สลด! หนุ่มทำปืนลั่นใส่เพื่อน นั่งกอดศพร้องไห้ เผยไม่ได้มีปัญหาทะเลาะกัน ตั้งใจจะล้อเล่นแต่ไม่คิดว่าปืนมีกระสุน พบหลักฐานเป็นปืนลูกซองสั้นไทยประดิษฐ์
เกิดเรื่องราวสุดช็อคในห้องพักแห่งหนึ่ง เมื่อหนุ่มวัย 20 ปี ทำปืนลั่นใส่เพื่อนสนิทเสียชีวิตคาที่ ก่อนโยนปืนทิ้งทางหน้าต่าง ยืนยันไม่ได้เจตนา เพียงแค่ตั้งใจจะหยิบปืนออกมาเล่น แต่ไม่ทราบว่าในปืนมีการบรรจุกระสุนไว้ในรังเพลิง เชื่อผู้ตายนำปืนออกมาล้างและบรรจุกระสุนเอง แต่ตนไม่ทราบจึงนำไปสู่เหตุสลดดังกล่าว
วันนี้ (22 ส.ค. 66) เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่ามีผู้เสียชีวิต ในห้องพักย่าน ต.ท่าเสา อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบศพผู้เสียชีวิตสวมเสื้อยืดสีแดง กางเกงสีน้ำตาล นอนจมกองเลือด ก่อนทราบชื่อในภายหลังว่าคือ นายธีรพัฒน์ อายุ 20 ปี
จากการตรวจสอบพบว่าผู้ที่ทำปืนลั่นคือ นายวรวิช วัย 20 ปี เป็นเพื่อนสนิทกับผู้ตาย โดยนายวรวิชได้สารภาพว่าเป็นคนทำให้เพื่อนเสียชีวิต ซึ่งภายในห้องพักพบปลอกกระสุนปืนลูกซอง เบอร์ 12 ตกอยู่ 1 ปลอก อีกทั้งยังมีกระสุนปืนลูกซองอีก 1 นัด โดยผู้ก่อเหตุสารภาพว่า โยนปืนลงไปทางหน้าต่างเพราะตกใจ
จากการสอบสวนทำให้ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุในห้องพักดังกล่าวผู้เสียชีวิตและผู้ก่อเหตุได้พักอยู่กับเพื่อนรวม 5 คน แต่มี 2 คนที่ออกไปธุระ ทำให้เหลือนายวรวิช นายธีรพัฒน์ และเพื่อนสาวอีก 1 คน
โดยในระหว่างพักผ่อนนายธีรพัฒน์ได้นั่งเล่นเกมบนมือถือบริเวณประตูห้อง ส่วนนายวรวิชได้หยิบปินขึ้นมาเล่นใกล้กับจุดที่ผู้เสียชีวิตนั่งอยู่ กระทั่งมีเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด เพื่อนสาวในห้องจึงรีบวิ่งออกไปด้านนอกด้วยความตกใจ ส่วนนายวรวิชผู้ถือปืนหันมาเห็นภาพสลดของนายธีรพัฒน์ที่แน่นิ่งไปท่ามกลางกองเลือด จึงรีบร้องขอความช่วยเหลือ
สภาพศพของนายธีรพัฒน์พบว่ามีกระสุนถูกยิงเข้าทางท้ายทอย ทะลุออกทางหน้าผาก โดยนายวรวิชผู้ก่อเหตุยืนยันไม่ได้ทะเลาะกัน คาดว่าผู้ตายนำปืนของตนไปล้างทำความสะอาด และอาจใส่กระสุนในรังเพลิงโดยไม่ได้บอกใคร เมื่อตนหยิบออกมาเล่นจึงทำให้ปืนลั่นจนนายธีรพัฒน์เสียชีวิต
สำหรับปืนที่พบในจุดเกิดเหตุ นายวรวิชสารภาพว่าได้ซื้อปืนลูกซองสั้นไทยประดิษฐ์ดังกล่าว มาจากเพจออนไลน์ราคา 7,800 บาท พร้อมด้วยกระสุนปืนอีก 2 นัด โดยได้เก็บเอาไว้ในกระเป๋าสะพายและนำมาเล่นในห้อง
ทั้งนี้ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหานายวรวิช ฐานกระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย อีกทั้งยังมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต.
