ชาวเน็ตชี้วง FIFTY FIFTY พลาดโอกาสครั้งใหญ่ ยกเลิกงาน ใหญ่ระดับโลก เพราะข่าวสมาชิกวงฟ้องต้นสังกัด ATTRAKT “พวกเธอโลภเกินไป”
ท่ามกลางประเด็ดความขัดแย้งระหว่าง 4 สมาชิกวง FIFTY FIFTY กับต้นสังกัด ATTRAKT เรื่องของการฟ้องยกเลิกสัญญากับค่าย เพราะความไม่เป็นธรรมหลังเพลง Cupid กลายเป็นไวรัลขึ้นท้อปชาร์จ Billboard ทำให้ในเวลานี้ ตารางานของ FIFTY FIFTY ต้องถูก ยกเลิกงาน ทั้งหมด ทั้งที่อยู่ในช่วงขาขึ้นของวง
ก่อนหน้านี้ เพลง Cupid ของวง FIFTY FIFTY กลายเป็นกระแสในโลกออนไลน์ ด้วยสไตล์เพลงที่ฟังง่าย อีกทั้งยังมีเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษ และผลจากการทุ่มเงินกว่า 80 ล้านวอนของค่าย ช่วยในการโปรโมทออนไลน์ ทำให้วงกลายเป็นที่รู้จักระดับโลก โดยวงมีแผนจะร่วมแสดงอยู่ในหนังเรื่อง บาร์บี้ (Barbie) 2023
ล่าสุดมีรายงานออกมาว่า เนื่องจากปัญหาความขัดแย้งภายในของตัวศิลปิน ที่ยื่นฟ้องต้นสังกัด ทำให้งานมิวสิควิดีโอสำหรับเพลงประกอบต้นฉบับในภาพยนตร์บาร์บี้ โดนยกเลิก ทั้งที่กำหนดจะเข้าฉายเดือน ก.ค.2023 นี้แล้ว
จากข่าวที่ออกมา ชาวเน็ตเกาหลีแสดงความเห็นอกเห็นใจต่อ CEO ของค่ายเท่านั้น ในขณะเดียวกัน สมาชิกทั้ง 4 คนของวง ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าพวกเธอเลือกที่จะ “โลภเกินไป” ในการต่อสู้ทางกฎหมายกับ ATTRAKT และพยายามยกเลิกสัญญากับต้นสังกัด
ตอนนี้ ชาวเน็ตกำลังคาดเดาเกี่ยวกับโอกาสที่วงนี้ต้องสูญเสียไปจากความขัดแย้ง ซึ่งลุกลามจนเกินควบคุมในเวลาเพียงไม่กี่วัน โพสต์ไวรัลบนเว็บไซต์บล็อกยอดนิยมของเกาหลี theqoo ระบุว่าการถ่ายทำโฆษณา FIFTY FIFTY ที่จะถ่ายทำร่วมกับ ซนฮึงมิน นักบอลชื่อดังระดับโลก ต้องยกเลิกด้วย
นอกจากนี้ยังมี บริษัทอิเล็กทรอนิกส์ระดับโลก ที่คาดว่าน่าจะเป็น ซัมซุง (Samsumg) ก็ยกเลิกสัญญากับวง ส่วนรายการวาไรตี้ต่าง ๆ ก็เริ่มทยอยลบตารางงานของวงออกไป และ KCON LA ซึ่งแต่เดิมมีกำหนดจะแสดงในวันที่ 19 สิงหาคม ด้วยเช่นกัน
แม้ว่ารายละเอียดเฉพาะเหล่านี้จะเป็นเพียงการคาดเดา แต่ชาวเน็ตก็ดูเหมือนจะมั่นใจเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นจริง และรู้สึกเสียดายโอกาสดี ๆ สำหรับทุกคนที่เกี่ยวข้องกับวง โดยเฉพาะ CEO ของ ATTRAKT ที่ลงทุนไปวงค่อนข้างมาก แต่ยังไม่ทันได้กำไรก็เกิดปัญหาขึ้นเสียก่อน
“พวกเธอคิดว่าตัวเองเป็นไข่ทองคำ และกำลังทิ่มแทงตังเอง”, “ว้าว ฮ่า ๆ ถ้าทุกอย่างผ่านไปได้ พวกเขาคงได้รับความสำเร็จครั้งประวัติศาสตร์”, “นั่นช่างโง่เขลาจริง ๆ (ของพวกเธอ)”, “ฉันไม่เคยเห็นคนโง่แบบนี้มาก่อน เชียร์นาย CEO!”.
ที่มา Koreaboo
