“จตุพร” ฉะยับ “ณัฐวุฒิ” แขวะเขวี้ยงหินใส่บ้าน เฉ่งแรง ! น่าทำตามจุดยืนได้มากกว่านี้
จตุพร พรหมพันธุ์ สุดทน เต้น ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แขวะเขวี้ยงหินใส่บ้าน ฉะนักต่อสู้ พูดหาเสียงปลุกประชาชนหลงเชื่อ โจมตี 3 ป.ยับเยิน ประกาศจุดยืนไม่จับมือ “พปชร.-รทสช.” แต่ไม่เคยยืนขวางเพื่อไทยจับมือข้ามขั้ว ทำได้แค่พูดหรู ๆ เดินมาส่งจนสุดทาง พร้อมเชื่อโหวตนายกฯ สำเร็จ แล้วลาออก เฉ่งแรง น่าทำอะไรตามจุดยืนได้มากกว่านี้
เมื่อ 21 สิงหาคม 2566 นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์รายการประเทศไทยต้องมาก่อน ตอน “ร้าย?” ระบุถึงการลาออกจากผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทยของนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ โดยระบุว่า ในฐานะนักสู้ปลุกความเชื่อของประชาชน ต่อต้านการจับมือกับ 3 ป. เรียกหาความยุติธรรมให้กับของคนเสื้อแดง
ดังนั้น ควรทำอะไรได้มากกว่าคำพูดหรู ประดิษฐ์ประดอยภาษาสวยว่า เดินส่งจนสุดทาง สามารถตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ และเดินไปต่อด้วยไม่ได้ แต่กลับไม่ยืนขวางที่เพื่อไทยตระบัดสัตย์ต่อประชาชน
นายจตุพร กล่าวอีกว่า น.ส.ทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ อดีต ส.ส.เชียงใหม่ กับนายณัฐวุฒิ ลาออกจากพรรคเพื่อไทยมีความแตกต่างกัน โดย น.ส.ทัศนีย์ หรือ “กุ้ง” เป็นอดีต สส. เพื่อไทย และได้แสดงจุดยืนทางการเมืองชัดเจน จนถูกทหารควบคุมตัวไปปรับทัศนคตินานนับเดือน กรณีรณรงค์ประชามติค้าน รธน. 2560
นอกจากนี้ ยังไม่เห็นด้วยกับเพื่อไทยไปจับมือตั้งรัฐบาลข้ามขั้วกับพรรคสนับสนุนรัฐประหารมาตั้งแต่ต้น สิ่งสำคัญเธอไม่ได้อยู่ในฐานะนักปลุกระดมคนทั้งประเทศให้หลงเชื่อว่า จะจับมือหรือไม่จับมือกับใคร แต่เธอเป็นคนซื่อสัตย์ต่อตัวเอง เมื่อเพื่อไทยจับมือกับพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) จึงยื่นลาออกจากพรรคอย่างไม่อินังขังขอบ
สำหรับนายณัฐวุฒินั้น ? นายจตุพร กล่าวว่า สิ่งสำคัญก่อนหน้านี้นายณัฐวุฒิ ต้องทำอะไรได้มากกว่าการลาออกจาก ผอ.ครอบครัวเพื่อไทย เพราะตำแหน่งนี้เป็นกำลังสำคัญบนเวทีปราศรัย แล้วประกาศทวงความยุติธรรมให้คนตาย พร้อมเรียกร้องให้คนเสื้อแดงกลับบ้าน ประกาศจะแก้กฎหมายป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) เพื่อประชาชนสามารถฟ้องตรงต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้โดยตรง
“ดังนั้น คุณ (นายณัฐวุฒิ) ต้องปฏิเสธอย่างแข็งขัน (กับการจับมือตั้งรัฐบาลข้ามขั้ว) แต่วันนี้กลับมาอธิบายว่า เดินมาส่งจนสุดทาง และเห็นว่านายเศรษฐา ทวีสิน จัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จแล้ว พร้อมเข้าใจเพื่อไทยที่ตัดสินใจเลือกจับมือตั้งรัฐบาลอย่างนั้น เพียงแต่ตัวเองไม่เห็นด้่วยจึงตัดสินใจยุติบทบาทในตำแหน่ง ผอ.ครอบครัวเพื่อไทย”
นายจตุพร เห็นว่า นายณัฐวุฒิ ประกาศตัวเป็นนักสู้และอยู่ในสนามรบที่มีคนตายเป็นร้อยศพ บาดเจ็บสองพัน และสิ้นอิสรภาพนับไม่ถ้วน ถ้าเขาควรทำมากกว่านี้ โดยแสดงจุดยืนตั้งแต่ในพรรคว่า เพื่อไทยจะไปจับมือกับ พปชร.และ รทสช.ไม่ได้ ทั้งๆ ที่ตัวเองยังเป็นตัวการประกาศไล่หนูตีงูเห่าอีก แล้วกลับมาทำได้แค่บอกว่า มาส่งได้แค่นี้ในวันที่นายเศรษฐา จะเป็นนายกฯ แล้วเพื่อไทยตั้งรัฐบาลกับกลุ่ม 3 ป.
อีกทั้ง ระบุว่า นายณัฐวุฒิ ต้องทำได้มากกว่านี้ในฐานะเป็นตัวหลักในการประกาศด้วยคำพูดสวยหรู วิพากษ์วิจารณ์ 3 ป. ยับเยิน ประกาศโครมๆ ทุกเวทีไม่จับมือกับพรรค 2 ลุง แต่กลับมาบอกว่า มาส่งได้แค่นี้และไปด้วยไม่ได้
“แทนที่จะยืนขวางเพื่อไทยตั้งแต่ต้นทาง เพราะตัวเองได้ปลุกประชาชนให้หลงเชื่อว่า จะจับมือกับใคร ไม่จับมือกับใคร ไม่เอา 3 ป. ไม่เอาลุง แล้วยังพูดถึงการต่อสู้ของพี่น้องคนเสื้อแดงที่สู้มาก่อน และต้องได้รับความยุติธรรม แต่บัดนี้ทำได้แค่นี้เหรอ แล้วยังพูดเอาดีอีกว่า ออกมาจะไม่เขวี้ยงก้อนหินใส่พรรค”
นายจตุพร กล่าวว่า การเขวี้ยงก้อนหินใส่พรรคนั้น ไม่ใช่เรื่องส่วนตัว เป็นเรื่องชีวิตของประชาชน ดังนั้น มีประชาชนอยู่ในสมการความคิดหรือไม่ ส่วนพรรคเป็นแค่องค์กรทางการเมืองหากไม่รักษาจุดยืนของตัวเอง เราต้องมีจุดยืนไม่เห็นด้วยกับการกระทำตระบัดสัตย์ที่เกี่ยวข้องกับความเป็นความตายของประชาชน แต่นายณัฐวุฒิ กลับมาพูดเอาหล่อเข้าตัวเพื่อลาออกจาก ผอ.ครอบครัว
“ขณะนี้ทุกคนอยู่บนความอยากเป็นรัฐบาลและบอกยอมกลืนเลือด แต่ไม่พูดว่าเป็นเลือดตัวเองหรือเลือดประชาชน แล้วถ้าพรรคการเมืองทำระยำอัปรีย์ จะไม่เขวี้ยงใส่อีกเหรอ”
อีกทั้ง นายณัฐวุฒิ ประกาศทุกเวที วิพากษ์ 3 ป. ย่อยยับหมด แล้วกลับมาบอกภารกิจจบแล้ว มาส่งวันสุดท้าย พร้อมเชื่อมั่นจะตั้งรัฐบาลสำเร็จ ซึ่งตนว่า ไม่แฟร์กับประชาชน และแตกต่างกับ น.ส.ทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ ที่ยืนฟาดในเรื่องนี้ตั้งแต่วันแรก แล้วยังไม่มีบทบาทไปปลุกผู้คนมาหลงเชื่ออีกด้วย
นอกจากนี้ ระบุว่า ถ้าในเรื่องพฤติกรรมส่วนตัวแล้ว เราไม่ร่วมกันได้ แต่เมื่อเป็นพฤติส่วนรวมของบ้านเมืองที่เกี่ยวข้องกับความตายของผู้คน พฤติกรรมเกี่ยวข้องกับการต่อสู้และตระบัดสัตย์ แล้วอย่างนี้จะไม่ยุ่งอีกหรือ
นายจตุพร กล่าวว่า เพื่อไทยไม่ใช่บ้าน เป็นแค่พรรคที่เป็นศูนย์รวมความเชื่อของผู้คน แล้วประกาศว่าตัวเองเชื่ออย่างไร ดังนั้น ต้องวิพากวิจารณ์ได้ ถ้าอย่างนั้นประชาชนอยู่ตรงไหนกับคำประกาศจุดยืนของความเป็นพรรคการเมือง และการวิพากษ์วิจารณ์เพื่อไทยที่ตระบัดสัตย์กับประชาชนนั้น ไม่ใช่เป็นการเขวี้ยงหินใส่บ้าน แต่เขวี้ยงใส่พรรคตระบัดสัตย์ ทรยศประชาชน
“เมื่อตัวเองไม่กล้าวิพากษ์ แต่มาส่งเขาจนถึงสำเร็จเป็นรัฐบาล และไม่ยืนขวางเพื่อไทยที่ไปทำตระบัดสัตย์ ทั้งๆ ที่ตัวเองเป็นนักพูดปลุกคนให้หลงเชื่อ ซึ่งเพื่อไทยไม่ใช่เรื่องของบ้านที่อยู่อาศัย แต่เป็นพรรคการเมืองที่ตระบัตสัตย์กับประชาชน”
นายจตุพร ย้ำว่า เมื่อวิพากษ์วิจารณ์ พปชร. กับ รทสช. โครมๆ ได้ในตอนหาเสียงเลือกตั้ง แล้ววันนี้พูดมาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งๆ ที่ควรทำอะไรได้มากกว่านี้ โดยต้องกล้ายืนขวางตั้งแต่ต้นกับเพื่อไทยไปจับมือตั้งรัฐบาลข้ามขั้ว โดยไม่ได้หวังถึงความสำเร็จ แต่ควรกล้ามีจุดยืนให้ชัดเจน เมื่อไม่ทำอะไรยังพูดมาส่งจนสุดทาง ได้เป็นรัฐบาลสำเร็จ ซึ่งตัวเองไปต่อไม่ได้ ทำได้แค่นี้เหรอ ประเทศไทยต้องมาก่อน.
ที่มา : Facebook @Jatuporn.UDD