หลังจากที่มีการออกโพสต์ถึงเรื่องการเมืองอย่างดุเดือดจากลูกชายของผู้ว่ากรุงเทพฯ อย่าง “แสนดี-แสนปิติ สิทธิพันธุ์” ลูกชายเพียงคนเดียวของนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ โดยทางแสนดีได้โพสต์วิพากษ์วิจารณ์พรรคก้าวไกล พร้อมแสดงความคิดเห็นว่านายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ จะไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี หากไม่ยอมฟังผู้ใหญ่
แม้ล่าสุดแสนดีจะออกมาโพสต์ข้อความขอโทษแล้ว และยอมรับว่าตนตระหนักรู้เรื่องการเมืองเพียงน้อย แต่ในโลกออนไลน์ตอนนี้ก็ได้มีการถกถึงประเด็นดังกล่าวต่อยอดจากสิ่งที่แสนดีวิพากษ์วิจารณ์ไว้ไปมากมายและเป็นวงกว้าง ซึ่งแม้ว่าแสนดีเองดูจะไม่สามารถสร้างแรงกระเพื่อมทางการเมืองได้ แต่ด้วยความที่ออกมาโพสต์ในฐานะกระบอกเสียงจากฝั่งพรรคเพื่อไทยก็ทำให้หลายคนวิจารณ์กลับไปไม่น้อย
วันนี้เดอะไทยเกอร์ถือโอกาสดี ขอพาทุกคนไปทำความรู้จักกับลูกชายของชัชชาติ ผู้ว่ากทม. ที่แข็งแกร่งที่สุดในปฐพี แสนดี แสนปิติ คนนี้กันให้มากขึ้น ก่อนที่จะโพสต์สร้างดราม่าในประเด็นทางการเมืองนั้น แสนดีมีไลฟ์สไตล์อย่างไร อะไรที่หล่อหลอมให้ชายหนุ่มวัย 23 ปีคนนี้ มีความคิดความอ่านทางการเมืองอย่างที่ปรากฏให้เห็น ลองไปติดตามอ่านพร้อม ๆ กันได้เลย
เปิดประวัติ แสนดี ลูกชายผู้ว่าฯ ชัชชาติ ที่แข็งแกร่งที่สุด
แสนดี หรือชื่อจริงว่า แสนปิติ สิทธิพันธุ์ เป็นลูกชายคนเดียวของผู้ว่ากรุงเทพฯ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ กับ นางปิยดา สิทธิพันธุ์ แสนดีเกิดเมื่อปี พ.ศ. 2543 ปัจจุบันอายุ 22 ย่างเข้า 23 ปี จบการศึกษาด้านประวัติศาสตร์จากมหาวิทยาลัยวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา (University of Washington)
หลังจากที่เรียนจบ แสนดีก็ได้เดินทางกลับมายังประเทศไทย และในช่วงการเลือกตั้ง 2566 แสนดีก็ได้ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยหาเสียงของพรรคเพื่อไทยด้วย แต่ก่อนที่จะหันหน้าเอาเวลาว่างเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องการเมือง แสนดีจะเป็นคนที่มีความแอคทีฟสูง ชื่นชอบกีฬาหลายชนิด แต่นอกเหนือจากงานอดิเรกที่ต้องใช้พลังงานเยอะอย่างการออกกำลังกายแล้ว แสนดีก็ยังมีงานอดิเรกชิล ๆ อย่างการอ่านหนังสือด้วยเช่นกัน
ช่วงชีวิตวัยเด็กของแสนดี ตั้งแต่อายุ 1 ขวบ หลังจากที่คนในครอบครัวเรียกชื่อแล้วไม่หันก็ทำให้พ่อชัชชาติรู้ว่าลูกของตนเองเป็นผู้บกพร่องทางการได้ยิน จึงวางแผนกับแม่เพื่อพาแสนดีเดินทางไปรักษายังประเทศออสเตรเลีย โดยแสนดีเข้ารับการผ่าตัดประสาทหูเทียม รวมทั้งฝึกการออกเสียงและการฟังร่วมด้วย เหตุนี้เองจึงทำให้แสนดีต้องใช้ชีวิตอยู่ที่ประเทศออสเตรเลียเป็นเวลากว่า 2-3 ปี
โดยหลังจากการผ่าตัดประสาทหูเทียมแล้ว ปรากฏว่าอุปกรณ์รับเสียงไม่สามารถรับเสียงวรรณยุกต์หรือแยกเสียงต่ำ-สูงได้ จึงทำให้คุณพ่อชัชชาติต้องสนทนากับแสนดีเป็นภาษาอังกฤษ เหตุนี้เองจึงทำให้แสนดีเรียนรู้ภาษาอังกฤษตั้งแต่วัยเด็ก ทั้งนี้ช่วงแรก ๆ คุณพ่อชัชชาติจะฝึกให้แสนดีออกเสียงแบบ 6 พยางค์ก่อน จากนั้นก็ปรับไปเรื่อย ๆ กระะทั่งแสนดีอายุได้ 5-6 ขวบ ก็สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันได้
สำหรับแสนดี คุณพ่อชัชชาติเปรียบเหมือนต้นแบบหรือไอดอลในชีวิต และเป็นคนในครอบครัวและเพื่อนสนิทของแสนดีด้วย แสนดีเคยให้สัมภาษณ์กับสื่อไว้ว่าคุณพ่อชัชชาติเป็นคนที่สู้ไปกับแสนดีตลอดทุกช่วงเวลาของชีวิตไม่ว่าจะยากลำบากแค่ไหนก็ไม่เคยท้อ ทำให้แสนดีอยากจะเป็นคนที่แข็งแกร่งแบบคุณพ่อ
หากใครอยากติดตามไลฟ์สไตล์ของแสนดี หรืออยากแลกเปลี่ยนพูดคุยทัศนคติทางการเมืองกับลูกชายของผู้ว่ากรุงเทพฯ ที่แข็งแกร่งที่สุดในปฐพี ก็สามารถไปกดติดตามแสนดีกันได้ Instagram : thesandmans20 และ Facebook : Sanpiti Sittipunt
