ตร.ไซเบอร์ ออกหมายเรียก ‘มาริโอ้’ ให้ปากคำ พบเชื่อมโยงแก๊งสวมทะเบียนรถ
ตำรวจไซเบอร์ จ่อเรียก ‘มาริโอ้ เมาเรอร์’ นัดหารือ วางแผนแนวทางขยายผลสอบปากคำเพิ่มเติม ปมเอี่ยวโยงแก๊งสวมทะเบียนรถ
วันที่ 6 สิงหาคม 2566 จากกรณีชุด พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผบ.ตร. ในฐานะ ผอ.ศูนย์ปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์ รถจักรยานยนต์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมกับกรมขนส่งทางบก ทางบก และตำรวจกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี
(บช.สอท.) เปิดปฏิบัติการ “พลิกถนนล่า รหัสโจรกรรม” จับกุมนายเสถียร เรืองสมุทร อายุ 38 ปี และนายศริสร สุทธิเจต อายุ 44 ปี สองผู้ต้องหาแก๊งสวมทะเบียนรถ โดยแอบใช้รหัสยูสเซอร์เนอม-พาสเวิร์ดของเจ้าหน้าที่ขนส่ง เข้าไปเจาะข้อมูลเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อมูลรถยนต์ จากนั้นไปแจ้งหายเพื่อทำเล่มทะเบียนใหม่ ก่อนนำไปจำนำหรือขาย โดยปูพรมยึดรถได้65 คัน มูลค่ากว่า 77 ล้านบาท
สำหรับลูกค้าส่วนใหญ่มีทั้งดารานักแสดงดัง ในจำนวนนี้มีพระเอกชื่อดังอักษรย่อ “ม.”กลุ่มไฮโซและคนเล่นรถโบราณ เบื้องต้นตำรวจออกหมายเรียกมาสอบปากคำ ก่อนที่ต่อมาทางมาริโอ้ เมาเร่อ หรือนายณัฐวุฒิ สุวรรณรัตน์ อายุ 34 ปี นักแสดงชื่อดังได้ออกมายอมรับว่าเป็นดารา “ม” ที่มีชื่อเอี่ยวโยงแก๊งดังกล่าว หลังซื้อรถมาจากรุ่นพี่ที่รู้จัก พร้อมยืนยันความบริสุทธิ์ใจเตรียมให้ปากคำกับทางตำรวจ
พล.ต.ต. อำนาจ ไตรพจน์ รองผบช.สอท เปิดเผยว่า ทางชุดทำงานได้มีการออกหมายเรียกมาริโอ้ นักแสดงหนุ่มเข้าให้ปากคำแล้ว ตั้งแต่วันที่ 14 ก.ค.ที่ผ่านมา และยังไม่ได้มีการให้การเป็นลายลักษณ์อักษร โดยระหว่างนั้นได้มีการพูดคุยให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวนในเบื้องต้นว่าซื้อรถต่อมาอีกทอดหนึ่ง ไม่ใช่การซื้อซากรถแล้วนำมาประกอบ ซึ่งเป็นการซื้อรถมาพร้อมกับเอกสารทะเบียนเล่ม จึงไม่รู้ว่าเป็นของจริงหรือปลอม ซึ่งในส่วนนี้เพื่อความชัดเจนจะต้องเรียกนักแสดงหนุ่มให้ปากคำ พร้อมนำเอกสารหลักฐานมาแสดง ส่วนจะเป็นวันเวลาใดนั้นอยู่ระหว่างการประสาน
พล.ต.ต. อำนาจ ระบุว่าในวันพรุ่งนี้ 7 สิงหาคม จะเรียกชุดทำงานและพนักงานสอบสวน หารือวางแนวทางในการขยายผลเพื่อที่จะสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตามคดีนี้ทางพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. ในฐานะผอ.ศูนย์ปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์ รถจักรยานยนต์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. ได้สั่งการให้ขยายผลการจับกุม พร้อมเน้นย้ำให้ชุดทำงานดำเนินการรัดกุม ทำงานตรงไปตรงมา หากพบพยานหลักฐานเชื่อมโยงไปที่กลุ่มบุคคลใดที่ส่อไปในการกระทำผิดก็ต้องดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป
ภาพจาก Instagram : mario_mm38