ข่าวดาราบันเทิง

‘เมย์ ปทิดา’ ร้องไห้ตาบวม เหตุตรวจตอนจบ ‘กรงดอกสร้อย’ แฟนคลับแห่แซวเอ็นดู

แฟนคลับสุดเอ็นดูว “เมย์ ปทิดา” โพสต์ภาพชวนเศร้า “ร้องไห้ตาบวมแก้มตุ่ย” สาเหตุจาก ตรวจไฟนอลตอนจบ EP16 ละครกรงดอกสร้อยตลอดทั้งคืน

เมื่อวันจันทร์ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2566 “เมย์ ปทิดา กำเนิดพลอย” นักแสดงหญิงชาวไทยคนดัง วัย 47 ปี ได้โพสต์ภาพตนเอง ขณะร้องไห้น้ำตาไหลริน พร้อมใบหน้าที่บวมแดง พร้อมกับแคปชั่นอธิบายสาเหตุว่าเกิดจากการ ตรวจไฟนอลตอนจบ EP16 ละครกรงดอกสร้อย โดยระบุข้อความบนอินสตาแกรมส่วนตัว @mayfuang ความว่า

Advertisements

“ตาบวม ตรวจFinalตอนจบEP16ละครกรงดอกสร้อยแบบสุดท้ายจริงๆเพิ่อส่งช่อง ตัดเองทำเองยังร้อง คุณผู้ชมจะเป็นยังไงน้อ..หรือเขาอาจจะไม่ร้องเหมือนเราก็ได้เนอะ #กรงดอกสร้อย”

ต่อมาสาว “ญญ่า ธัญญาเรศ” เพื่อนนักแสดง ก็เข้ามาคอมเมนต์แซวด้วยความเอ็นดูว่า “โถถถถ..เอ็นดูว” ทางด้านของ หนิง ปณิตา ผู้จัดละคร ถึงกับเข้ามาให้กำลังใจ “สู้ๆๆๆ”

 

ดูโพสต์นี้บน Instagram

 

โพสต์ที่แชร์โดย May Fuangarom (@mayfuang)

แฟนคลับและแฟนละครกรงดอกสร้องก็ไม่น้อยหน้า ต่างแห่ตบเท้าเร่เข้ามาแสดงความคิดเห็นกันอย่างเนืองแน่นจนไอจีแทบแตก อาทิ

เมย์ ปทิดา ร้องไห้ กรงดอกสร้อย

Advertisements

“สงสารพระเอกค่ะ​ น้องภณเล่นดีมาก​ ร้องตามตลอดเลยค่ะ​”

“สนุกจริงค่ะทีมดูสดน้องภณหล่อมากๆค่ะเรื่องนี้”

“พี่เมย์ ร้องขนาดนี้ หนูไม่กล้าดูเลยนะคะ กลัวปอดจะพัง”

“อย่าใจร้ายกับพระเอก นางเอกนะคะ ทรมานจิตใจ”

“บทดี​ เดินเรื่องสนุก​ ตัวละครทันกันหมด ไม่มีอ้ำๆอึ้งๆให้ต้องรำคาญ​เลยค่ะ​”

“ขนาดยังไม่จบ เมื่อว่านเห็นพระเอกมาเจอนางเอกโรงเย็บผ้าพระเอกน้ำตาซึบ อิฉันยังร้องไห้เลยคะ ยิ่งเพลงลิเดียขึ้นบ่าวอย่างอิฉันยิ่งร้องสุดจะกลั้นคะ ปวดร้าวคะเจ้า”

กดติดตามเพจเฟซบุ๊ก Thaiger เพจใหม่ ไม่พลาดทุกข่าวสาร คลิกที่นี่

เมย์ ปทิดา ร้องไห้ 2023 เมย์ปทิดา ร้องไห้ 2566 เมย์ ปทิดา ร้องไห้น้ำตาแตก

Thosapol

นักเขียนบทความที่ Thaiger จบการศึกษาจากคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ เชี่ยวชาญเรื่องบทความท่องเที่ยว บันเทิง ไลฟ์สไตล์ ผ่านการค้นหาข้อมูลโดยละเอียดพร้อมด้วยประสบการณ์ตรงของตัวเอง งานอดิเรกมีความสนใจในกระแสข่าวรอบตัวต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านสุขภาพ สังคม การเมือง และที่สำคัญคือเป็นทาสแมวร้อยเปอร์เซ็นต์ครับ ช่องทางติดต่อ thospol@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button