ข่าว

ไฟไหม้ท่าเรือแหลมฉบัง คอนเทนเนอร์สินค้าอันตรายระเบิด เร่งหามคนงานส่ง รพ.

ไฟไหม้ท่าเรือแหลมฉบัง ภายหลังจากที่คอนเทนเนอร์สินค้าอันตรายระเบิด ตรวจพบภายในภายในเป็นสารอินทรีย์เปอร์ออกไซด์ เร่งหามคนงานส่งโรงพยาบาล

พ.ต.อ.ปพรพัชร์ ใบยา ผกก.สภ.แหลมฉบัง รับแจ้งเหตุไฟไหม้ถังบรรจุสินค้าอันตราย ประเภท UN.2014 class 5.1 ภายในลานพักตู้คอนเทนเนอร์ JWD เขตพื้นที่ท่าเรือแหลมฉบัง ต.ทุ่งสุขลา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เบื้องต้นมีรายงานว่ามีกลิ่นเหม็นรุนแรง และมีฤทธิ์กัดกร่อน ทางเจ้าหน้าที่จึงรีบประสานกำลังลงพื้นที่ตรวจสอบและเข้าควบคุมสถานการณ์

Advertisements

เมื่อถึงที่เกิดเหตุพบ ตู้คอนเทนเนอร์ ตู้สินค้าอันตรายหมายเลข TLLU2697694 Class 5.2 UN 3106 ภายในเป็นสารเคมีเป็น Orgaic peroxide type d, solid (สารอินทรีย์เปอร์ออกไซด์) จำนวน 378 กล่องได้เกิดปฏิกิริยา ทำให้เกิดเพลิงลุกไหม้ พบกลุ่มควันดำขาว รวมถึงเปลวเพลิงลอยพุ่งขึ้นท้องฟ้าเป็นจำนวนมาก

เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบมีผู้ได้รับผลกระทบของบริษัท mc logistics จำนวน 154 คน ลานจอดรถ โตโยต้า 23 คน และนำส่งคนงาน 7 ราย โรงพยาบาลวิภาราม หลังมีอาการแน่นหน้าอก หายใจลำบาก แสบตา อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้ระดมกำลังฉีดน้ำเพื่อสกัดเพลิง โดยสลับเปลี่ยนหมุนเวียนรถดับเพลิงเข้าพื้นที่

จากการสอบปากคำผู้เห็นเหตุการณ์ทำให้ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุได้พบเห็นควันดำขาวลอยพุ่งออกมาจากลานพักตู้คอนเทนเนอร์ดังกล่าว หลังจากนั้นไม่นานเริ่มมีเพลิงลุกไหม้ลอยตามมาติด ๆ ก่อนที่จะมีระเบิดดังขึ้น หลังจากนั้นก็พบว่าคนงานในพื้นที่ และใกล้เคียงต่างพากันวิ่งหนีกันออกมา นอกจากนี้ ยังส่งกลิ่นเหม็นฉุนไปทั่วบริเวณอีกด้วย

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่และทางบริษัทได้กั้นผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องออกจากพื้นที่ โดยขณะนี้พบว่าเพลิงได้สงบลงแล้ว แต่ยังมีไอระเหยอยู่ ทั้งนี้ ทราบว่าสาเหตุอาจเกิดจากอากาศที่ร้อนจัด ส่งผลให้วัตถุภายในตู้เกิดปฏิกิริยาขึ้น ซึ่งหลังเหตุการณ์สงบเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะเข้าตรวจสอบพื้นที่อย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อสรุปสาเหตุที่แท้จริงต่อไป

Advertisements

 

Nateetorn S.

ผู้สื่อข่าว ทำงานกับ Thaiger มาตั้งแต่ปี 2020 จบการศึกษาจากคณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสคร์ เคยทำงานกับสถานีโทรทัศน์อันดับ 1 ของประเทศ ทำให้มประสบการณ์ความเชี่ยวชาญ เจาะประเด็นข่าวการเมืองอาชญากรรม ข่าวแปลกๆ เรื่องน่าสนใจจากต่างประเทศ ช่องทางติดต่อ tee@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button