พ่อเลี้ยงโหด ฆ่าลูกเลี้ยงยัดถังโบกปูน โกรธผู้ตายขโมยอาหารเสริม
พ่อเลี้ยงโหด ฆ่าลูกเลี้ยงยัดถังโบกปูน หลังใช้ไม้เบสบอลฟาดจนตาย เหตุโกรธจับได้ว่าลูกเลี้ยงขโมยอาหารเสริมซึ่งเป็นของลูกค้า
ร.ต.อ.ธนศักดิ์ พ้องเสียง รอง สว.(สอบสวน) สน.บางเขน รับแจ้งเหตุฆาตกรรม ภายในบ้านพักในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพฯ จึงประสานกำลังลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ
เมื่อถึงที่เกิดเหตุพบว่า เป็นบ้านทาวน์เฮาส์ 2 ชั้น ประกอบกิจการรับจ้างแพ็คสินค้าใส่กล่องเพื่อส่งมอบให้บริษัทขนส่ง จากการตรวจสอบบริเวณครัวหลังบ้านชั้นล่าง พบถังพลาสติก ขนาด 200 ลิตร สีน้ำเงิน วางอยู่ใต้เคาน์เตอร์อ่างล้างจาน เมื่อเปิดดูพบ ถมด้วยดินชั้นบนสุด และมีการโบกปูนทับในชั้นรองลงมา เมื่อควักดินและทุบทำลายปูนออก พบศพ เด็กหญิงหลานเจ้าของบ้าน อายุ 12 ปี สภาพศพเปลือยกาย มีถุงขยะสีดำ และผ้าขนหนูสีชมพูห่อหุ้มร่างเอาไว้
จากการตรวจสอบศพนั้นพบบาดแผลถูกตีด้วยของแข็งตามใบหน้าและร่างกายหลายแห่ง แพทย์สันนิษฐานเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 48 ชั่วโมง
จากการสอบปากคำ น.ส.อภิญญา อายุ 24 ปี ผู้แจ้งเหตุ ให้การว่า ผู้ตายเป็นบุตรสาวของญาติห่างๆ กับตน แต่ไม่ได้เรียนหนังสือ และไม่ได้พักอาศัยอยู่กับพ่อแม่ที่แท้จริงตั้งแต่เล็กประมาณ 5 ขวบ จนโตถึงปัจจุบัน ผู้ตายมี น.ส.นิรมล อายุ 30 ปี ลูกพี่ลูกน้องของตน และนายยุทธนา หรือ แจ๊บ อายุ 29 ปี สามีของ น.ส.นิรมล เป็นผู้รับอุปการะในฐานะพ่อและแม่รับเลี้ยง แต่ที่ผ่านมาทราบว่า ผู้ตายมีอุปนิสัยค่อนข้างก้าวร้าว และชอบลักขโมยข้าวของภายในบ้าน จน น.ส.นิรมล และ นายยุทธนา ต้องว่ากล่าวตักเตือนและทำโทษด้วยการตีอยู่หลายครั้ง แต่ยิ่งตีผู้ตายก็ยิ่งต่อต้าน ทำให้พ่อและแม่ที่รับเลี้ยงเกิดความเครียดจนต้องนำเรื่องมาปรึกษาตน ซึ่งก็ไม่รู้จะแก้ปัญหาอย่างไร
กระทั่งเมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 3 กรกฎาคม ที่ผ่านมา น.ส.นิรมล และ นายยุทธนา พากันขับรถเก๋งเดินทางไปหาตน ที่บ้านพักย่านรามอินทรา ก่อนที่ นายยุทธนา จะยอมรับสารภาพว่า ใช้ไม้เบสบอลตีผู้ตายจนเสียชีวิตแล้วตั้งแต่ช่วงตี 1 ของวันที่ 2 กรกฎาคม สาเหตุเกิดจากจับได้ว่าผู้ตาย ขโมยอาหารเสริมซึ่งเป็นสินค้าที่ต้องแพ็คนำส่งให้ลูกค้า โดยหลังจากที่พลั้งมือตีลูกเลี้ยงจนตาย นายยุทธนา ได้วางแผนจะทำลายศพด้วยการหั่นแต่ไม่กล้า
จากนั้นช่วงหัวค่ำวันเดียวกัน จึงไปซื้อถังพลาสติกขนาดใหญ่มาใส่ศพโบกปูนและถมดินทับ ก่อนที่จะตัดสินใจมารับสารภาพกับตน ให้ช่วยแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยหลังจากที่ตนแจ้งความแล้ว นายยุทธนา ได้เดินทางไปหาเพื่อนแถวแฟลตดินแดงและไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย ส่วน น.ส.นิรมล ขณะนี้ฝ่ายสืบสวนนำตัวไปสอบปากคำเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เบื้องต้นพนักงานสอบสวน ได้มอบร่างผู้ตายให้แพทย์นิติเวชนำไปผ่าชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้ง จากนั้นได้ประสานให้ฝ่ายสืบสวนติดตามตัว นายยุทธนา มาดำเนินคดี ส่วน น.ส.นิรมล ต้องรอผลสอบปากคำว่ามีส่วนรู้เห็นมากน้อยเพียงใด หากพบว่ามีพฤติกรรมร่วมกันกระทำความผิด จะแจ้งข้อหาดำเนินการในฐานะผู้ร่วมกันฆ่าฯ และร่วมกันซ่อนเร้นอำพรางศพด้วย
ด้าน นายแบงค์ เพื่อนผู้ก่อเหตุ เผยว่า เมื่อกลางดึกวันอาทิตย์ ผู้ก่อเหตุได้โทรมาขอยืมอุปกรณ์ประเภทเลื่อย เครื่องตัด และถังน้ำแข็ง ผู้ก่อเหตุอ้างว่านำไปทำชั้นวางของ ตัวเองจึงให้ยืมเลื่อยกับเครื่องตัด ก่อนผู้ก่อเหตุนำอุปกรณ์มาคืน บอกว่าไม่สามารถใช้ได้ จะติดต่อกลับมาภายหลังในช่วงตอนเวลาประมาณ 21:00 น. ของวันจันทร์ ที่ 3 ก.ค. โดยสารภาพว่าได้ฆ่าเด็กจนเสียชีวิต จึงได้ร่ำลากันก่อนหายตัวไป
ช่วงแรกตนไม่เชื่อ เพราะคิดว่าผู้ก่อเหตุมีอาการหลอนยาเสพติด เนื่องจากมีการใช้สารเสพติดอยู่บ่อยครั้ง ก่อนจะมาทราบในภายหลังว่าเกิดเหตุขึ้นจริง ทั้งนี้แฟนของผู้ก่อเหตุ ยังเล่าให้ฟังอีกว่า ขณะเกิดเหตุเด็กหญิงคนดังกล่าว ได้แอบขโมยกินสินค้าออนไลน์ที่กำลังจะจัดส่ง ทำให้ผู้ก่อเหตุโมโห ใช้ไม้เบสบอลกระหน่ำตีเด็ก จากนั้นผู้ก่อเหตุก็พยายามหาถังน้ำแข็งและอุปกรณ์มาอำพรางศพ ซึ่งตัวของแฟนผู้ก่อเหตุได้เก็บเรื่องราวมาตลอด และถูกสั่งให้ลบภาพจากกล้องวงจรปิด แต่เจ้าตัวไม่ลบ พร้อมนำหลักฐานเข้าแจ้งความกับตำรวจในเวลาต่อมา