‘เสรี’ ลั่นไม่โหวตให้ ‘พิธา’ การทำหน้าที่ ส.ว. คือการปกป้องสถาบัน
เสรี ลั่นไม่โหวตให้ พิธา เป็นนายก ชี้การทำหน้าที่ ส.ว. คือการปกป้องสถาบัน ยืนยันเคารพเสียงประชาชน แต่ 14 ล้านเสียงไม่ใช่เสียงจากประชาชนทั้งหมด
นาย เสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ได้ลุกขึ้นกล่าวอภิปรายในการประชุมสภาโหวตนายก โดยได้กล่าวว่าตนไม่เห็นด้วยให้ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกฯ บริหารประเทศ
ยืนยัน เคารพประชาชน แต่การทำหน้าที่ของ ส.ว.แยกส่วนจากเสียง ประชาชนที่เลือกตั้ง ซึ่งส่วนนั้นจบไปแล้ว แต่การโหวตในสภา นายกฯ ต้องไม่มีคุณลักษณะต้องห้าม
ส.ว.ถูกด่าด้วยถ้อยคำรุนแรงและถูกตั้งคำถามว่าไม่ให้ความเคารพประชาชน ซึ่งต้องเรียนให้ประชาชนรู้ว่า ส.ว.เคารพ แต่การทำหน้าที่ ส.ว. แยกส่วนจากเสียงที่ประชาชนลงคะแนนให้ ตามกระบวนการที่รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้
กลัวประชาชนจะเข้าใจผิดว่า ส.ว. ไม่เคารพเกรงใจเสียงประชาชน พร้อมระบุว่า “แต่ด้วยความเกรงกลัวเสียงประชาชน ก็คำนึงด้วยว่าการทำหน้าที่ ส.ว. ต้องทำหน้าที่เพื่อรักษาปกป้องประเทศ รักษาปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์”
“เพราะฉะนั้น ความกลัวที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะกลัวประชาชนที่รวมตัวกันมากมายมหาศาล กลัวเสียงที่มาข่มขู่ให้ร้ายพูดจาด่าทอเสียดสีสารพัด เราก็กลัว แต่กลัวน้อยกว่าความรู้สึกสำคัญที่เราต้องออกมาปกป้องประเทศและสถาบัน นี่เป็นภารกิจหน้าที่สำคัญที่เป็นคนละส่วนกับการที่ประชาชนได้เลือกตั้ง ส.ส. ไปแล้ว”
นาย เสรี ยังชี้ด้วยว่า มีประชาชนสนับสนุนพิธา 30 ล้านเสียง แล้วทำไม ส.ว. ไม่ลงคะแนนให้ เสียงที่พรรคก้าวไกลได้จากประชาชน 14 ล้านเสียง อย่าสำคัญผิดว่าได้ 30 ล้านเสียง ส.ว.เคารพประชาชน แต่เสียงที่ได้มาก็ไม่ใช่เจตนารมทั้งหมดของประชาชนที่เลือกมา
พร้อมย้ำว่า นอกจากนี้ที่ผ่านมายังมองว่า พรรคก้าวไกลยังมีส่วนยุยงให้คนทำผิด จนเยาวชนหรือประชาชนทำผิดกฎหมายมากมาย รวมไปถึงการเสนอแก้ ม.112 โดยอ้างกฎหมายกลั่นแกล้งเพียงเพื่อต้องการได้มวลชนสนับสนุน และต่อให้นายพิธา ยืนยันว่าจะไม่แก้ไข ม.112 แล้ว ตนก็ไม่เชื่อ เพราะที่ผ่านมาการกระทำกับคำพูดไม่เคยตรงกัน
ย้ำที่ไม่สนับสนุนไม่ใช่เพราะความไม่ชอบ แต่เป็นการทำหน้าที่ของ ส.ว. ที่ต้องการปกป้องสิ่งที่เป็นเสาหลักของประเทศให้คงอยู่ต่อไป
ทั้งนี้หลังจากลงมติแล้วหากได้เสียงสนับสนุนเพียงพอที่จะเป็นนายกฯ ตนก็ยินดี แต่หากไม่ได้ก็ขอให้ยืนยันต่อรัฐสภาว่า จะไม่แสดงการกระทำใดที่เป็นการปลุกม็อบให้ประชาชนออกมาเรียกร้องให้เป็นนายกฯ อีก เพราะการโหวตนายกฯ ครั้งนี้เป็นการดำเนินการตามกรอบรัฐธรรมนูญ