ข่าวข่าวการเมือง

‘ชูวิทย์’ ยัน ‘ก้าวไกล’ ได้เป็นฝ่ายค้าน ‘เพื่อไทย’ พลิกขั้วจับมือ ‘ภูมิใจไทย’

ชูวิทย์ ยืนยันคำเดิม ก้าวไกล สุดท้ายเป็นฝ่ายค้าน เพื่อไทย จะพลิกขั้วจับมือกับ ภูมิใจไทย และจะจัดตั้งรัฐบาลเสร็จในเดือนสิงหาคม แต่ไม่ใช่ 8 พรรคร่วม

นาย ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองได้ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กวิเคราะห์การเมืองก่อนการโหวตเลือกนายกวันที่ 2 ที่จะเกิดขึ้นในวันนี้ (19 ก.ค. 66) โดยนายชูวิทย์ยังคงยืนกรานคำเดิมว่าท้ายที่สุดก้าวไกลจะถูกผลักเป็นฝ่ายค้าน และระบุว่าการจับมือจัดตั้งพรรคร่วมรัฐบาลของ 8 พรรคเป็นเพียงละครตบตาเท่านั้น

นาย ชูวิทย์ ระบุว่า “ปิดสวิตช์ประชาชน

ประชาชนสนใจเรียนรู้การเมืองไทย การโหวตนายกฯ ถามผมทุกวี่ทุกวัน “พิธาจะได้เป็นนายกฯ ไหม?” ให้ลองอ่านดังต่อไปนี้ เพราะขณะนี้การเมืองพลิก เปลี่ยนแปลงทุกวัน แต่เท่าที่นิ่งแล้ว คือ

– การเลือกตั้งไม่ใช่การตัดสินว่าใครได้เป็นรัฐบาล แม้ได้คะแนนเสียงจากประชาชนมากสุด ยังเป็นฝ่ายค้านได้
ดังนั้นการเลือกตั้งจึงเป็นเพียงพิธีกรรมของคนไทยที่ออกไปใช้สิทธ์ลงคะแนนเสียง

– การจับมือจัดตั้งพรรคร่วมรัฐบาลของ 8 พรรค เป็นละครที่ถูกบังคับแสดงให้ประชาชนดู ดังนั้นดูได้ แต่อย่าไปหลงเชื่อ

– ก้าวไกลจะเป็นฝ่ายค้านในที่สุด ไม่มีรักแท้ทางการเมือง แต่มือใครยาวสาวได้สาวเอาต่างหาก

– เพื่อไทยจะขึ้นมาเป็นแกนนำพลิกข้ามขั้ว แม้เสนอให้เพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล แต่หากยังมีก้าวไกลอยู่ ก็ไม่ผ่าน ส.ว.
ชีวิตจริงต้องดูกันยาวๆ ไม่ใช่หนังตลก

– มีการจัดเตรียมสลับพลิกขั้วรัฐบาลโดยเพื่อไทยเป็นแกนนำ และประสบความสำเร็จ โดยผ่านเสียง ส.ว.

– ภูมิใจไทยจะได้ร่วมรัฐบาล และได้กระทรวงคมนาคม กับสาธารณสุขเหมือนเดิม ส่วนพลังประชารัฐจะได้มหาดไทย
เป็นเรื่องจริงอีกเรื่องที่บอกไปก็คงไม่เชื่อ

– ก้าวไกลได้ประสบการณ์ว่า การมี ส.ส. ใหม่ และเร็วเกินคาดทำให้การตัดสินใจผิดพลาด ตั้งแต่เรื่อง ม. 272 หรือการไปเจรจากับประชาธิปัตย์ และชาติไทยพัฒนา ให้ร่วมรัฐบาล

– นายกฯ จะเลือกได้ในรอบ 3 ผ่าน ส.ว. ฉลุย ดูรอบ 2 ก็ทราบแล้ว

– การจัดตั้งรัฐบาลจะเสร็จภายในเดือนสิงหาคม แต่หน้าตาไม่ใช่แบบที่ประชาชนส่วนมากต้องการ และเห็นแต่แรกในวันจับมือ 8 พรรคเซ็น MOU

– ยุบพรรคมีแน่ เป็นแผนต่อเนื่อง เตรียมตั้งพรรคใหม่ไว้รอ ชื่อพรรคอนาคตไกล

การเมืองหลายเรื่องคนไม่เชื่อ แต่เวลาจะพิสูจน์ว่ามันเป็นเรื่องจริง อย่าเชื่อในสิ่งที่เห็นหรือได้ยิน เพราะไม่มีใครพูดความจริงเบื้องหลัง ตอนนั้นบอกว่าไม่มี “ดีลลับ” มีแต่ “ดีลรัก” แต่ตอนนี้กลายเป็น “ดีลลวง” ไปแล้ว

ผมพูดไปไม่มีวัตถุประสงค์เชียร์ หรือทำลายใคร แต่ต้องการให้ประชาชนรู้เท่าทันการเมือง แม้ว่าเบื้องหลังบางอย่างผมจะไม่สามารถพูดได้หมด แต่หากเดาจากสิ่งที่ผมพูดไปก่อนหน้านี้ประชาชนที่ติดตามคงทราบ

อย่าไปคิดมาก ประเทศไทยยังอยู่ที่เดิมบนแผนที่โลกไม่ได้ไปไหนครับ”

Nateetorn S.

ผู้สื่อข่าว ทำงานกับ Thaiger มาตั้งแต่ปี 2020 จบการศึกษาจากคณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสคร์ เคยทำงานกับสถานีโทรทัศน์อันดับ 1 ของประเทศ ทำให้มประสบการณ์ความเชี่ยวชาญ เจาะประเด็นข่าวการเมืองอาชญากรรม ข่าวแปลกๆ เรื่องน่าสนใจจากต่างประเทศ ช่องทางติดต่อ tee@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button