‘ราเมศ’ ถาม ‘หมออ๋อง’ ไม่อายหมาข้ามทางม้าลายหรือ หลังโพสต์เบียร์ลงโซเชี่ยล
ราเมศ ถามแรง หมออ๋อง ไม่อายหมาข้ามทางม้าลายหรือ กรณีโพสต์คราฟต์เบียร์ลงโซเชี่ยล จี้หน่วยงานบังบังคับใช้กฎหมายอย่างเท่าเทียม
นาย ราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นาย ปดิพัทธ์ สันติภาดา หรือ หมออ๋อง สส.พิษณุโลกและรองประธานสภาฯ คนที่ 1 โพสต์ภาพเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ลงเฟซบุ๊ก จนนำไปสู่กระแสวิพากษ์วิจารณ์และตั้งคำถามว่าผิดกฎหมายหรือไม่ตามที่มีรายงานไปก่อนหน้านี้
โดยนายราเมศกล่าวว่า ข้อเท็จจริงจากคำให้สัมภาษณ์ของนายปดิพัทธ์ เป็นคำให้การยอมรับสารภาพอยู่ในตัว
“ไม่น่าเชื่อว่าคนที่เป็นถึงรองประธานสภาผู้แทนราษฏร แต่กลับแสดงความเห็นในเรื่องหลักการกฎหมายบ้านเมือง มีตรรกะที่ผิดเพื้ยนทั้งสิ้น คนที่มีสติปัญญาเขาไม่พูดออกมาเช่นนั้นแน่นอน ที่บอกว่าการโพสต์รูปคราฟเบียร์ ว่า เป็นเรื่องปกติ ความจริงคนที่โพสต์ผิดปกติมากกว่า”
นายราเมศกล่าวว่า คำรับสารภาพที่ชัดเจน คือการยอมรับว่ากฎหมายห้ามโฆษณามีตอนปี 2551 ความหมายคือ คุณรู้อยู่แล้วว่ามีกฎหมายห้าม เมื่อมีการกระทำใดที่มีลักษณะเข้าองค์ประกอบความผิดก็ต้องดำเนินคดี จะมาอ้างว่ากฎหมายผิดปกติ ไม่มีความชอบธรรม ต้องมีการแก้ไข ซึ่งอนาคตจะมีการแก้ไขตามความต้องการของใคร ก็เป็นเรื่องของอนาคต แต่ขณะนี้กฎหมายห้ามโฆษณาแอลกอฮอล์ยังใช้บังคับอยู่ ขอให้เอาเหตุผลที่พูด ไปแก้ตัวในชั้นศาล ตนอยากรู้เช่นกันว่าจะฟังขึ้นหรือไม่
ส่วนที่นายปดิพัทธ์ กล่าวว่าตนเป็นรองประธานสภาไม่ใช่เสมียนบรรจุกฎหมาย ก็ต้องมีความคิดที่จะเสนอต่อสังคมได้ นายราเมศกล่าวว่า ประเด็นนี้ คุณเป็นรองประธานสภาคนที่ 1 คุณไม่ได้อยู่เหนือกฎหมาย คุณต้องมีจิตสำนึกเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับประชาชน มิหนำซ้ำยังกระแหนะกระแหนว่าตนเป็นรองประธานสภาไม่ได้เป็นเสมียนตรากฎหมาย เรื่องนี้หลักการความเป็นมนุษย์เท่ากัน เสมียนตรากฎหมาย อาจจะมีจิตสำนึกมากกว่าคนที่เป็นรองประธานสภา ที่พูดมาไม่อายสุนัขที่ข้ามทางม้าลายเลยหรือ
นายราเมศกล่าวด้วยว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ต้องดำเนินการให้มีการบังคับใช้กฎหมายต่อประชาชนอย่างเท่าเทียมกัน แต่ถ้าจะบอกว่ากฎหมายมาตราดังกล่าว ยกเว้นให้รองประธานสภาคนที่ 1 ทำได้ ก็แจ้งมาเท่านั้นเอง ส่วนเรื่องจริยธรรมก็ว่ากันไปตามขั้นตอนของสภา ก็ต้องยอมรับผลจากการกระทำ ไม่ต้องไปโทษคนอื่น