อย่าเข้าใจผิด เกณฑ์ทหารแบบสมัครใจ 67 พรรคเพื่อไทย ไม่ใช่ยกเลิกเกณฑ์ทหาร
ยกเลิกเกณฑ์ทหาร เป็นไปได้ไหม ดูรายละเอียด เกณฑ์ทหารแบบสมัครใจ ของสุทิน คลังแสง ต่างยังไงกับแบบเดิม ตามกฎหมาย พ.ร.บ. รับราชการทหาร พ.ศ. 2497 ซึ่งกำหนดชายไทยทุกคนต้องเข้ารับราชการทหาร หลังกฏหมายใหม่เตรียมเริ่มใช้จริงตามคาดการณ์ เมษายน 2567
กระแสการเปลี่ยนการเกณฑ์ทหารเป็นรูปแบบสมัครใจ ที่ล่าสุด แม้รายละเอียดจะยังไม่ชัดเจนเท่าใดนัก แต่จากกรายงานนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีพร้อมด้วยนายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมร่วมรับประทานอาหารกลางวันกับผู้นำเหล่าทัพ โดยมีรายงานว่า การพบปะครั้งนี้ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง โดยนายเศรษฐาขอให้ ผบ.เหล่าทัพ และกองทัพ จับมือไปด้วยกันและร่วมกันสนับสนุนรัฐบาล-เดินหน้าพัฒนาประเทศ
เกณฑ์ทหารแบบสมัครใจ เริ่มเม.ย.ปี 2567 เตรียม ยกเครื่องงานประชาสัมพันธ์กองทัพ เดินสายรับฟังความคิดเห็น
อ้างอิงจากการให้สัมภาษณ์ของนายสุทิน คลังแสง เมื่อวันที่ 3 ก.ย.66 ที่ผ่านมา ภายหลังพูดคุยกับว่าที่ผู้บัญชาการเหล่าทัพเพื่อสอบถามปัญหาและแลกเปลี่ยนความต้องการของแต่ละฝ่าย ซึ่งทางกองทัพมีความเห็นไปในทิศทางเดียวกับรัฐบาล ที่กองทัพเองก็ต้องหารปรับปรุงองค์กรมาโดยตลอด ไม่ขัดข้องอะไรและยินดีปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาล
ส่วนประเด็นที่จะเห็นผลเป็นรูปธรรมได้เมื่อไหร่ นายสุทิน ยืนยัน จะเห็นผลเป็นรูปธรรมในทันที โดยยกตัวอย่าง เช่น การเปลี่ยนระบบการเกณฑ์ทหารเป็นรูปแบบสมัครใจในเดือนเมษายน ปี 2567 ที่จะมีการเกณฑ์ทหารอีกครั้ง
ระบบ “เกณฑ์ทหารแบบสมัครใจ”ไม่ใช่ ยกเลิกเกณฑ์ทหาร 67
มาถึงตรงนี้ เพื่อเป็นการอธิบายถึงแนวทางการปรับปรุง แก้ไขกฏระเบียบ ตลอดจนข้อบังคับต่าง ๆ ตกลงแล้ว นโยบายของรัฐบาลใหม่เกี่ยวกับ การเกณฑ์ทหาร มีอะไรที่เหมือนและแตกต่างไปจากการเกณฑ์ทหารแบบเก่าบ้าง ?
เริ่มจากการเกณฑ์ทหารแบบเก่า ตามกฎหมาย พ.ร.บ. รับราชการทหาร พ.ศ. 2497 ซึ่งกำหนดให้ชายไทยต้องเข้ารับราชการทหารทุกคน โดยชายไทยทุกคนต้องเข้าใจหน้าที่การลงบัญชีทหารกองเกิน การรับหมายเรียก การตรวจเลือกคนเข้ากองประจำการ การเรียกพล การระดมพล และการปลดชายไทย เป็นต้น
รายละเอียดเบื้องต้น เข้ารับการคัดเลือกทหารแบบสมัครใจ มีอะไรน่าสนใจบ้าง ?
สำหรับรายละเอียดของการเกณฑ์ทหารด้วยรูปแบบความสมัครใจแบบใหม่ของนายสุทิน คลังแสง ในส่วนของฉากทัศน์ที่จะถูกเปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจน คือ ในเดือนเม.ย.2567 จะเห็นอัตราเกณฑ์ทหารที่ลดลงจากเดิมอย่างแน่นอน และจะค่อย ๆ หมดไปจนเหลือเพียงการเข้ากองทัพแบบสมัครใจ
เช่นเดียวกับ การปรับลดขนาดกองทัพ “ที่สังคมมองว่ากองทัพมีนายพลมากเกินไป” โดยมีแผนปรับลดในส่วนนี้อยู่ ภายในปี 2570
รมว.กลาโหม ป้ายแดงจากพรรคเพื่อไทย ยังระบุด้วยน้ำเสียงดังฟังชัด ในยุครัฐฐาลใหม่ของพท. รอบนี้กองทัพจะกระชับลง “นายพล” จะหายไปจำนวนมาก ส่วนจะเป็นกี่เปอร์เซ็นต์ (%) ทางกองทัพกำลังรวมรวบข้อมูลตัวเลขมาให้อยู่ในขณะนี้.
เปิดมุมสื่อ มองต่าง เกณฑ์ทหารแบบสมัครใจ อาจเป็นการเกาไม่ถูกที่คัน
อ้างอิงข้อมูลจาก บัญชีเอ็กซ์ (X.) ของ ARM WORAWIT (@armupdate) ได้ออกมาเขียนแสดงมุมมองพร้อมกับยกข้อมูลหักล้าง เพื่อวิเคราะห์นโยบายการเกณฑ์ทหารแบบสมัครใจที่กำลังเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักอยู่ในตอนนี้นั้น โจทย์สำคัญที่สุดในตอนนี้ ไม่ใช่แค่เรื่องจำนวนมากหรือไปเพิ่มสวัสดิการพลทหารเท่านั้น แต่ยังมีมิติของเรื่อง “สิทธิในชีวิต”
เจ้าของบัญชีทวิตเตอร์ดังกล่าว ยังสรุปให้เห็นถึงโครางสร้างของปัญหาที่ฝังรากมาเนิ่นนานเกี่ยวกับการคัดเลือกบุคคลเข้ารับการคัดเลือกทหาร ได้ส่งผลเสียหายโดยตรงต่อเศรษฐกิจ เพราะการบังคับชายไทยทุกคนต้องไปขึ้นทะเบียนทหารกองเกิน ใครไม่ไปมีความผิด – เมื่ออายุครบ ต้องไปเกณฑ์ทหาร ใครไม่ไปติดคุก – ใครไม่เกณฑ์ทหารสมัครหางานยาก โรงงานไม่ค่อยรับ ไม่อยากเกณฑ์ต้องไปเป็นเรียน (รด.) ต้องไปหาใบรับรองแพทย์ กระทั่งยัดเงิน ที่ทำกันมายาวนาน
การเลิกเกณฑ์ทหาร จะเท่ากับนิรโทษคนหนีทหาร ซึ่งมีอยู่จำนวนมากขณะนี้ ดึงกลับเข้ามาทำงาน เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ
ดังนั้น การ “ลด” การเกณฑ์ทหาร จึงไม่พอ เพราะแก้ปัญหาแค่เรื่องจำนวน ไม่ได้แก้ปัญหา “สิทธิในชีวิต”
- ชาวเน็ตติด #ยกเลิกเกณฑ์ทหาร ย้ำต้องยกเลิกไม่ใช่แค่ปรับลด
- สุทิน ชี้นโยบายเกณฑ์ทหารรอฟังทุกพรรค ปรับให้สอดคล้องกองทัพ
- อ.เจษฎา ถามดันสุราก้าวหน้า-ยกเลิกเกณฑ์ทหาร พรรคข้ามขั้วเอาหรอ