สาวเกือบขิต ‘สั่งผัดเผ็ดแถมตะขอเบ็ด’ หลอนคาช้อน อาจได้เป็นมื้อสุดท้าย
สาวสุดซวย เกือบตักตะขอเบ็ดตกปลาพร้อมสายเอ็นเข้าปาก หลังพบอยู่ในเมนูจานผัดเผ็ดปลาดุก เตือนผู้บริโภคเช็กทุกครั้งก่อนตักอาหาร ทางร้านรับผิดพร้อมคืนเงินให้ 120 บาท
เมื่อเวลา 21.00 น. วันอาทิตย์ที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2566 สื่อสำนักข่าวบนโซเชียล ได้มีการแชร์เรื่องราวของ นางสาว “จูน” พนักงานบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ย่าน อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ปัจจุบันอายุ 31 ว่าเธอได้บังเอิญเจอ “เบ็ดตกปลา” อยู่ในอาหารผัดเผ็ดปลาดุกใบยี่หร่า ที่สั่งซื้อผ่านช่องทางเดลิเวอรี่ ของร้านแห่งหนึ่ง ในอำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี
ภายในคลิปถ่ายจากกล้องมือถือสมาร์ทโฟนเป็นภาพอาหารในช้อนที่ตักพร้อมรับประทาน ก่อนจะพบเบ็ดตกปลาขนาดความยาวประมาณกว่า 1 เซนติเมตร ซึ่งติดอยู่กับไส้ปลา
ทั้งนี้ เพื่อนของ นางสาว จูน จึงใช้มือแกะออกมาพร้อมกับยกถ่ายให้เห็น ยังพบกับสายเอ็ดเบ็ดติดมาด้วย จึงได้นำไปวางลงในชามอาหารเพื่อให้ถ่ายชัดเจนขึ้นพร้อมกับพูดว่า “เบ็ดตกปลาค่ะ”
ทว่าแท้จริงแล้ว เหตุการณ์ดราม่าดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2566 ที่ผ่านมาในช่วงบ่ายวันนั้นเอง ที่นางสาว จูน ได้สั่งอาหารผ่านทางแอปพลิเคชั่นเดลิเวอรี่ เป็นเมนู “ผัดเผ็ดปลาดุกใบยี่หร่าข้าวเปล่า” และ “ข้าวปลาแกะ”
ต่อมาเมื่อตนกับเพื่อนกำลังแกะถุงจะทานอาหารกัน จึงเลือกแกะถุงผัดเผ็ดปลาดุกก่อน ก่อนจะตักแบ่งออกมาจากถุง เพื่อจะเก็บไว้ทานในมื่้ออาหารถัดไป
ทั้งนี้ ตนทานไปได้ 1 คำและกำลังจะตักคำที่ 2 มาทาน ระบุว่าตนเองได้เลือกตักในส่วนของพุงปลาเนื่องจากว่าชอบรับประทานเป็นพิเศษ
จากนั้นก็ตักขึ้นมาพร้อมข้าว1 คำพูน ๆ แล้วบังเอิญได้เหลือบไปมองเห็นช้อนข้าวตัวเองว่ามีวัตถุแปลกประหลาด ลักษณะเป็นเส้นเงาวับคล้ายโลหะ
ตอนแรกนั้นตนคิดในใจว่าน่าจะเป็นเครื่องในปลาหรือเปล่า หรือเส้นเลือดปลา จากนั้นจึงใช้ส้อมเขี่ย ๆ ดูก่อน จึงพบว่าเป็นเบ็ดตกปลาอันใหญ่ ตนตกใจมากจึงรุดเร่งบอกเพื่อนว่าเจอเบ็ดตกปลาในพุงปลาดุก
เพื่อนอึ้งไปพักใหญ่ถามว่าเป็นไปได้อย่างไรกัน จากนั้นเพื่อนเลยให้เอาสิ่งแปลกปลอมวางลงในชามเพื่อดูให้แน่ใจอีกทีว่าใช่หรือเปล่า จึงพบว่ามันใช่เบ็ดตกปลาขอจริงแท้แน่นอน
อย่างไรก็ตาม นางสาว จูน ก็ให้เพื่อนถือแล้วถ่ายคลิปถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐาน เพื่อนำไปแจ้งทางร้านอาหารว่ามันเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น
จากนั้นตนก็รีบโทรแจ้งรายงานทางร้านว่าอาหารที่สั่งเมนูผัดเผ็ดปลาดุก ว่าพบสิ่งแปลกปลอมในอาหาร ทั้งยังมีเบ็ดตกปลาอยู่ในพุงปลา ก่อนที่ทางร้านก็ตกใจว่าเป็นไปได้อย่างไรเพราะทางร้านยืนยันว่าทำความสะอาดดีแล้ว
แต่ทางนางสาวจูน ก็ยืนยันอย่างมั่นใจ แล้วถามย้ำทางร้านว่าล้างทำความสะอาดดีหรือเปล่า ซึ่งทางร้านก็จะทำผัดเผ็ดปลาดุกมาให้ใหม่ แต่ตนไม่สะดวกใจ กลัวจึงไม่รับขอคืนเป็นเงินดีกว่า ล่าสุด ทางร้านก็รับผิดชอบคืนเงินแค่ค่าผัดเผ็ดปลาดุกมาในราคา 120 บาทครบถ้วนสมบูรณ์
จากเหตุการณ์ดังกล่าว เป็นข้อเตือนใจได้เป็นอย่างดีทั้งทางฝั่งผู้ประกอบการที่ต้องหมั่นตรวจดูวัตถุดิบให้ได้คุณภาพมาตรฐานอยู่สม่ำเสมอ และผู้บริโภคเองที่ต้องระมัดระวังในการตักอาหารเข้าปากแต่ละครั้ง แม้ว่าจะไม่ใช่หน้าที่ที่เราต้องรับผิดชอบเลย แต่ในสังคมที่มาตรฐานความสะอาดของร้านอาหารส่วนใหญ่ยังมีประสิทธิภาพไม่เพียงพอนั้น ก็ทำให้เราต้องหมั่นตรวจเช็กให้ได้สม่ำเสมออีกด้วยเช่นกัน.