นโยบายเงินดิจิทัล 10,000 บาท พรรคเพื่อไทยเผยแล้ว ไม่สามารถโอนเข้าบัญชีออมทรัพย์ของธนาคารได้ แต่จะโอนเข้าบัญชีดิจิทัลวอลเล็ตแทน คาดว่าเริ่มใช้งานไตรมาสแรก ปี 2567
หลังจากพรรคเพื่อได้ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 นโยบายเงินดิจิทัล 10,000 บาท ก็ถูกพูดถึงอย่างมากมาย เนื่องจากเงื่อนไขในการใช้ยังไม่แน่นอนนัก อีกทั้งบางส่วนยังต้องการทราบว่า สามารถโอนเข้าบัญชีธนาคารได้หรือไม่ ล่าสุดวันศุกร์ที่ 25 สิงหาคม 2566 เผ่าภูมิ โรจนสกุล รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ในรายการ เรื่องเล่าเช้านี้ ถึงนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต ในการแจกเงิน 10,000 บาท
โดยนายเผ่าภูมิได้ให้ข้อมูลว่า เงินดิจิทัล หรือ Digital Wallet จะแจกให้กับผู้ที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป ข้อมูลปัจจุบัน (ส.ค. 66) ณขณะนี้ พรรคเพื่อไทยยังไม่มีการสร้างแอปพลิเคชัน ทำให้แอปพลิเคชันที่ปรากฏในปัจจุบันคือช่องทางของมิจฉาชีพทั้งสิ้น
นอกจากนี้ นโยบายดังกล่าวจะเริ่มโครงการ ดิจิทัลวอลเล็ต ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2567 (มกราคม – มีนาคม 2567) และเหตุที่ต้องเริ่มปีหน้า เพราะเป็นระบบการชำระเงินรูปแบบใหม่ที่มีการพัฒนาขึ้นมา ต้องใช้เวลาในการทำระบบ อีกทั้งยังต้องทดสอบระบบ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยและเสถียรภาพ นอกจากนี้ยังเป็นเรื่องของการจัดสรรงบประมาณในการทำอีกด้วย
โครงการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท โอนเข้าบัญชีธนาคารได้ไหม
ในส่วนของปัญหาที่ประชาชนหลาย ๆ คนสงสัย ซึ่งทางพรรคเพื่อไทยก็ได้เปิดเผยว่า บัญชีที่ใช้ในการรับโอนเงินดิจิทัล คือบัญชีดิจิทัลวอลเล็ต ดังนั้นแล้ว เงิน 10,000 บาทจะเข้าที่บัญชีดิจิทัลวอลเล็ต แต่จะไม่เข้าบัญชีออมทรัพย์ของธนาคาร
หากต้องการใช้ ผู้ที่มีโทรศัพท์มือถือจะต้องดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน จากนั้นใส่หมายเลขบัตรประชาชน เงินจะขึ้นมาโดยอัตโนมัติ จากนั้นเอาไปใช้จ่ายได้ นอกจากนี้ ในกรณีที่ไม่มีโทรศัพท์มือถือ ให้ใช้บัตรประชาชนควบคู่กับ QR Code ไปใช้จ่ายได้ โดยบัตรจะผูกกับบัตรประชาชนของผู้ที่เอามาซื้อ และตัดเงินจากบัญชี
ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทยได้เปิดเผยอีกว่า เงินจากนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต ไม่มีการกู้เพิ่มและไม่ใช่สกุลเงินคริปโต อีกทั้งยังเตรียมตัวและดูความเป็นไปได้ของการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาทแล้ว โดยจัดสรรเงินมาจากภาษีที่เพิ่มขึ้น จากขนาดเศรษฐกิจที่ใหญ่ขึ้น และภาษีที่เกิดจากการหมุนเวียนในโครงการนี้ ทั้งภาษีมูลค่าเพิ่ม และภาษีนิติบุคคล ด้วยเหตุนี้ จึงไม่จำเป็นต้องกู้เงินเพิ่ม แม้จะต้องใช้เงิน 5.6 แสนล้านบาท
อย่างไรก็ตาม นโยบายดังกล่าวมีจุดประสงค์เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างแรงจูงใจให้ประชาชนออกมาใช้ระบบนี้พร้อม ๆ กัน ซึ่งหากต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจก็สามารถโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารได้ แต่สิ่งนั้นไม่ตอบโจทย์ในการสร้างระบบการเงินที่รองรับโลกยุคใหม่
นอกจากนี้ยังเปิดเผยอีกว่า เงินดิจิทัลนี้ไม่ใช่เหรียญที่ออกโดยเอกชน ระบบจะถูกสร้างโดยรัฐบาลไทย อาจกล่าวได้ว่าเป็นสิทธิการใช้เงินในรูปแบบใหม่ จึงไม่มีการโอนเข้าบัญชีออมทรัพย์ของธนาคาร อีกทั้งมูลค่าของเงินดิจิทัลดังกล่าวไม่ขึ้น ไม่ลง ไม่มีการทุบ ไม่มีการเทรด แต่จะตอบโจทย์ในการกระตุ้นเศรษฐกิจยุคใหม่หรือไม่ อาจจะทราบได้ก็ต่อเมื่อเริ่มใช้งานจริงนั่นเอง
