สุดหดหู่ หนุ่มฆ่ายกครัว 3 ศพ เครียดหนี้ 1.7 ล้าน หวังปลิดชีพตามแต่ไม่ตาย
เรื่องราวสุดสลด หนุ่มเครียดครอบครัวเป็นหนี้กว่า 1.7 ล้านบาท เจอเจ้าหนี้ตามทวงทุกวัน ทนไม่ไหวฆ่ายกครัว 3 ชีวิต หวังปลิดชีพตัวเองตามไปด้วย แต่ถูกช่วยทันจึงไม่ตาย แค่บาดเจ็บสาหัส
วันนี้ 28 สิงหาคม 2566 มีรายงานจากเพจเฟซบุ๊ก สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว เล่าเรื่องราวสุดสลดใจที่เกิดขึ้นกับครอบครัวหนึ่ง ณ จังหวัดสมุทรปราการ เป็นเหตุการณ์ฆ่ายกครัวทั้งหมด 3 ศพ
โดยเหตุเกิดจากครอบครัวดังกล่าวเป็นหนี้สินจำนวนหลักล้าน ทางด้านหัวหน้าครอบครัวซึ่งเป็นเสาหลักของครอบครัวมีอาการเครียดจัด ไม่สามารถหาเงินมาใช้หนี้สินได้ จึงวางแผนฆาตกรรมคนในครอบครัว พร้อมฆ่าตัวตายตาม ซึ่งแหล่งข่าวได้ระบุรายละเอียดไว้ดังนี้
เมื่อเวลา 01:00 น. วันที่ 28 สิงหาคม 2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางแก้ว พร้อมด้วยแพทย์เวร เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู เข้าตรวจสอบ หลังได้รับแจ้งว่า มีเหตุฆาตกรรมมีผู้เสียชีวิต 3 ราย ผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย ที่เกิดเหตุ หมู่บ้านทิพย์มงคล ถนนหลังวัดหนามแดง ตำบลบางแก้ว อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านทาวน์เฮ้าส์ 3 ชัั้น ที่ชั่นล่างบริเวณหน้าประตูบ้าน พบศพผู้เสียชีวิต 2 ราย รายแรกเป็นเด็กชาย 1 ราย ดช.ปุณณพัตน์ อายุ 11 ปี รายที่ 2 เป็น หญิง 1 ราย ทราบชื่อนางสาว วิภาพร อายุ 41 ปี ทราบภายหลังว่าเป็นภรรยาของผู้ก่อเหตุ ส่วนที่ห้องนอนชั้น 2 พบผู้เสียชีวิตเป็นเด็กชาย 1 ราย ดช. บุณญานนท์ อายุประมาณ 13 ปี ทั้งหมด มีบาดแผลถูกอาวุธมีดเป็นแผลฉกรรจ์บริเวณคอและตามร่างกายหลายแห่ง
ใกล้กันพบร่างผู้ก่อเหตุที่ลงมือหวังปลิดชีพตัวเอง มีบาดแผลถูกอาวุธมีดปาดที่คอและข้อมือ ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส หน่วยกู้ชีพเร่งเคลื่อนย้ายนำส่งหน่วยกู้ภัยเคลื่อนย้ายนำส่งโรงพยาบาลใกล้เคียง
น.ส.ฐารินี อายุ 46 ปี หัวหน้างาน เล่าว่า เมื่อช่วงเที่ยงคืนผู้ก่อเหตุ คือนาย สาณิช อายุประมาณ 41 ปี ได้โทรหาตน ว่าได้ลงมือฆ่าลูกเมียตัวเองแล้ว ตนจึงรีบเดินทางมาที่เกิดเหตุ เมื่อมาถึงก็พบว่า ผู้ก่อเหตุลงมือจริง
เบื้องต้นสาเหตุผู้ตายเคยมาปรึกษาตนว่า กำลังจะถูกกรมบังคับคดียึดบ้าน แต่เรื่องนี้มีทางออกแล้วคาดว่าใช้เงินไม่เท่าไหร่ แต่เมื่อไม่นานมานี้ ภรรยาของผู้ก่อเหตุถูกแก๊งคอเซ็นเตอร์หลอก ต้องไปกู้หนี้ยืมสินมาจากหลายที่ เป็นเงินกว่า 1.7 ล้าน ทำให้ถูกเจ้าหนี้มาตามทวงทุกวัน สาเหตุนี้จึงน่าจะเป็นฉนวนเหตุที่ทำให้ผู้ก่อเหตุลงมือ
เช่นเดียวกับ นายวิรุณ เพื่อนร่วมงานที่ทราบข่าวจากหัวหน้างานโทรมาบอก รีบเดินทางมายังที่เกิดเหตุแต่ก็ไม่ทันการ ซึ่งที่ผ่านมา นาย สาณิช ได้เล่าบอกระบายเรื่องหนี้สินภายในครอบครัวให้ฟังมาตลอด แต่ไม่คาดคิดว่าจะตัดสินใจลงมือเช่นนี้
ส่วนนิสัยใจคอของ นายสาณิช นั้นปกติจะเป็นคนใจเย็น ไม่เที่ยว ไม่เล่นการพนัน เหล้าไม่ดื่ม บุหรี่ไม่สูบ และมีความตั้งใจทำงานที่ดีมาตลอด เป็นเพื่อนร่วมงานที่คนหนึ่ง ตอนนี้ทั้งเสียใจ ตกใจ และแค้นพวกแก๊งคอลเซ็นเตอร์
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนลงพื้นที่ถ่ายเก็บหลักฐานพร้อมประสานเจ้าหน้าที่จากกองพิสูจน์หลักฐานและแพทย์เวร ร่วมชันสูตรพลิกศพ เพื่อดำเนินการตามกฏหมายต่อไป
ด้าน พ.ต.อ. รังสรรค์ คำสุข รักษาราชการแทนผกก.สภ.บางแก้ว ระบุว่า จากการตรวจสอบครอบครัวนี้พบว่า ก่อนหน้านี้คือช่วงวันศุกร์ที่ผ่านมา ทางภรรยาของผู้ก่อเหตุได้ดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับทางพนักงานสอบสวนว่า ถูกแอปเงินกู้นอกระบบในลักษณะแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกให้โอนเงิน
โดยเริ่มจากติดต่อขอกู้เงินหนึ่งแสนบาท แต่ถูกให้โอนยอดไปยังบัญชีปลายทาง เพื่อเป็นค่าดำเนินการ ค่าเปิดระบบ อะไรต่าง ๆ จนกระทั่งมีการโอนเงินไปกว่าล้านบาท
ซึ่งหลังจากที่พนักงานสอบสวนได้รับแจ้งความ ก็มีการสั่งการอายัดบัญชีดังกล่าวและอยุ๋ในระหว่างดำเนินติดตามตัวบัญชีปลายทางเพื่อตรวจสอบเส้นทางการเงิน หลังจากนี้จะได้เร่งรัดฝ่ายสืบสวนไปดำเนินการสืบสวนติดตามขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์นี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็ว