‘มาริโอ้’ รับเป็น ดารา ม. ถูกตำรวจเรียกสอบปากคำ กรณีสวมทะเบียนรถยนต์ แต่ไม่ได้กังวล เนื่องจากตนเป็นผู้เสียหาย และได้รับเงินคืนเรียบร้อยแล้ว
จากกรณีที่ศูนย์ปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์ รถจักรยานยนต์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รวบ 2 ตัวการ ซึ่งเป็นแก๊งสวมทะเบียนรถยนต์ โดยอาศัยความสนิทในการจำรหัส “ยูสเซอร์เนม-พาสเวิร์ด” ของเจ้าหน้าที่ แล้วลักลอบเจาะข้อมูลระบบขนส่ง เข้าไปแก้ไขข้อมูลรถยนต์ผ่านไวไฟ ก่อนส่งขายต่อ โดยทำมากว่า 65 คันในรอบปี เจ้าหน้าที่สามารถยึดของกลางรถหรูและซากรถ พร้อมแท่นปั๊มและแผ่นเพลท รวมมูลค่ากว่า 77 ล้าน
ซึ่งกรณีสวมทะเบียนรถยนต์นี้ ด้านตำรวจไซเบอร์เร่งประสานศุลกากรเรียกสอบปากคำกลุ่มคนที่นิยมรถมือสอง รวมถึงดาราชาย อักษรย่อ ม.ม้า ที่อาจเข้าข่ายแก๊งสวมทะเบียนรถ ล่าสุด วันเสาร์ที่ 5 สิงหาคม 2566 ‘มาริโอ้ เมาเร่อ’ นักแสดงชายชื่อดัง ออกมาให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน พร้อมรับว่ามาริโอ้คือ ดารา ม. ท่านนั้นเอง แม้จะตกใจที่ถูกตำรวจเรียกสอบปากคำ กรณีสวมทะเบียนรถ แต่ตอนนี้ก็ได้คุยกับทางตำรวจแล้ว แต่ยังไม่มีโอกาสเข้าไปให้ปากคำ คาดว่าน่าจะภายใน 1-2 วันนี้
โดยมาริโอ้ ก็ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนถึงกรณีดังกล่าวว่า ตนได้มีโอกาสเห็นข่าวแก๊งสวมทะเบียนรถยนต์ดังกล่าวแล้ว อักษรย่อ ม ผมเอง ซึ่งเขาได้ติดต่อกับทางตำรวจและพูดคุยกันส่วนหนึ่งแล้ว
นอกจากนี้ มาริโอ้ยังได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการซื้อรถยนต์คันดังกล่าวอีกว่า เริ่มจากไปซื้อรถกับรุ่นพี่ แต่ก็ไม่ได้ของ รุ่นพี่ก็เลยคืนเงิน ทั้งนี้ทั้งนั้น ทะเบียนรถก็เป็นชื่อเขาไปแล้ว เพราะเหตุนี้ทางตำรวจจึงติดต่อมาให้ไปให้ปากคำว่า ต้นตอมายังไง
แต่ในขั้นต้นก็ได้คุยกับทางตำรวจแล้ว เพราะตนก็เป็นผู้เสียหาย ตอนแรกยอมรับว่าตกใจและงง แต่ทางตำรวจบอกไม่ต้องกังวล ให้ไปสอบปากคำเพื่อประโยชน์ทางรูปคดีเท่านั้น ซึ่งมาริโอ้ก็ได้คุยกับทางรุ่นพี่แล้ว รุ่นพี่ของมาริโอ้เองก็โดนหลอกมาด้วยเช่นกัน
ตอนซื้อก็ทำสัญญาเรียบร้อยแล้ว หลังจากนี้ก็ไปให้ปากคำ ตนไม่ได้กังวล เป็นแค่คนที่อยากซื้อรถ เห็นรถมีทะเบียนถูกต้องเลยซื้อ และเมื่อสื่อมวลชนถามว่า ได้คุยกับรุ่นหรือไม่ ทำไมถึงเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น โดยมาริโอ้ก็ตอบว่า รุ่นพี่บอกว่าอยู่ที่ต้นขั้ว มีการปรับเปลี่ยนข้อมูล ตนก็ไม่ทราบเหมือนกัน เพราะมาริโอ้ซื้อประมาณคนที่ 2 (แบบขายทอด) ได้เงินคืนเรียบร้อยแล้ว
เมื่อถามว่า เคยเจอเหตุการณ์นี้หรือไม่ มาริโอ้ก็ตอบว่า ไม่เคยเลย เพราะก่อนซื้อก็เช็กให้ละเอียดตลอดอยู่แล้ว ทั้งเรื่องของทะเบียน โอนที่ขนส่งหรือเปล่า เช็กอยู่เป็นประจำ ได้รับค่าเสียหายคืนแล้ว ไม่ได้เดือดร้อนอะไร ซึ่งเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อสองเดือนก่อน รถมูลค่าล้านกว่าบาท ก็จะระวังมากขึ้น สรุปก็คือไปซื้อรถแล้วโดนเขาหลอก
และกรณีสวมทะเบียนรถ ก็เป็นอีกหนึ่งประเด็นการซื้อขายที่ไม่ถูกต้อง โดยที่ผู้ซื้อไม่สามารถทราบต้นตอหรือที่มาของสินค้าได้อย่างชัดเจน แม้จะได้ตรวจสอบอย่างละเอียดก่อนซื้ออย่างเช่นคุณมาริโอ้แล้วก็ตาม ดังนั้น หากต้องการซื้อสินค้าที่มีมูลค่าสูง ควรตรวจสอบอย่างละเอียดถี่ถ้วน และทางที่ดีควรซื้อกับช่องทางที่น่าเชื่อถือและเช็กเครดิตได้ อาจจะเป็นตัวช่วยอีกทางหนึ่งได้ค่ะ