่คงไม่ได้ไปเขียนนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท เพราะเป็นส่วนย่อยของนโยบายใหญ่’
อย่างไรก็ตาม นายสุริยะชี้ว่าปัญหาที่ยังไม่สามารถทำได้ในตอนนี้เพราะมีหลายหน่วยงานที่ต้องเจรจา และรถไฟฟ้ามีหลายสี แต่ละสีมีระยะสัมปทานแตกต่างกัน แต่ละขั้นตอนต้องใช้เวลา เมื่อเราจะกำหนดราคา 20 บาทตลอดสาย ผู้ประกอบการต้องมีระบบคอมพิวเตอร์ เพื่อคำนวณค่าใช้จ่ายในระบบตั๋วร่วม กรณีนี้ทาง รฟม.มีอยู่แล้ว แต่บีทีเอสไม่มี ฉะนั้นก็ต้องเจรจากับบีทีเอสให้ติดตั้งระบบดังกล่าว งบประมาณสูงถึงพันล้านบาท
หากถามว่านโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายจะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ นายสุริยะกล่าวว่า ‘จากการชี้แจงและคำพูดของผมก็เป็นส่วนหนึ่งของคำสัญญา’ เป็นเครื่องยืนยันว่าคำชี้แจงของนายสุริยะเปรียบเสมือนคำสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชน
นอกจากนี้นายสุริยะได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับโครงการอื่นที่กระทรวงคมนาคมกำลังเตรียมสานต่อว่า
‘กระทรวงคมนาคม พร้อมส่งเสริมเรื่องการลดต้นทุนโลจิสติกส์เป็นนโยบายหลัก ๆ เนื่องจากปัจจุบันประเทศไทยมีต้นทุนการขนส่งสินค้าที่สูงกว่าประเทศอื่นมาก ดังนั้นนโยบายของรัฐบาลจึงต้องเน้นเรื่องการลงทุนระบบรางให้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อจะช่วยลดต้นทุน ไม่ให้กระทบต่อราคาสินค้าในปัจจุบัน’
ทั้งนี้มีการยืนยันว่า นายกรัฐมนตรีเตรียมผลักดันโครงการลงทุนทั้งหมดที่สามารถทำได้ทันที เพื่อความสะดวกสบายของประชาชนโดยเร็วที่สุด ส่วนโครงการที่ยังติดขัดอยู่ก็ขอให้รอก่อน ต้องเจรจาและจัดการงบประมาณในแต่ละโครงการอย่างรอบคอบ อีกทั้งย้ำว่า กระทรวงคมนาคมจะช่วยเร่งผลักดันเงินลงทุนจากรัฐวิสาหกิจในช่วงแรก และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในทุก ๆ ทาง