สรุปดราม่า แสนดี แสนปิติ สิทธิพันธุ์ ลูกชายชัชชาติ หลังวิจารณ์ประชาชนผู้ลงคะแนนเสียงให้กับพรรคก้าวไกล พร้อมเผยว่าพิธาไม่ได้เป็นนายกฯ ก่อนออกมาขอโทษพร้อมชี้ ไม่ได้แสดงความเกลียดชัง เพียงแค่ออกความคิดเห็น
กลายเป็นประเด็นดราม่าเดือดข้ามคืนกันเลยทีเดียว สำหรับ แสนปิติ สิทธิพันธุ์ หรือ แสนดี ลูกชายของชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ที่ได้ออกมาโพสต์ข้อความทางสตอรี่อินสตาแกรม วิจารณ์ถึงพรรคก้าวไดลและประชาชนที่ลงคะแนนเสียงโหวตให้กับพรรคก้าวไกล ทำประชาชนเดือด โผล่ติดแฮชแท็ก #แสนดี #แสนปิติ มาแรงขึ้นอันดับ 1 ในทวิตเตอร์ในระยะเวลาอันรวดเร็ว
สรุปดราม่า #แสนดี ลูกชายชัชชาติ วิจารณ์พรรคก้าวไกล ชี้พิธาไม่มีทางได้เป็นนายกฯ
เรื่องราวทั้งหมดของดราม่าครั้งนี้ เกิดขึ้นจากแสนปิติ สิทธิพันธุ์ หรือ แสนดี ลูกชายของนายชัชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกรุงเทพมหานคร ที่ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านทางสตอรี่อินสตาแกรมส่วนตัว กล่าวถึงทีมงานพรรคก้าวไกล โดยเผยว่าสิ่งที่ตนพูดนั้นเป็นการพูดอย่างตรงไปตรงมาด้วยความจริงใจ 9 ข้อ
1. คุณไม่สามารถแก้ ม.272 (มาตราที่ให้สว. เลือกนายก) ได้
2. การแก้ไขกฎหมายที่เป็นที่ถกเถียงกันในขณะนี้ คุณจะไม่มีทางแก้มันได้
3. พิธาไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี และเรื่องนี้จะไม่มีวันเกิดขึ้น
4. ตราบใดที่พวกคุณยังฝืนส่งแคนดิเดตนายก คุณก็จะไม่มีทางชนะ
5. คุณไม่ได้ชนะแลนด์สไลด์ สีส้มกับสีแดงต่างกันแค่ 10 เสียง คุณได้สิทธิเลือกก่อน แต่รอบของคุณจบแล้ว
6. ทั้ง ส.ว. และคนทั่วไปไม่ได้สนใจการประท้วงของคุณ ยังไง ส.ว. เขาก็มีอำนาจอีก 1 ปี รอบหน้าก็ชนะให้ได้เกิน 65% เหมือนพรรคไทยรักไทยปี 48 นะ ผมจะพิจารณาใหม่ตอนนั้น
7. คุณไม่มีนโยบายเศรษฐกิจที่ทำได้จริงเลยแม้แต่น้อย กลุ่มทุนผูกขาดและบริษัทยักษ์ใหญ่ไม่ต้องการคุณ เกษตรกรต้องการนโยบายปากท้อง ไม่ใช่มาพร่ำเพ้ออุดมคติเรื่องเพศหรือพูดจาไร้สาระเกี่ยวกับการแสดงออกว่าตัวเองเป็นมนุษย์ที่ตื่นรู้
8. สรุป ไม่มีใครอยากให้คุณได้อำนาจ มีแต่เด็กเกเรที่เอาแต่ใจที่สนับสนุนพวกคุณเท่านั้นแหละ
9. พรรคคุณมีอายุแค่ 2 ปี ตลอด 5 ปีที่ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันบ้าง เอาแต่ฟ้องร้องนู่นนี่ ขณะที่ผู้ก่อตั้ง 3 คนก็โดนตัดสิทธิ ส่วนพิธาก็อาจจะเป็นรายต่อไป
หลังจากนั้น แสนดี ยังได้มาโพสต์ข้อความเพิ่มเติมอีกด้วยว่า “ได้เวลาที่จะเสียสละแล้วครับ จากพรรคก้าวไกลให้พรรคเพื่อไทย พวกคุณได้รับโอกาสแล้ว คุณควรให้พรรคเพื่อไทย ได้นำพาประเทศไปสู่อนาคตที่ดี เราสามารถทำนโยบายเศรษฐกิจที่ทำได้จริงมากกว่า 20 ปี ประเทศไทยมีสักยภาพมากพอที่จะเป็นเสือตัวที่ 5 ของเอเชีย และเราไปถึงจุดนั้นไม่ได้ถ้าเรายังมาบ่นเรื่องปัญหาสังคมและกฎหมาย เราต้องมุ่งมั่นกับเรื่องปัญหาเศรษฐกิจและเติมเงินเข้ากระเป๋าคนไทย อย่าให้เราต้องทำในสิ่งที่เลวร้าย ฟังผู้ใหญ่บ้าง”
นอกจากนี้ แสนดี ลูกชายชัชชาติ ยังได้ออกมาโพสต์ภาพ ตัวอย่างการจัดรัฐบาลที่มีเพื่อไทย ร่วมมือกับภูมิใจไทย พลังประชารัฐ ชาติไทยพัฒนา ประชาชาติ ไทยสร้างไทย และเสรีรวมไทย โดยมีก้าวไกล เป็นฝ่ายค้าน พร้อมตั้งคำถามว่า “อยากให้สิ่งนี้เกิดขึ้นหรือไม่?”
แน่นอนว่าข้อความจากแสนดี ทำให้ชาวเน็ตได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างล้นหลาม โดยส่วนใหญ่ได้ออกมาวิจารณ์ในทิศทางเดียวกันว่า เพราะแสนดีมาจากครอบครัวที่มีฐานะ มีเงินที่จะส่งเสียเลี้ยงดูได้ และแสนดีเองก็จบจากเมืองนอก แสนดีไม่รู้ด้วยซ้ำว่าสังคมไทยเป็นแบบไหน ชนชั้นรากหญ้าต้องลำบากขนาดไหนกับปัญหาสังคมไทยและเศรษฐกิจที่หมักหมมไว้อย่างยาวนาน
นอกจากนี้ชาวเน็ตยังวิจารณ์อีกด้วยว่า การที่แสนดีโจมตีพรรคก้าวไกลเรื่องนโยบายเรื่องเพศ เป็นการดูถูกกลุ่มคนหลากหลายทางเพศที่ขณะนี้สังคมไทยกำลังผลักดันเรื่องสมรสเท่าเทียม รวมไปถึงการที่แสนดีบอกว่า วัยรุ่นที่เอาแต่ใจและไม่เชื่อฟังผู้ใหญ่ กลุ่มคนโหวตพรรคก้าวไกลที่แสนดีออกมาวิจารณ์ คือคนเดียวกับที่โหวตให้ชัชชาติได้ตำแหน่งผู้ว่าฯ กรุงเทพฯ ในการเลือกตั้งผู้ว่าที่ผ่านมา
หลังจากที่ชาวเน็ตและนักวิชาการหลายท่านได้ออกมาวิจารณ์แสนดี ทางแสนดีจึงออกมาขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้น ผ่านทางอินสตาแกรมส่วนตัวและเฟซบุ๊ก โดยระบุว่า “สิ่งที่ผมทำไปมันแก้ตัวไม่ได้และไม่เหมาะสม ผมขอโทษสำหรับการใช้คำหยาบและภาษาที่ไม่สุภาพ ผมยอมรับว่าการกระทำของผมทำให้เกิดความเจ็บปวด และทำให้เกิดความเกลียดชังที่วัดไม่ได้ ผมยอมรับว่า สิ่งที่ผมเขียนวันนี้มันทำร้ายจิตใจใครหลาย ๆ คน ในฐานะบุคคลสาธารณะ ผมตระหนักได้ว่า ผมได้ทำให้ทุกคนผิดหวังกับสิ่งที่ผมได้ทำ
และมันขึ้นอยู่กับผมที่จะทำให้ดีขึ้นในฐานะบุคคล ผมได้ทำให้ทุกคนผิดหวังกับสิ่งที่ผมไม่ได้ทำ และมันขึ้นอยู่กับผมที่จะทำให้ดีขึ้นในฐานะบุคคล ผมเป็นหนี้อย่างเต็มที่ว่า ผมได้รับสิทธิพิเศษ จนผมไม่มีประสบการณ์และไม่มีการศึกษาเกี่ยวกับการเมืองไทย การแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการเมืองเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมแม้จะมีสิทธิในการพูดอิสระ
ผมใช้เวลาคิดทบทวนถึงการกระทำของผม ผมจะคิดทบทวนตัวเองเป็นอย่างดี ผมได้รับผลประโยชน์และใช้ประโยชน์จากภูมิหลังของตัวเองเพื่อก้าวหน้าในสังคม สิ่งนี้บอกถึงระดับความเหลื่อมล้ำในประเทศไทย ผมตระหนักถึงงานที่พรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อประชาธิปไตยอื่น ๆ ได้ทำเพื่อกลุ่มเหล่านี้ และแม้ว่าผมจะมีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน แต่ผมเคารพในมุมมองของพวกเขา
ผมได้อ่านความคิดเห็นที่เจ็บปวดเกี่ยวกับรูปร่าง ความฉลาด และพื้นเพของผม ในขณะที่ทุกคนมีสิทธิ์ในความคิดของตัวเอง ผมยอมรับว่านี่คือผลของการกระทำของผมและผมได้เปิดใช้งานสิ่งนี้ เราต้องแสดงความเห็นอกเห็นใจและความเมตตาต่อผู้อื่น ผมขอสารภาพว่า ผมไม่ได้ยอดเยี่ยมในเรื่องนี้ แต่ในอนาคตผมหวังว่าจะใช้สิ่งนี้เป็นโอกาสในการพัฒนาให้ผมได้เป็นผู้ใหญ่ที่ดีขึ้น
มีความคิดเห็นของคนบางกลุ่มที่ไปไกลเกินขอบเขตของคำว่าวิพากษ์วิจารณ์ ผมจะขอไม่ตอบโต้ ความเกลียดมีแต่จะเพิ่มพูนความเกลียดด้วยกัน หากตนต้องคิดทบทวนเรื่องนี้ ก็หวังว่าทุกคนจะได้ทบทวนเรื่องของตัวเองเกี่ยวกับวิธีการที่เราจะปฏิบัติต่อผู้อื่นให้ดีขึ้นและอดทนอดกลั้นต่อความเห็นต่าง
นอกจากนี้ แสนดียังได้ออกมาอัดคลิปลงไอจีสตอรี่และบอกว่า “พวกคุณใจร้ายมาก พูดแล้วมันก็ไม่ยุติธรรมนะครับ ผมแค่พูดและใช้สิทธิเสรีภาพในการแสดงออกเหมือนคนอื่น แต่พวกคุณกลับตอบกลับด้วยคอมเมนต์ที่หยาบคาย ทำไมต้องทำให้ผมเจ็บปวดขนาดนั้น ผมไม่เข้าใจเลย ทำไมเราไม่คุยกันดี ๆ ผมขอโทษ ผมไม่ได้อยากให้มันเกิดแบบนี้เลย”
จากการวิพากษ์วิจารณ์ที่เป็นวงกว้างจนทำให้ #แสนดี และ #แสนปิติ ติดเทรนด์อันดับ 1 ในทวิตเตอร์ภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว ซึ่งชาวเน็ตบางส่วนได้มีการใช้คำพูดที่มากเกินว่าขอบเขตของคำว่าวิจารณ์ นำมาซึ่งความเกลียดชัง และโจมตีแสนดีอย่างหนักหน่วง ทำให้ชาวเน็ตบางส่วนออกมาปกป้องแสนดี โดยพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ทุกคนมีสิทธิ์จะแสดงความเห็นทางการเมือง และมันไม่ใช่เรื่องผิดเลยที่ใครสักคนจะมีความคิดเห็นที่แตกต่าง
