‘ศิธา’ ฝากถึง ‘เพื่อไทย’ อย่าเป็นนั่งร้านให้เผด็จการสืบอำนาจ
ศิธา ทิวารี ฝากถึง เพื่อไทย อย่าเป็นนั่งร้านให้เผด็จการสืบอำนาจ ขอให้จับมือกับก้าวไกลไว้ เพราะประชาชนเลือกมาแล้ว
น.ต.ศิธา ทิวารี แกนนำพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) โพสต์เฟซบุ๊กแสดงความเห็นถึงสถานการณ์การเมืองไทย และฝากข้อความถึงพรรคเพื่อไทยว่า อย่าทำตัวเป็นนั่งร้านให้เผด็จการ สู้เพื่อประชาธิปไตยและเจตจำนงของประชาชน โดยระบุว่า ”
คนที่ 1 ลุงอยากกลับบ้าน คุณลุงเชี่ยวชาญ เรื่องการปั้นนายกฯ (ผมตามเชียร์ตลอด 4 คนแล้ว เข้าทุกแมตช์) คนที่ 2 ลุงอยากเป็นนายกฯ แกช่ำชองเรื่องการเป่าคดี ให้เงียบหาย (หรือลดเวลาให้ได้ นาฬิกาแกเยอะ)
ถ้าประชาชนปล่อยให้ 2 ลุง ดีลลับ ต่างตอบแทนกันเอง ทั้งคู่จะ Happy Ending คน 1 ได้กลับบ้าน คน 1 อาจได้เป็นนายกฯ ทั้งนายทุน, นักการเมือง, เผด็จการ และผู้หากินจากการสูบเงินงบประมาณภาครัฐ ต่างสมประโยชน์ Happy กันถ้วนหน้า แต่ไทยพื้นบ้าน อย่างพวกเราๆ รวมถึงลูกหลานไทยในอนาคต มีแต่เสียประโยชน์
ถ้าเราทำตัวเป็นไทยเฉย ปล่อยให้เป็นแบบที่กล่าวข้างต้น พวกเราจะต้องอยู่ใต้อำนาจ หรือการบงการของลุงกันต่อไป อาจเป็น 4 ปี 8 ปี 16 ปี ไม่มีใครทราบ จนในที่สุดประเทศไทยจะถูกสูบสิ่งดีๆ จนไม่เหลืออะไรที่มีค่าเพียงพอ ที่จะส่งต่อให้ลูกหลานอีกต่อไป
ทั้งที่รออีกไม่เกิน 10 เดือน สว.หมดวาระ พวกเราก็จะขุดรากถอนโคน ให้เผด็จการสูญพันธุ์ไปจากประเทศไทย กันได้อยู่แล้ว มันเหลืออีกแค่นิดเดียวจริงๆ
เราต้องสนับสนุนให้ทั้ง 2 ลุง ได้กลับบ้านไปเลี้ยงหลานกันทั้งคู่ หลีกไปให้ไกลการเมือง
ลุงคนแรก อดีตนายกฯทักษิณ คุณลุงไม่ได้เป็นผู้ร้ายหนีคดี อย่างที่สลิ่มพยายามป้ายสี แต่คุณลุงคือ ผู้ลี้ภัยทางการเมือง ที่ไม่ยอมรับการพิจารณาคดี 2 มาตรฐาน อันเกิดจากผลพวงของการรัฐประหาร ผ่าน คตส. และองค์กรอิสระ ที่เผด็จการตั้งคนของตัวเองเข้าไปควบคุมบงการ จนเกิดเป็นกระบวนการยุติความเป็นธรรมในไทย
การสนับสนุนลุงโทนี่ ให้ได้กลับบ้านเลี้ยงหลาน ต้องเปิดโอกาสให้คุณลุงได้รับความเป็นธรรม อย่างแท้จริง ด้วยการทำกระบวนการยุติธรรมให้โปร่งใส โดยการออกกฎหมายให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบทางคดีจากการรัฐประหาร สามารถยื่นอุทธรณ์ให้ศาลพิจารณาคดีใหม่ โดยใช้กระบวนการ 3 ศาลตามมาตรฐานสากล
ลุงท่านนึ้จะได้กลับบ้านมาสู้คดีอย่างเป็นธรรม โดยการอนุญาตให้ประกันตัว อยู่ที่การพิจารณาของศาล ตามกระบวนการปกติ
ลุงคนที่ 2 ใช้ใจบันดาลแรง ขับเคลื่อน ความอยากเป็นนายกฯ ตามลูกยุจากลิ่วล้อและนายทุนที่หวังประโยชน์จากการเกาะกินงบประมาณประเทศ ซึ่งที่ผ่านมาขออะไรแกก็ให้หมด เมื่อโดนลูกยุมากเข้า จึงอยากจะสำเร็จดังหวัง ได้เป็นนายกฯ สักครั้งในบั้นปลายชีวิต
การสนับสนุนลุงคนนี้ ให้ได้กลับบ้านไปเลี้ยงหลาน ทำได้ด้วยการจับมือกันของ 2 พรรคใหญ่ฝ่ายประชาธิปไตย เพื่อไทย และก้าวไกล แพ็คกันเป็น 292 เสียง++
ผมจึงได้เสนอให้ทำ AdvanceMOU 2 พรรคทำสัญญาจับมือกันให้แน่น จะเป็นเกราะเหล็กชนิดเดียว ที่จะป้องกันเผด็จการ ไม่ให้หวนกลับมาทำร้ายประเทศไทยได้อีก
พวกเราต้องส่งสัญญาณถึงนักการเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้บริหารพรรคเพื่อไทย “เหลืออีกนิดเดียว ประชาชนที่รัก ประชาธิปไตย เรากำลังจะชนะอยู่แล้ว” ความอยากของนักการเมือง ต้องไม่อยู่เหนือเจตนารมณ์ของประชาชน
สิ่งสุดท้ายที่อยากจะกล่าวคือ ผมมีความเชื่อมั่นว่า อดีตนายกฯทักษิณจะกลับบ้านได้ ต้องกลับมาแบบที่ประชาชนสนับสนุนและชื่นชม แห่กันไปต้อนรับถึงสนามบิน ผมคนนึงที่อยากไปต้อนรับท่านด้วยความยินดีถึงที่
ไม่ใช่กลับมาด้วยกระบวนการที่ผู้บริหารเพื่อไทย กำลังทำอยู่ในปัจจุบัน จนคนแห่กันไปโห่ขับไล่ แบบที่เกิดขึ้น ณ ที่ทำการพรรค ในทุกวันนี้
รวมกันเถิด เพื่อไทย+ก้าวไกล 292 เสียง ประชาชนไม่ได้เลือกท่านมา เพื่อให้ไปเป็นนั่งร้านให้เผด็จการสืบทอดอำนาจ
สู้เพื่อประชาธิปไตย ตามเจตนารมณ์ของผู้ลงคะแนน แล้วประชาชนจะเป็น ผนังทองแดงกำแพงเหล็ก ที่แท้จริงให้ กลับบ้านเรารักรออยู่
กดติดตามเพจเฟซบุ๊ก Thaiger เพจใหม่ ไม่พลาดทุกข่าวสาร คลิกที่นี่