ข่าวข่าวการเมืองเลือกตั้ง 66

สูตรรัฐบาลหักหลังถ้วนหน้า 264 เสียง ของชูวิทย์ เพจสรยุทธถึงกับลั่นแรง “ต้องเก็บไว้ดู”

แม่นเหมือนมาจากอนาคต สูตรรัฐบาลหักหลังถ้วนหน้าของ ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หลังเคยโพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก ก่อนเป็นจริงหลังแถลงการณ์พรรคเพื่อไทย ผลักก้าวไกล ไปเป็นฝ่ายค้านจริง ๆ วันนี้ เพจข่าวสรยุทธ ถึงกับต้องบอก เก็บไว้ดู หลังสุดท้ายมหากาพย์ ซีรีส์เกมชิงอำนาจการเมืองไทย เก้าอี้นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 จ่อได้บทสรุปวันโหวตนายกรอบ 3

วันที่ 2 สิงหาคม เวลา 15.22 น. ระยะเวลาไม่นานหลังจากแถลงการณ์ของพรรคเพื่อไทย ซึ่งระบุชัดเจนว่าเตรียมจับมือจัดตั้งรัฐบาลใหม่ 2566 โดยไม่มีชื่อของ ก้าวไกล เป็นพรรคฝ่ายร่วมรัฐบาล โดยเหตุผลจากประเด็นแก้กฏหมายมาตรา 112 และความไม่เห็นชอบจาก สมาชิกวุฒิสภา (สว.) และสมาชกสภาผุ้แทนราษฎร หรือ ส.ส. บางส่วนที่ยืนกรานไม่สนับสนุนนายพิธา ลิมเจริญรัตน์ และพรรคก.ก. แบบชัดเจนและเปิดเผย

ล่าสุด กระแสบนโซเชียลต่างพากันติดแฮชแท็กหัวข้อประเด็นร้อนทางการเมืองมาวิจรณ์กันเป็นำจนวนมาก โดย #ก้าวไกล ซึ่งขึ้นเทรนด์อันดับ 1 ในวันนี้ ก็ยังคงครองตำแหน่งหัวหาดที่มีคนเข้ามาวิพากษ์วิจารณืในแท็กอันดับสูงสุดนี้ไม่หยุดหย่อน ขณะที่บางส่วนก็มีการออกมาแชร์โพสต์ของ เฟซุ๊กแฟนเพจ สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว ซึ่งได้เคยลงเนื้อหาเป็นภาพอินโฟกราฟฟิคเผยให้เห็นสูตรการจัดตั้งรัฐบาลหักหลังถ้วนหน้าของ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ นักธุรกิจอดีตนักการเมือง วัย 61 ปี ที่เดินหน้าอกมาแฉกดีลลับสลับขั้วจัดตั้งรัฐบาลเป็นคนแรก ๆ และก็ยังคงออกมาโพสต์เคลื่อนไหวประเด็นต่าง ๆ ผ่านบัญชีโซเชียลของตัวเองต่อเนื่อง

ทั้งนี้ สูตรรัฐบาลหักหลังถ้วนหน้าที่ได้จั่วหัวไว้นั้น รายละเอียดจะเป็นการร่วมกันตั้งรัฐบาล โดยฝ่ายรัฐบาลจะมี พรรคเพื่อไทย กับอีก 6 รายชื่อพรรคการเมืองใหญ่ ไล่ตั้งแต่ พรรคภูมิใจไทย , ประชาธิปัตย์ ชาตจิไทยพัฒนา , ประชาชาติ , ชาติพัฒนยากล้า และ เสรีรวมไทย บวกกับพรรคเล็กอีกจำนวนหนึ่ง รวมจะได้ 264 เสียง

ขณะที่ฝ่ายค้าน ก้าวไกล จะเป็นแกนนำกับ พลังประชารัฐ , รวมไทยสร้างชาติ , ไทยสร้างไทย , เพื่อไทรวมพลัง และ พรรคเป็นธรรม รวมจะมี 236 เสียง ซึ่งชุดข้อมูลนี้ทางเพจผู้สื่อข่าวคนดังอย่าง สรยุทธ สุทศนะจินดา ได้เขียนระบุไว้วานนี้ (1 ส.ค.) ในแคปชั่นสั้น ๆ ว่า “เก็บไว้ดูครับ …”

ทั้งนี้ ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 31 ก.ค.2566 เฟซบุ๊กแฟนเพจของนายชูวิทย์ @ChuvitKamolvisit ได้ลงเนื้อหาเกี่ยวกับสูตรตั้งรัฐบาลหักหลังถ้วนหน้า นี้ไว้ในโพสต์เฟซบุ๊กฉบับเต็ม ดังนี้

สูตรตั้งรัฐบาล “หักหลังถ้วนหน้า” สูตรตั้งรัฐบาลเสมือนยาน้ำที่ต้อง “เขย่าก่อนกิน” แต่ดันไม่อ่านฉลากข้างขวดยาให้ดีเสียก่อน เพราะสูตรยานี้มีส่วนผสม “สารอันตราย“ เข้าไปด้วย โดยคนปรุงคือเพื่อไทยที่เดินสายสลายขั้วเจรจาผสมสูตรใต้ดินจนตกผลึกสัดส่วนได้ที่นำเสนอทดลองยาให้ดู โดยมีส่วนผสม ดังนี้

เพื่อไทย ภูมิใจไทย ประชาธิปัตย์ ชาติไทยพัฒนา ประชาชาติ ชาติพัฒนากล้า เสรีรวมไทย และพรรคเล็ก รวมแล้วได้ 264 เสียง

สูตร “รัฐบาลหักหลังถ้วนหน้า” นี้ กำลังถูกนำเสนอในวันที่ 2 และวันที่ 4 โหวตเศรษฐาเป็นนายกฯ คนที่กินล้วนออกอาการ “หลังหัก” ทันที เพราะ

  1. ต้องฉีก MOU เก่า บรรดาพรรคที่ขึ้นไปไขว้มือวันประกาศจับขั้วกลายเป็นถูกหักหลัง
  2. เพื่อไทยแยกกับก้าวไกล แล้วไปอยู่กับภูมิใจไทยผูกติดกันกลายเป็น “ข้าวต้มมัด” คู่ใหม่
  3. ให้ก้าวไกลเป็น “ฝ่ายค้าน” ล้านเปอร์เซ็นต์ สมเจตนารมณ์นายทุนใหญ่ ก้าวไกลถูกหักหลังหลายรอบ ตั้งแต่ประธานสภา นายกฯ จนถึงจัดรัฐบาล
  4. สองพรรคลุง พลังประชารัฐ และรวมไทยสร้างชาติ เป็น “ฝ่ายค้าน” ถูกหักหลังดังเป๊าะ
  5. ก้าวไกลชนะเลือกตั้งอันดับ 1 แต่ต้องไปเป็นฝ่ายค้านพร้อมพรรคสองลุง ที่เกลียดนักหนา ขนาดบอกตอนหาเสียง “มีลุง ไม่มีเรา” ตอนนี้เลยได้ไปอยู่ร่วมกันเป็นฝ่ายค้านเสียเลย
  6. ก้าวไกลเป็นฝ่ายค้านแต่ก็ยัง “โชว์พระเอก” โหวตให้เพื่อไทย เพื่อไม่ให้เอาพรรคลุงไปร่วมรัฐบาลด้วย อันนี้เป็นตัวยา “หักหลังสามต่อ” ไม่เอาทั้งลุง ไม่เอาทั้งเรา โดนสามเด้ง พลังประชารัฐ รวมไทยสร้างชาติ ก้าวไกล ไปเป็นฝ่ายค้านด้วย 221 เสียง กลายเป็นฝ่ายค้านที่อ่อนแอ เพราะเป็น 2 กลุ่มค้านกันเองที่ไปกันไม่ได้ แต่ต้องไปอยู่ด้วยกัน ถูกหักหลังกลางทาง จึงไม่มีความแข็งแกร่งพอจะไปทำอะไรรัฐบาลในอนาคตได้
  7. หักหลัง ส.ว. ปิดสวิตช์อัตโนมัติ เพราะเสียงเกินแล้ว 264 เสียง ได้ก้าวไกลช่วยอีก 151 เสียง รวมเป็น 415 เสียง ไม่ต้องง้อ ส.ว.

ที่หนักสุด คือ หักหลังประชาชนที่ลงคะแนน 26 ล้านเสียง ให้ฝั่งประชาธิปไตย

ดังนั้น ขืนมีใครกินเข้าไปก็เสี่ยงเต็มทน เพราะหลังหักหมด ยาสูตรนี้กำลังโปรโมทโฆษณาอยู่ทั่วไป แต่มีฉลากติดไว้ข้างขวดว่า “ยาอันตราย หากกินเข้าไปจะเกิดอาการเจ็บหลัง ลำไส้ปั่นป่วน และอาจทำให้คนเดินทางไกลไม่ได้กลับบ้านด้วย”

สูตรตั้งรัฐบาลหักหลังถ้วนหน้า ชูวิทย์
ภาพ Facebook @ChuvitKamolvisit

 

Pachara

นักเขียนประจำที่ Thaiger จบการศึกษาด้านศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา เคยผ่านประสบการณ์ผู้สื่อข่าวกีฬา เริ่มเขียนบทความกับ Thaiger ตั้งแต่ปี 2021 วิ่งกับการอ่านหนังสือ คือ กิจกรรมที่สนใจเป็นพิเศษ ช่องทางติดต่อ pachara@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button