ความเคลื่อนไหวหลังจาก แมตซ์การแข่งขันฟุตบอลนัดอุ่นเครื่อง ระหว่างสองทีมดังระดับโลก สเปอร์ส ปะทะ เลสเตอร์ ที่เดิมทีต้องระเบิดแข้งกันที่ ราชมังคลากีฬาสถาน ประเทศไทย ก่อนสุดท้ายต้องยกเลิกไปเนื่องจากมีฝนตกหนัก และสภาพสนามไม่พร้อมทำการแข่งขัน
คลิกอ่าน : ด่วน! เกม สเปอร์ส-เลสเตอร์ ยกเลิกเตะ หลังฝนถล่ม
ด้านผู้จัดการแข่งขัน ก็ได้ออกมาประกาศเบื้องต้นถึงแนวทางเยียวยาแฟนบอลไว้ว่า สามารถขอทำเรื่องคืนเงินค่าตั๋วได้ แต่รายละเอียดยังไม่แน่ชัดว่าจะคืนในรูปแบบไหน
ล่าสุดมีประเด็นร้อนในโลกโซเชี่ยลเกิดขึ้น เมื่อเริ่มมีกระแสโจมตีสมาคมฟุตบอลฯว่า สนามราชมังคลากีฬาสถาน นั้น ไม่มีระบบระบายน้ำได้อย่างไร จึงเป็นเหตุให้เกิดการยกเลิกการแข่งขันในครั้งนี้ โดยหลายคอมเม้นต์ต่างยกตัวอย่างว่าในประเทศอื่นๆก็มีฝนตกเช่นกัน แต่มีการจัดการระบบระบายน้ำได้อย่างรวดเร็ว และไม่มีปัญหาเหมือนที่ไทย
โดยเพจชื่อดังอย่าง ‘วิเคราะห์บอลจริงจัง’ ซึ่งได้เข้าไปชมเกมในสนามวันนี้ได้โพสข้อความระบายเป็นชุดว่า “ยกเลิกการแข่ง! 2 สโมสรตกลงกันว่า สภาพสนามไม่ดีพอ จะแข่งขันได้ ทำให้นักเตะอาจจะบาดเจ็บได้ ไม่โทษสเปอร์ส ไม่โทษเลสเตอร์ สนามแย่แบบนี้ จะให้เขาแข่งได้ไง นักเตะวิ่งสะดุดหลุมเจ็บ 2 เดือนใครจะรับผิดชอบ
ผมไม่อยากโทษผู้จัด ที่ตั้งใจทำงานเต็มที่แล้วจริงๆ แต่ต้องยอมรับว่าสนามฟุตบอลบ้านเรา มันดีที่สุดแค่นี้ มีคนบอกว่า อ้าว แล้วเอามาจัดแข่งหน้าฝนทำไม? คือเราไม่ได้มีทางเลือกนะครับ ปรีซีซั่นมันอยู่ช่วงนี้ เป็นเดือนเดียวของปี ที่ทีมจากพรีเมียร์ลีกจะมาเยือนไทยได้ครับ
และผู้จัดได้เลือกสนามที่ (ควรจะ) ดีที่สุดในประเทศ อย่างราชมังฯ แล้วด้วย ดังนั้นถ้าจะตำหนิ ผมว่าปัญหาคือคุณภาพสนามของเราครับ
สำหรับสนามแข่งนั้น ไม่มีอะไรนอกจากจะพูดว่า โคตรน่าอับอายยยยยยยยย ฝรั่งที่มาทำข่าว งงตาแตก ว่าเฮ้ย อังกฤษฝนตกหนักกว่านี้ ตกทุกวัน แม้แต่สนามทีมระดับแชมเปี้ยนชิพ ระดับลีกวัน ยังจัดการได้
อนาถใจสุดๆ กับคุณภาพ “สนามกีฬาแห่งชาติ” รู้ถึงไหน อายถึงนั่น นี่ควรจะเป็นวาระแห่งชาติได้หรือยัง ในการบูรณะสนามให้มีมาตรฐาน เทียบเคียงกับมาเลย์ อินโด หรือ สิงคโปร์
ขอเถอะ ใช้ชื่อ Thailand’s National Stadium แต่สภาพได้ดีสุดแค่นี้อะนะ? อายเป็นบ้าเลย“
งานนี้แฟนบอลต่างเข้าคอมเม้นต์เห็นด้วยแบบล้นหลาม และต้องคอยดูท่าทีว่า สมาคมฟุตบอลฯ จะออกมาตอบโต้หรือชี้แจงประเด็นนี้อย่างไร
ข้อมูลและภาพประกอบจาก : วิเคราะห์บอลจริงจัง
อัปเดตข่าวฟุตบอลกับ The Thaiger : คลิก