ไม่มีหมวดหมู่

อ้วน – มะม่วง เปิดใจ หลังโดนดราม่าหนัก ยืนยันไม่ใช่แบบที่ชาวเน็ตคิด

สยบดราม่า! อ้วน รังสิต – มะม่วง เปิดใจ หลังทะเลาะกันจนฝ่ายหญิงบินกลับเกาหลี เผยลูกปกติดี ไม่ได้เป็นแบบที่ชาวเน็ตวิเคราะห์ ยืนยันช่วยภรรยาเลี้ยงลูก

กลายเป็นมหากาพย์ดราม่าครั้งใหญ่ สำหรับครอบครัวของพระเอกหนุ่ม อ้วน รังสิต ศิรนานนท์ และภรรยาสาว พัค ฮยอนซอน หรือ มะม่วง ที่ทะเลาะกันครั้งใหญ่ถึงขั้นอ้วนหลุดปากไล่ จนภรรยาหอบ น้องโรฮา ลูกชายบินกลับบ้านที่เกาหลี ล่าสุดดีกันแล้ว หนุ่มอ้วนจึงชวนมะม่วงมาเคลียร์ อัดคลิปอธิบายเรื่องราวต่าง ๆ เพราะโดนชาวเน็ตถล่มยับมาหลายวันติด

Advertisements

อ้วนได้กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า “สวัสดีครับ วันนี้เราทั้งสองคนจะมาเคลียร์เรื่องดราม่านะครับ แต่เราก็ไม่ได้เคลียร์กันทุกเรื่องหรอก ก็จะเคลียร์แค่เรื่องที่เรารู้สึกว่า มันมีผลกระทบกับชีวิตครอบครัวนะครับ สมมติว่าวันนึงผมตายไป อยู่ ๆ ดีตายไป วันพรุ่งนี้มะรืนนี้หรืออะไรก็แล้วแต่ แล้วลูกของผมต้องมาเห็นคอมเมนต์อะไรพวกนี้

อย่างเรื่องแรกเลย ผมขอแก้ต่างคอมเมนต์พวกนี้นะครับ มันจะมีหลาย ๆ คอมเมนต์นะครับที่พูดถึงเข้ามาว่า ผมเนี่ยพูดว่าคุณน่ะรักลูกมากเกินไปจนไม่สนใจความรู้สึกผม ซึ่งความหมายเนี่ย ผมไม่ได้มีความหมายอย่างที่หลาย ๆ คนตีความนะครับ บอกว่าผมเนี่ยไปอิจฉาลูก ทำไมแม่เขาจะรักลูกมากกว่าแล้วไปอิจฉาลูก ซึ่งความหมายของผมเนี่ย มันไม่ใช่แบบนั้นเลยนะครับ

ผมไม่เคยบอกว่า อยากให้มะม่วงมารักผมมากกว่าลูก ผมสนับสนุนให้มะม่วงรักลูกมากกว่าผมด้วยซ้ำ แต่ที่บอกว่าไม่สนใจความรู้สึกผมเนี่ย ผมไม่ได้ขยายความและผมไม่จำเป็นต้องขยายความด้วยว่า ปัญหาของเรามันคืออะไร แต่สิ่งที่คุณจินตนาการกันไปเนี่ย อ่านแล้วมันดูตลกมากเลย แล้วผมก็ไม่เคยอิจฉาลูกเลย”

ด้านมะม่วงได้พูดเสริมว่า “ก็คิดเหมือนกันกับเขา ไม่เคยอิจฉา เขาชอบอยู่กับ 2 คน กับแม่กับลูกมากกว่าค่ะ ฟังแล้วมะม่วงก็รู้สึกอันนี้ไม่ใช่แล้ว อันนี้ไม่ใช่ค่ะ เข้าใจผิดค่ะ”

อ้วน รังสิต ก็ได้อธิบายในมุมของตัวเองต่อว่า “ก็คือเรื่องนี้นะครับ คุณอย่ามากล่าวหาว่าผมไปอิจฉาลูกนะครับ ผมรักลูกมากไม่แพ้กับแม่รักลูกเลย เพราะฉะนั้น อะไรที่ผมมี หรือว่าความรักของผม ผมให้ลูกหมดอยู่แล้ว ไม่มีทางที่ผมจะไปอิจฉาลูกเลยนะครับ อันนี้มั่วมากเลยนะครับ

Advertisements

อ้วน มะมวง ดราม่า

เรื่องต่อมานะครับ ก็จะมีคนเนี่ยส่งคลิปมาให้ผมดูว่า มีคนวิเคราะห์ว่าลูกของเราเป็นอย่างนู้นเป็นอย่างนี้ ผมเห็นด้วยนะครับกับการที่พ่อแม่ไม่ควรทะเลาะกันต่อหน้าลูก ซึ่งเราก็ทุกครั้งเราจะหลีกเลี่ยงตลอด แล้วเราก็จะพยายามไม่มามีปัญหากันต่อหน้าลูก

เพราะทุกครั้งจริง ๆ แล้วโรฮาเป็นคนที่ห้ามเราด้วยซ้ำ ทุกครั้งที่เริ่มมีเสียงไม่ดี โรฮาก็จะเหมือนขัด พยายามให้เรารักกันด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้นปฏิกิริยาทั้งหลายของลูกในคลิปเนี่ย คุณเอามาวิเคราะห์ มันผิดหมดเลยนะครับ”

สำหรับประเด็นในคลิป อ้วนอธิบายว่า น้องโรฮางงที่แม่วิ่งเข้าไปในห้องตอนพ่อมาหา ส่วนเรื่องที่ลูกไม่วิ่งเข้ามากอดตน อ้วนเผยว่าปกติลูกจะวิ่งเข้าหาถ้าตนอ้าแขนรับ ลูกถึงจะวิ่งมาหา

อ้วน มะมวง ดราม่า

นอกจากนี้อ้วนยังบอกอีกว่า ลูกเป็นคนฉลาด พร้อมยกตัวอย่างตอนที่ตนกำลังคุยกับแม่ยาย ลูกก็ยืนรอเพื่อรอคนมาเล่นด้วย เนื่องจากน้องโรฮาติดคนมาก น้องแค่รอว่าเมื่อไหร่จะคุยกันเสร็จ ส่วนเรื่องที่น้องเอาผ้าห่มคลุมจนชาวเน็ตวิเคราะห์ว่าน้องรู้สึกไม่ปลอดภัย มะม่วงเผยว่า

“จริง ๆ อันนี้มะม่วงบอกได้ค่ะ ไม่ใช่กลัวแล้วห่มผ้าปิด เขาอ่ะปกติก่อนนอนหรืออยากเล่น ชอบเข้าห่มผ้า ชอบมาก (เขาชอบเล่นคลุมผ้าห่มอยู่แล้ว) แต่ตอนนั้นน่าจะอยากเล่นกับพ่อ พ่อมาแล้ว อยากเล่น สนใจหน่อย มะม่วงก็เห็นแล้วตกใจ ทุกคนเข้าใจผิด”

ด้านอ้วนย้ำว่า “โรฮาไม่ได้ผิดปกติเลยนะครับ อันนี้อยากจะฝากเอาไว้นะครับ จะวิเคราะห์อะไรก็ไม่ต้องมาบอกว่าลูกไม่รักพ่อ ลูกกลัวพ่อ อันนี้ไม่ใช่เลยนะครับ พ่อลูกรักกันปกตินะครับ เหมือนแบบเอาไปจินตนาการว่า พ่อแม่ทะเลาะกันต่อหน้าลูกทุกวัน ทำให้ลูกผิดปกติ ไม่ใช่นะครับ อันนี้ก็ฝากเอไว้นะครับ”

อ้วน มะมวง ดราม่า

ทั้งนี้อ้วน รังสิต ยังได้พูดถึงประเด็นที่ตนโดนตำหนิ ว่าไม่ช่วยภรรยาเลี้ยงลูก โดยอ้วนเผยว่า หากติดตามช่องยูทูบของครอบครัวตน จะเห็นว่าตนอยู่กับลูกและช่วยเลี้ยงลูกตลอด พร้อมเผยว่าที่ผ่านมามีคอมเมนต์ลักษณะนี้ตลอด แต่ครั้งนี้เยอะมากทำให้คนเข้าใจผิด เลยออกมาให้มะม่วงเล่าบ้าง

มะม่วงจึงกล่าวว่า “อยู่บ้านด้วยกันใช่ไหมคะ มะม่วงทำอะไรก็เขาช่วย อย่างเช่นไปเที่ยวเขาก็ช่วยดูแลลูกได้ เขาอ่ะออกไปข้างนอกสองคน ลูกกับพ่อไปข้างนอก แล้วก็กินข้าวกันเล่นกัน กลับบ้านมาก็เลี้ยงลูกอยู่นะ”

อ้วนจึงพูดต่อว่า “บางทีคุณไปดูอะไรสั้น ๆ มา แล้วคุณก็เอามาคิดไปนู้นคิดไปนั่น ผมว่ามันก็ไม่ค่อยแฟร์กับทางผม และครอบครัวผมเท่าไหร่”

อ้วน มะมวง ดราม่า

ส่วนเรื่องที่โดนตำหนิว่าชีวิตติดคอนเทนต์ ถือกล้องอัดคลิปตลอด อ้วนเผยว่ามีจุดประสงค์ให้เป็นกรณีตัวอย่าง (Case study) เพื่อให้เห็นว่าสิ่งที่ตนทำอยู่ไม่ดีและไม่ควรเกิดขึ้น

ทั้งนี่อ้วนหวังว่าคลิปที่เผยแพร่ไป จะช่วยให้บางครอบครัวที่อาจจะมีปัญหาแบบนี้ได้เป็นข้อคิด และประโยชน์อีกอย่างก็เพื่อเป็นข้อคิดกับตัวเองว่าจะไม่ทำอะไรแบบนี้อีกแล้ว พร้อมย้ำว่าไม่ได้มีเจตนาต้องถือกล้องตลอดเวลา และสิ่งที่เห็นในคลิปไม่ถึง 20% ของเรื่องทั้งหมดด้วยซ้ำ.

Eye Chanoknun

นักเขียนประจำ Thaiger จบจากคณะการสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มีประสบการณ์เขียนงานผ่านเว็บไซต์ด้านความงามและแฟชั่นชื่อดังของไทยมากกว่า 3 ปี ปัจจุบันชื่นชอบการเขียนข่าวบันเทิง ภาพยนตร์ ซีรีส์ k-pop และไลฟ์สไตล์ เพื่อนำมาบอกเล่าผ่านตัวอักษร ด้วยมุมมองใหม่ ๆ ที่น่าสนใจ ชวนให้ติดตาม ช่องทางติดต่อ eye@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button