‘ชูศักดิ์’ คาดร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ทำประชามติ ใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 3 ปี
ชูศักดิ์ คาดไทม์ไลน์ในการ ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และ ทำประชามติว่าต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 3 ปี แต่ ไม่ต้องผ่านมติวุฒิสภา
นาย ชูศักดิ์ ศิรินิล รักษาการหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงไทม์ไลน์ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า หากจะต้องมีการทำประชามติให้ประชาชนแสดงความคิดเห็น ก็จะต้องมีคำถามที่ ครม. ต้องเป็นผู้คิด แต่ในส่วนพรรคเพื่อไทยได้เสนอคำถามประชามติ ว่า เห็นควรหรือไม่ที่จะจัดให้มีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยกระบวนการ สสร. ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน ส่วนจะมีการปรับแก้คำถามหรือไม่ก็เป็นเรื่องของ ครม.
หาก ครม. มีมติให้ทำประชามติแล้ว กกต. ก็จะเป็นผู้ที่ต้องดำเนินการทำประชามติ ซึ่งตามกฎหมายต้องใช้เวลาไม่น้อยกว่า 90 วัน แต่ไม่เกิน 120 วัน และหากประมามติผ่าน ครม. หรือพรรคการเมืองก็จะต้องจัดทำเสนอร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ โดยมีสาระแก้มาตรา 256 วิธีแก้รัฐธรรมนูญ เพื่อเพิ่มหมวดว่าด้วยการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยกระบวนการ สสร. ซึ่งในส่วนนี้จะเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภา และมีหลายวาระไล่ไป หลังจากก็จะต้องไปเลือก สสร. เพื่อมาทำหน้าที่ยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ คาดใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 3 ปี
ส่วนกรณีที่เมื่อวานนี้ (30 ส.ค.) พรรคก้าวไกล วิจารณ์และเสนอไม่อยากให้เลื่อนวาระประชุมสภาจัดประชามติแก้รัฐธรรมนูญนั้น นายชูศักดิ์ บอกว่า ส่วนตัวเข้าใจพรรคก้าวไกล แต่หากสภามีมติให้ผ่าน ก็ยังไม่จบอยู่ดี เพราะกฎหมายประชามติ ระบุว่า คนที่จะเสนอ ครม. ให้ทำประชามติได้ คือ รัฐสภา เพราะฉะนั้นก็จะต้องนำเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมวุฒิสภาด้วย ซึ่งไม่รู้ว่าจะให้ผ่านหรือไม่ ส่วนตัวจึงมองว่า หาก ครม. มีมติเองเสียเลย ก็จะช่วยยนย่อระยะเวลาได้พอสมควร และเข้าใจว่า คงจะเสนอให้พรรคการเมืองร่วมกันเสนอร่างฯ ได้ด้วย
ส่วนจะมีพรรคการเมืองใด ไม่เห็นด้วยหรือไม่กับการอก้รัฐธรรมนูญ ก็คงต้องมีการพูดคุยกัน และควรต้องเป็นนโยบายของรัฐบาลที่จะเสนอต่อรัฐสภา