ผู้ปกครองร้องสื่อ ครูลงโทษเด็ก ป.5 โยนเปตองไม่เข้า สั่งลุกนั่งจนเดินแทบไม่ได้
ผู้ปกครองร้องสื่อ ครูลงโทษเด็ก ป.5 ลุกนั่ง 100 ครั้ง เหตุโยนเปตองไม่เข้าและหัวเราะเพื่อน จนปวดหัว ไข้ขึ้น ปวดขาจนเดินแทบไม่ไหว
นายช่วย (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 67 ปี และ นางขวัญเรือน (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 40 ปี ตาและแม่ของ ด.ช.เอ (นามสมมติ) อายุ 11 ปี นักเรียนชั้น ป.5 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ได้เดินทางร้องสื่อมวลชน เกี่ยวกับการทำโทษเด็กนักเรียนที่รุนแรงเกินกว่าเหตุ
โดยผู้ปกครองของ ด.ช.เอ เล่าว่า นายเอ็ม (นามสมมติ) ครูสอนวิชาพละศึกษา ได้สั่งลงโทษลูกชายด้วยการให้ลุกนั่งจำนวน 100 ครั้ง สาเหตุเพราะครูไม่พอใจที่ลูกโยนลูกเปตองไม่เข้าเป้าตามจุด และหัวเราะเพื่อนตอนโยนลูกเปตองช่วงเรียนวิชาพลศึกษาด้วย ซึ่งการสั่งทำโทษให้ลูกชายลุกนั่งถึง 100 ครั้ง ทำให้ลูกชายปวดหัว ไข้ขึ้น คลื่นไส้อาเจียน และมีอาการปวดขามากจนเดินแทบไม่ไหว จนต้องพาไปให้หมอตรวจเพราะเกรงจะเกิดผลข้างเคียง เหตุเกิดวันที่ 10 ส.ค.ที่ผ่านมา
จากการสอบถาม ด.ช.เอ กล่าวว่า ช่วงเวลาประมาณ 10.00 น.ของวันที่ 10 ส.ค.ที่ผ่านมา ตนกับเพื่อนในห้องก็ไปเรียนวิชาพลศึกษา โดยครูให้เรียนเทคนิคการโยนลูกเปตอง ตอนแรกตนโยนลูกเปตองไม่เข้าเป้าตรงตามจุด แล้วพอเพื่อนโยนลูกเปตองไม่ได้เหมือนกัน ตนกับเพื่อนผู้หญิงก็หัวเราะกัน ทำให้ครูไม่พอใจจึงสั่งลงโทษด้วยการให้ลุกนั่ง 100 ครั้ง
ตนโยนเปตองไม่เข้า ทำให้ครูไม่พอใจ ในระหว่างที่เพื่อนเล่นพวกตนกับเพื่อนอีกคนหนึ่งก็หัวเราะสนุกสนานกัน ครูจึงสั่งให้ตนกับเพื่อนหญิงอีกคน ลุกนั่ง 100 ครั้งเพื่อเป็นการลงโทษ พอทำครบ 100 ครั้ง ก็มีอาการปวดหัวไข้สูง คลื่นไส้ อาเจียน และปวดขามากจนเดินแทบไม่ไหว
ขณะที่ผู้เป็นแม่ กล่าวว่า ในฐานะคนเป็นแม่รับไม่ได้กับการลงโทษของครูพละ ที่สั่งให้ลุกนั่งถึง 100 ครั้ง ส่วนตัวมองว่าลงโทษรุนแรงเกินกว่าเหตุ จนทำให้ลูกมีอาการไข้สูง ปวดหัวคลื่นไส้อาเจียนและปวดขามากเดินแทบไม่ไหว จึงได้พาลูกไปหาหมอ และวันนี้ก็มาตรวจร่างกายอีกรอบที่ รพ.สต. เพราะลูกยังมีอาการปวดหัวคลื่นไส้อยู่
ออกมาร้องเรียนไม่ได้อยากเอาผิดกับครู แต่อยากให้ปรับปรุงวิธีการทำโทษเด็กนักเรียนใหม่ให้เหมาะสมกับวัย เพราะเขายังเป็นเด็กทำผิดก็ควรจะตักเตือนหรือลงโทษที่เบากว่านี้ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นนอกจากจะกระทบต่อร่างกายแล้วยังส่งผลต่อสภาพจิตใจลูกชายด้วย เพราะตั้งแต่วันที่ถูกทำโทษก็กลายเป็นเด็กซึม ไม่ร่าเริง และรู้สึกเสียใจเพราะตั้งแต่เกิดเหตุจนขณะนี้เกือบสัปดาห์แล้ว ครูยังไม่เคยกล่าวขอโทษสักคำ แค่เอายาทามาให้น้องที่บ้านแล้วก็กลับ
ด้าน นายช่วย กล่าวว่า การลงโทษด้วยการให้ลุกนั่งถึง 100 ครั้ง ส่วนตัวมองว่าเกินกว่าเหตุเพราะหลานเป็นนักเรียนไม่ใช่ทหาร ที่จะต้องลงโทษหนักขนาดนั้น และสิ่งที่เด็กทำผิดก็ไม่ได้ร้ายแรงที่จะต้องลงโทษหนักด้วย ก็อยากให้ครู และโรงเรียนรับผิดชอบ เพราะหลังเกิดเหตุหลานก็เหงาซึมผิดปกติ และอยากฝากถึงทางโรงเรียนควรปรับปรุงการลงโทษนักเรียนให้เหมาะสมกับวัย
จากนั้น ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่โรงเรียนเพื่อจะสอบถาม ผอ.เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ผอ.ไม่สะดวกให้สัมภาษณ์ แต่ให้ข้อมูลว่า ได้รับทราบเรื่องและเรียกครูคนดังกล่าวมาตักเตือนแล้ว พร้อมรับปากว่าจะกำชับครูทุกคนไม่ให้ทำโทษเด็กที่เกินกว่าเหตุ หากเด็กทำผิดก็ให้ตักเตือนหรือทำกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์แทน