แสนดี ขอโทษแล้ว หลังพิมพ์เดือด พิธาไม่มีวันเป็นนายก จนด้อมส้มทัวร์ลง
แสนดี แสนปิติ ลูกชายชัชชาติ โพสต์ขอโทษ หลังโพสต์ฟาดพรรคก้าวไกล ด้อมส้ม พิธา ไม่มีวันได้เป็นนายก ยอมรับยังรู้เรื่องการเมืองน้อย ตระหนักตนเองได้รับสิทธิพิเศษ และมีคนที่ยังเจอปัญหาความเหลื่อมล้ำ ซึ่งพรรคก้าวไกลกำลังแก้ไข
วันนี้ 17 กรกฎาคม 2566 จากกรณี แสนปิติ สิทธิพันธุ์ ลูกชาย ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้โพสต์แสดงความคิดเห็นทางการเมืองเป็นภาษาอังกฤษ เกี่ยวกับการจัดตั้งรัฐบาลของพรรคก้าวไกล เขียนสรุป 9 ข้อ ด้วยประเด็นเผ็ดร้อนไม่เหมาะสม ถึงขนาดใช้คำว่า Bratty ที่แปลว่าเหลือขอ
ตัวอย่างเช่น การบอกว่า ม.272 จะไม่สามารถูกแก้ไข พิธาไม่มีวันเป็นนายกรัฐมนตรี คนเลือกพรรคเพื่อไทยเป็นวัยรุ่นบ้าบอ จน #แสนดี #แสนปิติ ติดเทรนด์ทวิตเตอร์อันดับ 1 มีผู้เข้าไปวิพากษ์วิจารณ์ตอบโต้ต่อข้อเขียนของแสนปิติจำนวนมาก
ล่าสุด เมื่อช่วง 2 ทุ่มที่ผ่านมา แสนดี ได้โพสต์ข้อความขอโทษถึงดราม่าที่เกิดขึ้น ผ่านเฟซบุ๊ก Saniti sittipunt แสดงความเสียใจต่อการแสดงความคิดเห็นดังกล่าว ทำให้หลายฝ่ายไม่พอใจ ความว่า
“ถึงทุกคน,
ผมขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อการแสดงความเห็นต่อพรรคการเมืองและบุคคลต่างๆ ผมอยากจะขอโทษสำหรับความรู้สึกแย่ๆ ที่อาจก่อให้เกิดต่อสาธารณชน
ผมเสียใจกับการกระทำของตัวและอยากจะอธิบายว่าผมแค่พยายามแสดงความคิดเห็นของผม ไม่เก็บงำความเกลียดชังต่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
อีกครั้ง ผมขอโทษจากใจจริงที่ทำให้เกิดความรู้สึกลำบากใจ
ก้าวต่อไป ผมยินดีรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่นและเรียนรู้จากทุกคน
ขอโทษอย่างจริงใจ”
แสนปิติ สิทธิพันธุ์
ต่อมา แสนดีได้โพสต์ข้อความอธิบายเพิ่มเติมว่า
“เพื่อต่อยอดจากคำขอโทษก่อนหน้านี้ของผม
สิ่งที่ผมทำนั้นไม่สามารถให้อภัยได้ และไม่เหมาะสม ผมขอโทษสำหรับการใช้ภาษาที่ไม่สุภาพและหยาบคายเพื่ออธิบายคำจำกัดความของคนบางกลุ่ม
ผมยอมรับว่าการกระทำของผมทำให้เกิดความเจ็บปวดอย่างนับไม่ถ้วนและก่อให้เกิดความเกลียดชัง
ผมยอมรับว่าสิ่งที่ผมเขียนในวันนี้ได้ทำร้ายผู้คนอย่างไม่สามารถแก้ไขได้ ในฐานะบุคคลสาธารณะ
ผมตระหนักดีว่าผมได้ทำให้ทุกคนผิดหวังกับสิ่งที่ผมได้ทำลงไป และมันขึ้นอยู่กับผมที่จะทำให้ดีขึ้นในฐานะปัจเจกบุคคล
ผมเป็นหนี้บุญคุณอย่างเต็มที่ว่าผมได้รับสิทธิพิเศษและอยู่ในฐานะชนชั้นนำ ผมไม่มีประสบการณ์และไม่มีการศึกษาเกี่ยวกับการเมืองไทย
ไม่เหมาะสมและไม่สมควรอย่างยิ่งที่ผมจะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการเมือง ทั้งๆ ที่ผมมีสิทธิในการแสดงความคิดเห็นอย่างเสรี ผมไม่มีคุณสมบัติเพียงพอ
ผมจะใช้เวลาในการไตร่ตรองการกระทำและความประพฤติของผม
ในช่วงเวลานี้ ผมจะทบทวนตัวเองถึงวิธีที่ผมสามารถใช้ประสบการณ์นี้เพื่อเติบโตและเป็นผู้ใหญ่ในฐานะคนหนุ่มสาว ประสบการณ์ของผมแตกต่างจากคนอื่นๆ อย่างมาก
และผมได้รับผลประโยชน์และสิทธิพิเศษบางอย่างที่ลดทอนและกีดกันผู้คนและชุมชนบางแห่ง ผมได้ทำประโยชน์และใช้ประโยชน์จากภูมิหลังของตัวเองเพื่อความก้าวหน้าในสังคม สิ่งนี้บ่งบอกถึงระดับความเหลื่อมล้ำที่แพร่กระจายในประเทศไทย
ผมรู้ว่างานของพรรคก้าวไกล และฝ่ายสนับสนุนประชาธิปไตยอื่นๆ กำลังทำเพื่อกลุ่มเหล่านี้ และแม้ว่าผมจะคิดเห็นต่างกัน แต่ผมเคารพความคิดเห็นของพวกเขา
ตลอดวันที่ผ่านมา ผมได้อ่านความคิดเห็นที่ทำร้ายจิตใจเกี่ยวกับรูปร่าง ความฉลาด และภูมิหลังของฉัน
ในขณะที่ทุกคนมีสิทธิ์แสดงความคิดเห็นของตัวเอง ผมยอมรับว่านี่คือผลของการกระทำของผลและผมก็เปิดใช้สิ่งนี้ เราต้องแสดงความเห็นอกเห็นใจและมีน้ำใจต่อผู้อื่น ผมยอมรับว่าผมไม่ได้เก่งด้านนี้
แต่ในอนาคต ผมหวังว่าจะใช้สิ่งนี้เป็นโอกาสในการพัฒนาทักษะดังกล่าวเพื่อให้เป็นคนที่รอบรู้และเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น
มีบางความคิดเห็นที่มากเกินไปจนถึงขั้นแสดงความเกลียดชังและการเลือกปฏิบัติ ผมจะไม่มีส่วนร่วมกับพวกเขาแต่ผมจะพูดแบบนี้
ความเกลียดตัวเองมีแต่จะทำให้ความเกลียดชังเพิ่มมากขึ้น ถ้าให้นึกย้อนถึงตัวผมในฐานะคนๆ หนึ่ง หวังว่าทุกคนคงจะอินไปกับนิยายเรื่องนี้เช่นกัน ว่าเราสามารถปฏิบัติต่อผู้คนได้ดีขึ้นและอดทนต่อความคิดเห็นที่แตกต่างได้อย่างไร
รักมาก
แสนดี”