‘เรืองไกร’ ยื่นศาลรัฐธรรมนูญ ตรวจสอบผู้ตรวจการแผ่นดิน
ไม่พลาด เรืองไกร ยื่นศาลรัฐธรรมนูญ ตรวจสอบผู้ตรวจการแผ่นดิน กรณียื่นตีความไม่ให้เสนอชื่อ พิธา เป็นนายกรัฐมนตรีซ้ำ
จากกรณีผู้ตรวจการแผ่นดิน ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ ปมห้ามเสนอนาย พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคก้าวไกลเนื่องจากเป็นญัตติซ้ำและขอให้เลื่อนการโหวตนายกจากวันที่ 26 ก.ค. ตามที่รายงานไปก่อนหน้านี้นั้น
ล่าสุด นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ เปิดเผยว่า กรณีที่ผู้ตรวจการแผ่นดินจะใช้รัฐธรรมนูญ มาตรา 213 ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยหน้าที่และอำนาจของรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 88 มาตรา 159 และมาตรา 272 นั้น
กรณีที่เกิดขึ้นมาจากความเห็นของนักกฎหมายจำนวนมาก และผู้ตรวจการแผ่นดินเห็นด้วย แต่หากพิจารณาจากบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยผู้ตรวจการแผ่นดิน พ.ศ. 2560 แนวคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ 4/2564 กรณี จึงมีประเด็นที่ควรขอให้ศาลรัฐธรรมนูญตรวจสอบ ดังนี้
ผู้ตรวจการแผ่นดินมีหน้าที่และอำนาจส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยหน้าที่และอำนาจของรัฐสภา ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 88 มาตรา 159 และมาตรา 272 โดยการกล่าวรัฐธรรมนูญ มาตรา 213 หรือไม่ อย่างไร
การกล่าวอ้างถึงรัฐธรรมนูญ มาตรา 88 มาตรา 159 มาตรา 272 นั้น เป็นกรณีเกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจของรัฐสภา ใช่หรือไม่ รัฐสภาต้องเป็นผู้ทำหนังสือถึงศาลรัฐธรรมนูญ ใช่หรือไม่ (ตามแนวคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ 4/2564) ผู้ตรวจการแผ่นดินมีปัญหาเกี่ยวข้องกับหน้าที่และอำนาจของรัฐสภา หรือไม่ อย่างไร
ผู้ตรวจการแผ่นดินมีสิทธิจะขอให้ศาลดำเนินการตามมาตรา 71 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 ได้หรือไม่ การมีมติให้ดำเนินการดังกล่าวของผู้ตรวจการแผ่นดิน ชอบหรือไม่
นายเรืองไกร กล่าวว่า เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับรัฐธรรมนูญหลายมาตรา กฎหมายหลายฉบับหลายมาตรา ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญย่อมรู้เอง เพราะเคยวินิจฉัยกรณีผู้ตรวจการแผ่นดินขอให้วินิจฉัยหลายครั้งแล้ว (เช่น ตามคำวินิจฉัยล่าสุด 7 ครั้ง ตามคำสั่งล่าสุด 7 ครั้ง) วันนี้ ตนจึงได้ส่งหนังสือทางไปรษณีย์ EMS ถึงศาลรัฐธรรมนูญเพื่อขอให้ตรวจสอบว่า ผู้ตรวจการแผ่นดินมีหน้าที่และอำนาจส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยหน้าที่และอำนาจของรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 88 มาตรา 159 และมาตรา 272 โดยอ้างรัฐธรรมนูญ มาตรา 213 หรือไม่ อย่างไร