การเงินเศรษฐกิจ

แจกฟรี ข้อสอบใบขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ 2567 พร้อมเฉลย PDF

รถยนต์จักรยานยนต์เป็นยานพาหนะที่มีบทบาทสำคัญในการเดินทางของประชาชนในประเทศไทย คิดเป็นร้อยละ 78 ของการคมนาคมขนส่งทางถนน และทำให้เมื่อเกิดอุบัติเหตุ รถจักรยานยนต์จึงมีสถิติบาดเจ็บและเสียชีวิตมากที่สุด

ดังนั้นกฎหมายจึงกำหนดให้คนขี่มอเตอร์ไซค์ ต้องมีใบขับขี่รถจักรยายนต์ไว้ทุกครั้งเมื่อขับขี่ โดยผู้ที่สามารถทำใบขับขี่รถจักรยายนต์ได้จะต้องมีอายุ 15 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป

ข้อสอบใบขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ 2567 พร้อมเฉลย PDF

หนึ่งในด่านอรหันต์ของผู้ทำใบขับขี่มอเตอร์ไซค์ไม่ใช่ภาคปฏิบัติ เป็นแต่การทำข้อสอบ เพราะเราต้องแม่นในกฎหมายจราจร จำสัญญาณไฟ ป้ายจราจรให้ได้ทุกแบบ เป้าหมายเพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุจากการขับขี่โดยไม่รู้กฎหมายจราจรที่ปฏิบัติร่วมกัน

ดังนั้น Thaiger จึงขอมาแจกแนวข้อสอบใบขับขี่รถจักรยานยนต์ เพื่อให้ทุกคนได้ไปฝึกทำก่อนสอบจริง จะได้สอบผ่านครั้งเดียวแบบฉลุย

ดาวน์โหลดข้อสอบใบขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ พร้อมเฉลย คลิกที่นี่

ใบขับขี่รถจักรยานยนต์ในประเทศไทย

ใบขับขี่รถจักรยานยนต์เป็นเอกสารสำคัญที่ผู้มีสิทธิขับขี่รถจักรยานยนต์ต้องมี เพื่อแสดงตนว่าเป็นผู้มีความรู้และทักษะในการขับขี่รถจักรยานยนต์ได้อย่างปลอดภัย ใบขับขี่รถจักรยานยนต์ในประเทศไทยแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่

  • ใบขับขี่รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล (ประเภท B): สำหรับผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ขนาดเล็ก ไม่เกิน 250 ซีซี มีอายุ 5 ปี
  • ใบขับขี่รถจักรยานยนต์สาธารณะ (ประเภท A): สำหรับผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่ เกิน 250 ซีซี มีอายุ 3 ปี

คุณสมบัติของผู้ขอรับใบขับขี่รถจักรยานยนต์

ผู้ขอรับใบขับขี่รถจักรยานยนต์ต้องมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้

  • อายุไม่ต่ำกว่า 15 ปีบริบูรณ์ สำหรับผู้ขอรับใบขับขี่รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล
  • อายุไม่ต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์ สำหรับผู้ขอรับใบขับขี่รถจักรยานยนต์สาธารณะ
  • มีร่างกายสมบูรณ์แข็งแรง ไม่เป็นโรคหรือความพิการที่ทำให้ไม่สามารถขับขี่รถจักรยานยนต์ได้อย่างปลอดภัย
  • มีสติสัมปชัญญะสมบูรณ์

เอกสารที่ใช้ในการขอรับใบขับขี่รถจักรยานยนต์

เอกสารที่ใช้ในการขอรับใบขับขี่รถจักรยานยนต์ ได้แก่

  • สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
  • ใบรับรองแพทย์
  • ใบคำร้องขอรับใบอนุญาตขับขี่
  • รูปถ่ายขนาด 1 นิ้ว จำนวน 2 รูป

ใบขับขี่รถจักรยานยนต์ 2566

ขั้นตอนการขอรับใบขับขี่รถจักรยานยนต์

ขั้นตอนการขอรับใบขับขี่รถจักรยานยนต์มีดังนี้

  1. ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการขอรับใบขับขี่รถจักรยานยนต์
  2. เตรียมเอกสารที่ใช้ในการขอรับใบขับขี่
  3. ติดต่อสำนักงานขนส่งที่ใกล้บ้าน
  4. ชำระค่าธรรมเนียม
  5. สอบข้อเขียนและปฏิบัติ
  6. รับใบขับขี่

สอบปฏิบัติขับขี่รถมอเตอร์ไซค์

จะแบ่งเป็นสองส่วนคือ 1. ทดสอบสมรรถภาพร่างกาย ได้แก่ ทดสอบตาบอดสี (เขียว เหลือง แดง), ทดสอบสายตาทางลึก, ทดสอบสายตาทางกว้าง และทดสอบปฎิกิริยาเท้า โดยการเหยียบเบรกหลังเห็นไฟสัญญาณ

2. สอบปฏิบัติการขับขี่สอบทั้งหมด 5 ท่า ได้แก่ ขี่มอเตอร์ไซค์ตามเครื่องหมายจราจร, ขี่มอเตอร์ไซค์ทรงตัวบนทางแคบ โดยไม่ให้เท้าแตะพื้นประมาณ 10 วินาที, ขี่มอเตอร์ไซค์ผ่านโค้งแคบ รูปตัว Z หรือโค้งหักศอก, ขี่มอเตอร์ไซค์ผ่านโค้ง รูปตัว S และขี่มอเตอร์ไซค์ผ่านสิ่งกีดขวาง เป็นรูปซิกแซก

สอบข้อเขียนใบขับขี่รถมอเตอร์ไซค์
ก่อนสอบ จะต้องอบรมข้อควรรู้และกฎหมายจราจรต่าง ๆ 5 ชั่วโมง จากนั้นถึงจะสอบข้อเขียนผ่านระบบคอมพิวเตอร์ โดยต้องตอบถูกอย่างน้อย 45 ข้อ จากจำนวน 50 ข้อ ถึงจะถือว่าผ่าน

ค่าธรรมเนียมการขอรับใบขับขี่รถจักรยานยนต์ปัจจุบันอยู่ที่ 100 บาท

การต่ออายุใบขับขี่รถจักรยานยนต์

ใบขับขี่รถจักรยานยนต์มีระยะเวลาทั้งสิ้น 5 ปี ผู้ถือใบขับขี่จะต้องต่ออายุใบขับขี่ก่อนใบขับขี่หมดอายุ 30 วัน หากใบขับขี่หมดอายุเกิน 30 วัน ผู้ถือใบขับขี่จะต้องดำเนินการขอรับใบขับขี่ใหม่

การขอต่ออายุใบขับขี่รถจักรยานยนต์

การขอต่ออายุใบขับขี่รถจักรยานยนต์มีขั้นตอนเช่นเดียวกับการขอรับใบขับขี่รถจักรยานยนต์ใหม่ ยกเว้นผู้ขอต่ออายุใบขับขี่ไม่จำเป็นต้องสอบข้อเขียนและปฏิบัติ

ปัจจุบันกรมการขนส่งทางบกได้อำนวยความสะดวกให้ผู้ที่ต้องการทำใบขับขี่ใหม่และต่อใบอนุญาติขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ สามารถจองคิวทำใบขับขี่ออนไลน์ได้ทางเว็บไซต์ gecc.dlt.go.th ลดปัญหาการไปรอคิวที่สำนักงานเป็นเวลานาน

ข้อสอบใบขับขี่รถมอเตอร์ไซค์

รู้หรือไม่ว่า ข้อมูลรายงานสถิติการขนส่งของกรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม พบว่า ณ วันที่ 30 กันยายน 2566 ประเทศไทยมีรถยนต์จักรยานยนต์จดทะเบียนสะสมทั้งสิ้น 23,525,000 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2564 จำนวน 1,223,000 คัน หรือคิดเป็นร้อยละ 5.3 แบ่งตามประเภทรถ ดังนี้

  • รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน 18,000,000 คัน คิดเป็นร้อยละ 76.4
  • รถจักรยานยนต์รับจ้าง 2,800,000 คัน คิดเป็นร้อยละ 12.0
  • รถจักรยานยนต์สาธารณะ 2,725,000 คัน คิดเป็นร้อยละ 11.6

จังหวัดที่มีรถยนต์จักรยานยนต์จดทะเบียนสะสมมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่

  1. กรุงเทพมหานคร 4,300,000 คัน
  2. ชลบุรี 2,100,000 คัน
  3. สมุทรปราการ 1,900,000 คัน
  4. นครราชสีมา 1,700,000 คัน
  5. เชียงใหม่ 1,600,000 คัน

Aindravudh

นักเขียนประจำ Thaiger มีประสบการณ์เขียนข่าวมากกว่า 5 ปี จบการศึกษาด้านภาษาและประวัติศาสตร์ จากคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีความสนใจ ประเด็นความเคลื่อนไหวทางสังคมและการเมือง เจาะประเด็นข่าวทางสังคม ด้วยกลวิธีการเล่าเรื่องแบบย่อยง่าย อย่างงานเขียนสร้างสรรค์ สั้น กระชับ จับทุกประเด็น หัวข้อที่เชียวชาญคือเรื่องไลฟ์สไตล์ เลขเด็ด หวยรัฐบาลไทย หวยลาว ช่องทางติดต่อ vajara@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button