ชายตามหาครอบครัวที่พลัดพราก กลับเจอคนสวมรอยเป็นตัวเอง นานกว่า 40 ปี
ข่าวนี้มีน้ำตาซึม ชายตามหาครอบครัว ที่พลัดพรากจากกันมานานกว่า 40 ปี มารู้ความจริงทีหลังว่ามีคนแอบอ้างเป็นตัวเอง เป็นความจริงที่แม่ไม่เคยบอกให้พ่อรู้จนเสียชีวิต
เว็บไซต์ข่าวต่างประเทศรายงานข่าวสุดสะเทือนใจ หยางชางหลิน ชายจากมณฑณเหอหนาน ประเทศจีน พลัดพรากจากครอบครัวผู้ให้กำเนิดมานานกว่า 40 ปี จนกระทั่งเขาเติบโตมีภรรยาและลูก เขาจึงให้ตำรวจช่วยตามหาครอบครัวแท้ ๆ ให้ แต่กลับพบว่า มีบุคคลปริศนาสวมรอยเป็นหยางชางหลินแทนเขา
ความจริงนั้นถูกเปิดเผยหลังจากการสอบสวนของตำรวจที่ตามหาครอบครัวแท้ ๆ ให้หยางชางหลิน โดยระบุว่า หลังจากที่หยางชางหลินหายตัวไป พ่อของเขาก็รู้สึกโกรธ เนื่องจากลูกชายคนเดียวของพ่อหายตัวไป ซึ่งพ่อก็ได้เลือกที่จะระบายความโกรธด้วยการทุบตีแม่และลูกสาว จนแม่เกือบจะโดนพ่อฆ่าเลยทีเดียว
เพราะความรุนแรงที่ได้รับมากเกินกว่าจะทนไหว แม่และลูกสาวจึงตัดสินใจกลับไปที่บ้านเกิดของแม่ที่กุ้ยโจว และขอร้องให้หลิวเสี่ยวเปียว ลูกพี่ลูกน้องของหยางชางหลิน ปลอมตัวเป็นหยางชางหลิน แม้ว่าจะดูเป็นสถานการณ์ที่ไม่ปกติ แต่ลูกพี่ลูกน้องคนดังกล่าวก็ได้ทราบมาว่า ป้าของเขาและลูกสาวถูกทำร้ายร่างกาย เขาจึงตัดสินใจปลอมตัวเป็นหยางชางหลิน
ทั้งนี้ พ่อของหยางชางหลินกลับเชื่อสนิทใจว่าเขาเป็นลูกชายแท้ ๆ จนหลิวเสี่ยวเปียวปลอมตัวเป็นหยางชางหลินนานกว่า 30 ปี และในระหว่างนั้นไม่มีการเปิดเผยความลับใด ๆ ทั้งสิ้น จนกระทั่งพ่อเสียชีวิต สิ่งนี้ทำให้แม่ของหยางชางหลินเสียใจเป็นอย่างมาก ก่อนที่เธอจะเสียชีวิตตามพ่อไปในเวลาต่อมา
อย่างไรก็ตาม สาเหตุที่หยางชางหลินต้องพลัดพรากจากครอบครัวนานกว่า 40 ปี เป็นเพราะเขาถูกลักพาตัวตอนอายุประมาณ 5-6 ขวบ ตอนนั้นแม่ถูกพ่อทำร้ายจนหนีกลับไปอยู่บ้านยาย เขาจึงแอบวิ่งออกจากบ้านเพื่อจะไปหาแม่ แต่กลับถูกคนร้ายลักพาตัวไป แม้ว่าจะต้องไปอาศัยอยู่ที่บ้านพ่อแม่บุญธรรม แต่หยางชางหลินกลับได้รับความรักและความอบอุ่นเป็นอย่างดี เขาจึงไม่เคยเอ่ยปากขอตามหาครอบครัวเลยสักครั้ง
แต่สุดท้าย หลังจากเขามีครอบครัวแล้ว เขาจึงอยากพบหน้าคนในครอบครัว เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาไม่เคยลืมคนในครอบครัวเลยแม้แต่วินาทีเดียว หยางชางหลินจึงตัดสินใจขอความช่วยเหลือจากสำนักความมั่นคงสาธารณะเมืองหนานหยาง ในมณฑลเหอหนาน จนได้พบหน้าพี่สาวของเขาในที่สุด
เมื่อพี่น้องได้พบหน้า หยางชางหลินและพี่สาวทั้งสองคนก็ได้เข้าสวมกอดทั้งน้ำตา ทั้งยังบอกด้วยว่า “พวกเราแก่กันแล้ว” นอกจากนี้ทั้งสามคนก็ได้เล่าถึงชีวิตที่ผ่านมา โดยหยางชางหลินบอกว่า เขาได้รับความรักจากพ่อบุญธรรมเสมอ อีกทั้งพี่สาวคนโตยังบอกด้วยว่า “แต่ก่อนไม่มีเงินซื้อขนมให้น้อง แต่ตอนนี้พี่มีเงินซื้อให้น้องแล้วนะ”
นอกจากนี้ หยางชางหลินยังได้เผยความในใจอีกว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เขาจดจำชื่อของพี่สาวมาโดยตลอด เพราะเขาเกรงว่าสักวันหนึ่ง ชื่อของพี่สาวจะเลือนหายไปจากความทรงจำ โดยอาจมีความเชื่อว่าสักวันคงจะได้เจอกันนั่นเอง
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะได้พบเจอกับครอบครัวที่ตามหามาตลอด แต่หยางชางหลินก็ไม่มีโอกาสได้พบหน้าพ่อและแม่อีกต่อไป ปัจจุบันเขาได้ใช้ชีวิตอย่างสงบสุข ส่วนหลิวเสี่ยวเปียว ลูกพี่ลูกน้องของเขาก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรที่ต้องปลอมตัวเป็นเขา อีกทั้งพี่สาวของหยางชางหลินยังบอกอีกว่า การที่เขาได้ไปเติบโตกับครอบครัวอื่น นับเป็นความโชคดีของเขามากกว่าด้วยซ้ำ
อ่านจบแล้วถึงกับน้ำตาซึม เพราะนี่ไม่ใช่ซีรีส์จีน แต่เป็นเรื่องราวชีวิตจริงของชายชาวจีนผู้นี้ และนี่ก็เป็นอีกปัญหาหนึ่งที่เกิดจากความรุนแรงในครอบครัว ซึ่งส่งผลกระทบต่อทุกคนทุกฝ่าย ดังนั้นแล้ว ทุกท่านโปรดดำเนินชีวิตด้วยความมีสติ และไม่ใช้กำลังตัดสินปัญหา โดยเฉพาะกับคนในครอบครัว รวมถึงคนรอบข้างและคนในสังคมโดยเด็ดขาดนะคะ
อ้างอิง : 1