เวลา 16.00 น.วันที่ 5 มิถุนายน 61ที่สถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองกระบี่ จ.กระบี่ กลุ่มผู้เสียหาย ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย กว่า 20 คน เดินทางเข้าร้องทุกข์กับ พ.ต.ท.ชาติชาย นาคปักษี สว.(สอบสวน) สภ.เมืองกระบี่ กรณีถูกโกงแชร์ กว่า 50 ราย
มูลค่าความเสียหายกว่า 10 ล้านบาท น.ส.พิมพา(สงวนนามสกุล) ชาวจังหวัดเชียงราย อายุ 31 ปี อาชีพ พนักงานร้านอาหารแห่งหนึ่ง และเป็นหนึ่งในผู้เสียหาย
กล่าวว่า วันนี้เดินทางมาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีกับ นางอ่อนภัก หรือเจ๊อร (สงวนนามสกุล) มีอาชีพค้าขายเสื้อผ้า อายุ ประมาณ 35 ปี เป็นมือท้าวแชร์ เนื่องจากตนเสียหายประมาณ 300,000 บาท โดยเริ่มรู้จัก นางอร หรือเจ้อร มาประมาณกว่า 10 ปี ก่อนที่จะมีการเริ่มเล่นแชร์เพื่อเป็นทุนในการตั้งตัว และระยะหลังมีการขยายคนที่ไม่ใช่พนักงานร่วมด้วย และเมื่อประมาณ 2 เดือนที่ผ่านมา เจ๊อร เริ่มมีปัญหาทางการเงิน และได้มาหยิมยืมเงินจากตน โดยบอกว่าจะให้ดอกสูง
ด้วยความหลงเชื่อทั้งที่ตนไม่เงินสด ก็ได้นำทองไปขาย และกลับไปขายควายที่บ้านไป 5 ตัว นำเงินที่ได้ไปให้นางอรหรือเจ๊อร และในวันนี้ถึงคิวที่ตนจะได้แชร์ แต่ปรากฏว่า เท้าแชร์ หายหน้าไปติดต่อไม่ได้
นอกจากเงินแชร์ที่ตนลงไว้ และเงินที่เจ้อร หยิบยืมไป ก็หายไปด้วย ตอนนี้เดือดร้อนมาก เพราะหวังว่าหลังจากที่ได้เงินค่าแชร์และค่าติด ก็จะกลับไปตั้งหลักสร้างสวนส้มที่บ้านเกิด ด้านน.ส.ทิพย์วัล(สงวนนามสกุล) ผู้เสียหายอีกคน กล่าวต่อว่า ตนทำงานอยู่ที่ผับชื่อแห่งหนึ่งในเมืองกระบี่ และทำงานแห่งเดียวกับแฟนเจ้อร และเล่นแชร์กันมานาน ทั้งรายวัน ราย 10 วัน ราย 20 วัน จ่ายแต่ละครั้งไม่เท่ากัน แต่รวมแล้วเดือนไม่ต่ำกว่า 3-4 หมื่นบาท นอกจากตนแล้วเพื่อนในร้านตั้งแต่เจ้าของร้าน และพนักงานเกือบทุกคนกว่า 20 คน ร่วมเล่นแชร์กับเจ๊อร ทั้งหมด เนื่องจากเชื่อใจ และเล่นกันมานานหลายปี ไม่เคยมีปัญหา แต่ 2 เดือนที่ผ่านมา เจ๊อร เริ่มมีปัญหาทางการเงิน เที่ยวหยิบยืม ลูกแชร์ไปทั่ว ก่อนที่จะหายตัวไป พร้อมแฟนหนุ่ม เสียเงินไปกว่า 350,000 บาท ตั้งใจว่าได้เงินก้อนนี้มาก็จะเอาไปดาวน์บ้าน แต่ความหวังก็หายไปหลังจากติดต่อเท้าแชร์ไม่ได้ ทั้งทางโทรศัพท์และปิดเฟสบุคหนี วันนี้ จึงรวมตัวกันมาแจ้งความให้ดำเนินคดีฉ้อโกงกับนางอ่อนภัก เพราะสมาชิก กว่า 50
คน เสียหายคิดเป็นเงินประมาณ 10 ล้านบาท
ด้าน พ.ต.ท.ชาติชาย เปิดเผยว่า เบื้องต้นเนื่องจากมีผู้เสียหายจำนวนมาก และต่างวาระกัน ต้องนำเรียนผู้บังคับบัญชา
จึงให้ลงบันทึกข้อมูลไว้ก่อน และให้ผู้เสียหายทั้งหมดทำการรวบรวมเอกสารหลักฐาน
เพื่อเตรียมไว้ให้พนักงานสอบสวนเรียกทยอยสอบปากคำในภายหลัง เพื่อที่จะได้ออกหมายเรียก นางอรภัก หรือเจ้อร
เข้าให้ปากคำต่อไป หากไม่มาก็จะออกหมายจับ ข้อหา พรบ.แชร์ ต่อไป
