บันเทิงบันเทิงเกาหลี

Dispatch แฉ ‘อันซังอิล’ ปลอมลายเซ็นเจ้าของเพลง Cupid หวังเคลมลิขสิทธิ์

Dispatch ได้เปิดเผยว่า อันซังอิล (Ahn Sung Il) เจ้าของค่ายเพลง The Givers ปลอมลายเซ็นในเอกสารอย่างเป็นทางการเพื่อโอนลิขสิทธิ์เพลง Cupid จากนักแต่งเพลงชาวสวีเดนที่เป็นเจ้าของต้นฉบับให้กับตัวเขาเอง

ตามรายงานพิเศษจาก Dispatch ระบุว่า อันซังอิล ปลอมแปลงลายเซ็นในเอกสารทางการถึงสองครั้ง แถมยังมีการโอนลิขสิทธิ์เพลง Cupid ให้เป็นชื่อและบริษัทของเขา

Dispatch แสดงหลักฐานเป็นลายเซ็นของนักแต่งเพลงชาวสวีเดนสามคนสำหรับเพลง Cupid ได้แก่ Adam von Mentzer, Mac Fellander และ Louise Udin Ahn โดยอันซังอิลจ่ายเงินให้พวกเขาประมาณ 9,000 ดอลลาร์สำหรับค่าลิขสิทธิ์เพลง

อันซังอิล ปลอมลายเซ็น
ภาพจาก : koreaboo

ระหว่างการสนทนากับ จอนฮงจุน (Jeon Hong Joon) เจ้าของตำแหน่ง CEO ของ ATTRAKT อันซังอิลได้ปกปิดข้อเท็จจริงที่ว่าเขาซื้อลิขสิทธิ์เพลงจากจอนฮงจุน และอ้างว่าต้องใช้เวลา 2-3 เดือน สำหรับชื่อผู้ผลิตทั้งหมดที่จะได้รับเครดิต ในตอนนั้นฮงจุนไม่รู้ว่าอันซังอิลกำลังวางแผนทำอะไรอยู่

เนื่องจากสถานการณ์ที่กำลังเป็นไปในตอนนี้ ทางด้านสื่อใหญ่ของเกาหลีอย่าง Dispatch จึงเริ่มวิเคราะห์เอกสารที่เกี่ยวข้องกับการโอนลิขสิทธิ์ของเพลง Cupid ในเดือนมีนาคม 2023 ซึ่งอันซังอิลได้ส่งเอกสารสำหรับการเปลี่ยนแปลงการจัดจำหน่ายลิขสิทธิ์เพลง Cupid โดยย้ายรายได้ราว 74.5% ของการจัดจำหน่ายจากนักแต่งเพลงชาวสวีเดนทั้งสามคนมาเป็นของตัวเอง เขายังลดการจัดจำหน่ายเพลงจากการแต่งเพลงของ Keena จาก 6.5% เหลือ 0.5%

อันซังอิล ปลอมลายเซ็น
ภาพจาก : koreaboo

การเคลื่อนไหวของอันซังอิลเป็นการละเมิดสัญญาบริการอย่างชัดเจน ซึ่งเขาลงนามเมื่อตกลงร่วมงานกับ ATTRAKT มันจำเป็นที่ทาง The Givers ต้องผ่านขั้นตอนการปรึกษาหารือกับทาง ATTRAKY เมื่อทำธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ FIFTY FIFTY อย่างไรก็ตามอันซังอิลทำสิ่งนี้โดยไม่ได้ปรึกษา ATTRAKT

อันซังอิลได้กระทำความผิดทางอาญาร้ายแรงในระหว่างการเคลื่อนไหวครั้งนี้ด้วย เขาปลอมแปลงลายเซ็นของนักแต่งเพลงชาวสวีเดนในเอกสารและนำส่งแบบฟอร์มเหล่านั้นออกไป

อันซังอิล ปลอมลายเซ็น
ภาพจาก : koreaboo

Dispatch ตรวจสอบเอกสารที่เป็นประเด็นอย่างละเอียดยิ่งขึ้น โดยเฉพาะลายเซ็นของเอกสารข้างต้นที่ถูกส่งไปยัง KOMCA อย่างไรก็ตามเมื่อเปรียบเทียบกับลายเซ็นจริงของผู้แต่งเพลง มีความแตกต่างอย่างชัดเจนระหว่างเอกสารที่อันซังอิลส่งมากับลายเซ็นจริงของพวกนักแต่งเพลงชาวสวีเดน

อันซังอิล ปลอมลายเซ็น
ภาพจาก : koreaboo

เนื่องจากลายเซ็นที่แตกต่าง Dispatch จึงขอให้มีการประเมินลายเซ็น ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ปรากฏว่าเป็นลายมือที่ต่างกัน

อันซังอิล ปลอมลายเซ็น
ภาพจาก : koreaboo

ทั้งนี้ผู้ประเมินและตรวจสอบลายเซ็นนามว่า ยางโฮยอล (Yang Hoo Yeol) ได้อธิบายถึงความต่างของลายเซ็นไว้ว่า “ลายเซ็นของผู้แต่งทั้งสามคนในเอกสารทั้งสองฉบับถือได้ว่าเป็นลายมือที่ต่างกันโดยภาพรวม

ตัวอย่างเช่น อักษรตัวแรกบนลายเซ็นของเอกสารยืนยันการเปลี่ยนแปลงการจัดจำหน่ายแสดงว่าลายเซ็นขึ้นต้นด้วยสิ่งที่คล้ายกัน โดยมันเริ่มจากกการลากเส้นตัว A จากซ้ายล่างแล้วเลื่อนขึ้น จากนั้นเมื่อถึงจุดสูงสุด มันจะหมุนตามเข็มนาฬิกา และตัวอักษรตัวที่สองจะมีรูปร่างคล้ายกับตัวอักษร d จากนั้นเส้นขีดจะโค้งเป็นรูปตัวอักษร e โดยใช้ปากกาเขียนไปทางขวาบน

ส่วนเอกสารข้อตกลงการโอน ลายเซ็นจะขึ้นต้นด้วยสิ่งที่สันนิษฐานได้ว่าเป็นตัวอักษร A ทิศทางของจังหวะจะคล้ายกัน อย่างไรก็ตามมีความแตกต่างในมุมโดยรวม ทั้งการเขียน และองค์ประกอบของตัวอักษรในลายเซ็น ลงท้ายจะคล้ายกับตัวอักษร m มากกว่า จุดสิ้นสุดของลายเซ็นซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะตัว และเป็นเอกลักษณ์ของลายเซ็นถูกลากลงไปทางซ้าย”

Dispatch สรุปผ่านการสืบสวนว่าอันซังอิลปลอมแปลงลายเซ็นของนักแต่งเพลงชาวสวีเดนสองครั้งในเอกสารฉบับหนึ่ง ซึ่งเขามีพนักงานของ The Givers ชื่อ “คิม” เซ็นและส่งเอกสารให้ แต่การส่งเอกสารถูกปฏิเสธเนื่องจากไม่มีข้อมูลรองรับมากเพียงพอ

อันซังอิล ปลอมลายเซ็น
ภาพจาก : koreaboo

แต่นั่นไม่ได้ทำให้อันซังอิลท้อใจ สุดท้ายเขาก็เป็นคนลงมือปลอมลายเซ็นด้วยตัวเอง หากอ้างอิงตามกฎหมายอาญาแล้วนั้น บุคคลใดที่ใช้ลายมือชื่อหรือตราประทับของผู้อื่นโดยมิชอบ มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ถึงกระนั้นอันซังอิลได้ส่งเอกสารดังกล่าวไปยัง KOMCA และได้รับการอนุมัติแล้ว จึงทำให้ผู้แต่งเพลงชาวสวีเดนเจ้าของเพลงไม่ได้ถือครองลิขสิทธิ์เพลงอีกต่อไป

Mothana

นักเขียนข่าวที่ Thaiger การศึกษาทางด้านภาษา จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีความเชี่ยวชาญด้านมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ จึงรับหน้าที่เขียนบทความไลฟ์สไตล์บันเทิง เศรษฐกิจ อยากเป็นสื่อกลางคอยขุดคุ้ยประเด็นตั้งแต่เล็กน้อยจนถึงใหญ่โตมาเขียนให้ทุกคนได้อ่าน เพราะมีความเชื่อว่าสื่อที่ดีย่อมเป็นหนทางนำผู้อ่านไปสู่งานเขียนที่ดีได้ ติดต่อได้ทาง tangmo@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button