ทำความเข้าใจ “บัตรกดเงินสด” ใช้รูดซื้อของ ผ่อนสินค้าได้ไหม พร้อมส่องความแตกต่าง บัตรกดเงินสด-บัตรเครดิต ต่างกันอย่างไร แบบไหนตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์มากที่สุด
ใครมีปัญหาหมุนเงินไม่ทัน คงต้องเคยได้ยินเรื่องราวของ “บัตรกดเงินสด” กันมาบ้างแน่ ๆ เพราะในปัจจุบันหลายธนาคารกำลังออกโปรโมชั่นดี ๆ ดึงดูดลูกค้าให้มาสมัครกันมากขึ้น แต่รู้หรือเปล่าว่า นอกจากจะกดเป็นเงินสดได้จากตู้ ATM บัตรกดเงินสดยังสามารถทำอะไรได้อีกหลายอย่าง ทั้งรูดซื้อและเลือกผ่อนสินค้า แต่จะมีเงื่อนไขแบบไหนที่แตกต่างไปจาก บัตรเครดิตและบัตรเดบิตทั่วไปบ้าง ไปอ่านรายละเอียดด้วยกันได้เลย
บัตรกดเงินสด ใช้ทำอะไรได้บ้าง?
บัตรกดเงินสด เป็นผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เพิ่งเข้ามามีบทบาทในแวดวงเศรษฐกิจไม่กี่ปีที่ผ่านมา แต่การเข้ามาของบัตรกดเงินสดถือว่าตอบโจทย์ชีวิตพนักงานออฟฟิศและฟรีแลนซ์ได้อย่างลงตัวทีเดียว
เนื่องจากบัตรกดเงินสด เป็นสินเชื่อส่วนบุคคลที่ช่วยให้เรากดเงินจากตู้ ATM มาใช้ในยามฉุกเฉินได้ ตามวงเงินที่ได้รับการอนุมัติจากธนาคาร อีกทั้งยังสมัครง่าย อนุมัติไว ไม่ต้องมีผู้ค้ำประกัน แถมบางธนาคารยังสามารถสมัครออนไลน์ได้อีกด้วย และที่สำคัญบัตรกดเงินสดยังให้วงเงินสูงถึง 5 เท่าจากฐานรายได้ประจำเลยทีเดียว
สมัครบัตรกดเงินสด ไว้รูดซื้อของ – ผ่อนสินค้าได้ไหม?
ในช่วงแรกบัตรกดเงินสดถูกออกแบบมาสำหรับเป็นค่าใช้จ่ายยามฉุกเฉิน ซึ่งผู้ถือบัตรสามารถไปกดเงินได้จากตู้เอทีเอ็ม แต่ในปัจจุบันได้มีการเพิ่มเงื่อนไขการใช้บัตรกดเงินสดเข้ามามากขึ้น เช่นบางธนาคารใช้รูดซื้อของ ผ่อนสินค้าได้
ธนาคารหลายแห่งในประเทศไทย ได้เพิ่มความสามารถให้กับบัตรกดเงินสด เพื่อให้ประชาชนนำไปรูดซื้อสินค้าได้แล้ว ซึ่งมีการร่วมมือกับร้านค้าชั้นนำมากมาย เพื่อเพิ่มเงื่อนไขในการใช้จ่าย อาทิ การใช้บัตรกดเงินสดรูดซื้อโทรศัพท์มือถือ ผ่อน 0% นาน 10 เดือน
นอกจากนี้ธนาคารบางแห่งยังเพิ่มสิทธิพิเศษให้ลูกค้า ด้วยการให้ผู้ที่รูดซื้อสินค้าผ่านบัตรกดเงินสด สามารถผ่อนจ่ายในระยะยาว เพื่อรับดอกเบี้ยในราคาพิเศษ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งวิธีในการกระตุ้นการใช้จ่ายของผู้คนได้อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ผู้ถือบัตรกดเงินสดต้องอ่านเงื่อนไขให้ถี่ถ้วนก่อนใช้ เพราะบางธนาคารผ่อนได้แต่คิดดอกเบี้ยรายเดือนด้วย
บัตรกดเงินสด ต่างจากบัตรเครดิตยังไง?
แม้ว่าบัตรกดเงินสดและบัตรเครดิต จะสามารถใช้รูดซื้อของ ตลอดจนผ่อนสินค้า และกดเป็นเงินสดออกมาได้เหมือนกัน แต่บัตรทั้ง 2 ประเภทก็มีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันไป ดังนี้
บัตรกดเงินสด
- ผ่อน 0% กับสินค้าที่ร่วมรายการ
- อัตราดอกเบี้ยลดต้นลดดอก หมดหนี้เร็วขึ้น
- วงเงินเท่าที่มีในบัตร
- กดเงินสดได้ 24 ชั่วโมง ไม่มีค่าธรรมเนียม
- วงเงินที่ชำระคืนแล้วใช้ต่อได้เลย
บัตรเครดิต
- มีพาร์ทเนอร์ที่ร่วมรายการเยอะกว่า
- หากจ่ายทันกำหนดจะปลอดดอกเบี้ย
- เสียค่าธรรมเนียม 3% และภาษี 7 % หากกดเป็นเงินสด
ทั้งนี้ผู้ที่ต้องการสมัครบัตรกดเงินสด อย่าลืมเปรียบเทียบเงื่อนไขของแต่ละธนาคาร และวิเคราะห์ไตร่ตรองให้ดีว่า หากสมัครบัตรกดเงินสดแล้ว จะตอบโจทย์ชีวิตและไลฟ์สไตล์ของตัวเองหรือไม่ ซึ่งต้องคำนึงถึงความจำเป็นและความสามารถในการชำระคืน เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวเองเป็นหนี้หรือเสียเครดิตทางการเงินในอนาคต.