This Love Is Force Majeure เป็นเรื่องราวโรแมนติกที่ไม่อาจต้านทานได้ระหว่าง Lee Hong-jo (Jo Bo-ah) ข้าราชการระดับล่างที่ได้รับหนังสือต้องห้ามที่ถูกผนึกไว้อย่างมิดชิดเมื่อ 300 ปีที่แล้ว
และ Jang Shin-yu (Roun) ทนายความที่ตกเป็นเหยื่อของหนังสือต้องห้าม เรื่องราวโรแมนติกอันแสนหวานและน่ารื่นรมย์ที่เริ่มต้นด้วยความปรารถนาอันแรงกล้าของชายและหญิงที่จมอยู่ในชะตากรรมที่ไม่อาจต้านทานได้ปลุกความตื่นเต้นของผู้ชม
ผู้กำกับนัมคีฮุนผู้แสดงทักษะการกำกับที่เย้ายวนผ่าน ‘Kiss Six Sense’, ‘Voice 3’ และ ‘Tunnel’ หยิบโทรโข่งขึ้นมา และผู้เขียนโนจีซอลจาก ‘Hundred Days My Prince’ ได้เปิดโลกทัศน์ใหม่สำหรับ ละครประวัติศาสตร์ของเยาวชนโดยสร้างความคลั่งไคล้คล้ายซินโดรม ฉันตั้งใจ
‘ความรักนี้ไม่อาจต้านทานได้’ ได้รับการแนะนำในรูปแบบโรแมนติกแฟนตาซี แต่ก็สังเกตได้ว่าไม่มี ‘พลังวิเศษ’ เหมือนกับเรื่องโรแมนติกแฟนตาซี แม้ว่าจะเป็นแนวโรแมนติกแฟนตาซีที่ไม่มีพลังพิเศษ แต่อะไรคือเหตุผลว่าทำไมผู้กำกับและนักแสดงถึงสนใจเรื่องนี้?
คำตอบได้รับการยืนยันในการนำเสนอการผลิตละครวันพุธและพฤหัสบดีเรื่อง ‘This Love Is Unstoppable’ ทางช่อง JTBC (บทโนห์จีซอล, ผู้กำกับนัมกีฮุน, การผลิต SLL, C-JeS Studio) ซึ่งจัดขึ้นที่โรงแรมรามาดาในซินโดริม ดง, กูโร-กู, โซล วันที่ 22 ผู้กำกับนัมกีฮุนและนักแสดงโจโบอา, โรอุน, ฮาจุน และยูราเข้าร่วมงานนี้
ผู้กำกับ Ki-hoon Nam แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ ‘This Love Is Force Majeure’ ว่า “ตัวเอกชายและหญิงพัวพันกันเมื่อพวกเขาค้นพบกล่องไม้เก่าและหนังสือคาถา มีคาถาที่น่าตื่นเต้นและส่วนที่เฉพาะเจาะจง ดังนั้นมันคงจะดีถ้าคุณพูดถึงมัน” สนุกมากอ่านไม่หยุดตั้งแต่ภาคแรกเลย มันเป็นงานที่ดึงดูดใจอย่างไม่อาจต้านทานและโชคชะตา”
เกี่ยวกับความจริงที่ว่าไม่มี ‘พลังพิเศษ’ ในละครโรแมนติกแฟนตาซี ผู้กำกับนัมกีฮุนกล่าวว่า “มันเป็นโรแมนติกแฟนตาซี แต่ฉันพยายามเขียนตามความเป็นจริง ฉันสงสัยว่ามันจะกลายเป็นอาวุธของเรา
หรือไม่ถ้าเราแสดงออกราวกับว่ามันจะเกิดขึ้นได้ ตัวละครมีความแข็งแกร่ง ดังนั้นฉันคิดว่ามันจะมีผลกระทบที่น่าทึ่งถ้าฉันแสดงมันออกมาตามความเป็นจริงมากกว่าการ์ตูน ดังนั้นฉันจึงพยายามกำกับมันโดยเน้นไปที่ส่วนนั้น”
นักแสดงต่างหลงใหลใน “เรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ ที่ไม่อาจต้านทานได้” อย่างไม่อาจต้านทานได้ โจโบอากล่าวว่า “ฉันอยากจะแสดงตัวละครฮงโจออกมามากและฉันก็โลภมาก ฉันมาที่นี่เพราะโอกาส
นั่นเป็นแรงดึงดูดที่ไม่อาจต้านทานได้” เขากล่าว “ตัวละครตัวนี้แตกต่างจากผลงานภาคก่อนมาก ถ้าเขาแข็งแกร่งใน ‘นิทานจิ้งจอกเก้าหาง’ คราวนี้เขาจะน่ารักและมีชีวิตชีวา ฉันใส่ 200% ของอัตราการซิงโครไนซ์ของมนุษย์โจโบอา”
โรอุนเป็นปรมาจารย์ด้านความเร็วที่ทุกคนยอมรับ โรอุนที่ลดน้ำหนักได้ 8 กก. กล่าวว่า “ฉันมีเรื่องโรแมนติกแนวแฟนตาซีมากมายเมื่อเทียบกับอาชีพระยะสั้นของฉัน ฉันไม่รู้ว่าจะหาความคล้ายคลึงได้อย่างไร
ครั้งนี้ แทนที่จะแสดงเป็นคนที่มีความรู้สึกถึงชีวิต ฉันกลับแสดงเป็นตัวละครแทน มันเป็นความท้าทายใหม่สำหรับฉันเช่นกัน แทนที่จะมุ่งความสนใจไปที่ตัวละคร ฉันมองหาสิ่งที่เหมือนกับตัวละครในบทและพูดคุยถึงเรื่องเหล่านั้น
ฉันแสดงโดยเน้นไปที่ความสูง พอได้บทก็คิดหนักมากว่ามันจะเป็นแบบนี้ เราเข้าใจส่วนนั้นในขณะที่พูดคุยกันในตอนแรก ฉันยังประหลาดใจที่ตัวเองเปลี่ยนไปเมื่อป้ายเปลี่ยน เหมือนใส่และถอดเสื้อผ้า”
ฮาจุนถูกดึงดูดอย่างไม่อาจต้านทานได้กับคำพูดที่ว่าเขาจะรับผิดชอบด้านภาพในละคร เขาคิดว่าตัวเองเป็นชายหนุ่มที่น่าเกลียด แต่เขาบอกว่า เขารับผิดชอบด้านการมองเห็น
ดังนั้น เขาจึงถูกล่อลวงให้ทำอะไรแบบนี้ ดังนั้น เขาจึงตัดสินใจเลือก เขากล่าว “การอ่านหนังสือเป็นเรื่องที่น่าพึงพอใจมาก น้ำเสียงบทสนทนาของโรอุนติดหูมาก โจโบอาเก่งมาก และยูก็มีประสบการณ์ด้านการแสดงมาก่อนด้วย
เมื่อผู้คนสบายใจซึ่งกันและกัน พวกเขาปล่อยมือกันและกลายเป็นเหมือนเด็ก แต่เนื่องจากเราทั้งคู่ชอบกันและสร้างความไว้วางใจกัน มันจึงรู้สึกเหมือนเรากำลังเล่นอยู่ในสนามเด็กเล่น
ฉันคิดว่าฉากนั้นต้องดูน่าพอใจเพื่อถ่ายทอดส่วนที่น่ารื่นรมย์ เป็นเรื่องน่ายินดีมากจนฉันสงสัยว่าเมื่อไหร่ฉันจะวางมันลงแบบนี้ ผู้กำกับแนะนำผมอย่างดี” เขากล่าว
ยูรากล่าวว่า “โดยปกติแล้วมีหลายสิ่งที่ฉันชอบความโรแมนติกโดยธรรมชาติ แต่มันก็สนุกที่ได้ดึงดูดมันในขณะที่ปฏิเสธมันไปในองค์ประกอบแฟนตาซี ฉันอยากให้คุณมองจุดนั้นให้มาก” เขากล่าว
เกี่ยวกับยุนนายอนที่เธอรับบท ยูรากล่าวว่า “เธอเป็นตัวละครที่มีการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์มากมาย และเธอได้รับการพิจารณาอย่างมากโดยพูดว่า ‘ทำทุกอย่างที่คุณต้องการทำ’
นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันสามารถออกมาได้อย่างสบายใจมากขึ้น” เขากล่าว “ฉันรู้สึกกังวลมากในระหว่างการถ่ายทำครั้งแรก แต่ฉันคิดว่าฉันรู้สึกกังวลน้อยที่สุดจากงานทั้งหมดเพราะเขาสบายใจกับฉันมาก ฉันถ่ายได้สบายเพราะหายใจดีมากและมีบุคลิกที่ดี”
เนื่องจากการหายใจของนักแสดงและบรรยากาศในกองถ่ายเป็นไปด้วยดี ‘This Love Is Force Majeure’ จึงเต็มไปด้วยความมั่นใจ เกี่ยวกับเรตติ้งผู้ชม
ผู้กำกับกีฮุนนัมกล่าวว่า “เรตติ้งผู้ชมไม่เป็นภาระและผมมั่นใจ หากคุณดูมัน ฉันคิดว่าคุณจะถูกดึงดูดเข้าสู่มันอย่างไม่อาจต้านทานได้ เรากำลังฝันถึงวันหยุดพักผ่อนที่คุ้มค่า” เขากล่าว
