เกือบงานเข้า หนุ่มล้างมือด้วยแอลกอฮอล์ ถูกตำรวจเรียกให้เป่าตรวจเมาแล้วขับ เนื่องจากมีกลิ่นของสเปรย์ติดอยู่
เพจ อยากดังเดี๋ยวจัดให้รีเทิร์น โพสต์คลิปและข้อความลงเฟซบุ๊ก หลังจากที่มีชายคนหนึ่งฉีดสเปรย์แอลกอฮอล์ล้างมือในรถ แต่ถูกเรียกให้หยุดรถและเป่าแอลกอฮอล์เพราะมีกลิ่น
โดยบุคคลที่อยู่ในคลิปเล่าว่า “ขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้มงวดกวดขันในการตั้งด่านตรวจเมาแล้วขับ ไม่ได้ดื่มมาแต่เกือบซวยละ
ขออนุญาติแชร์ความรู้ใหม่ คือผลของสเปรย์แอลกอฮอล์ 75% ล้างมือในรถทำให้เป่าเจอแอลกอฮอล์ได้ ผลเป่าตั้งแต่ครั้งแรกยันครั้งสุดท้ายขึ้นเขียวเหมือนกันเป๊ะ ไอตำรวจคนที่ 3 ก็เอาแต่พูด “เค้าดื่มเค้ามาๆๆๆ งงนะ ในเว็บก็แจ้งชัดเจน ว่าถ้าสีเขียวก็คือ 0% แอลกอฮอล์ ระวังกันด้วยนะจ๊ะ ตำรวจคนแรกก็จะ ให้ชิดซ้ายๆอย่างเดียวเข้าไปคุยในเต็นท์เสียเวลา”
จากคลิปแสดงให้เห็นว่าทั้งสองฝ่ายมีการโต้เถียงกัน โดยฝ่ายคนที่อยู่รถยืนกรานว่าตนไม่ได้ดื่ม พร้อมระบุว่าเป่าแล้วไม่ขึ้น ขึ้นสีเขียว และให้เป่าอีกที โดยตำรวจนายหนึ่งก็พยายามโต้แย้งว่าฝ่ายคนถ่ายคลิปดื่ม จนตำรวจนายเดิมเสนอให้เป่าแอลกอฮอล์นอกรถและปิดแอร์ เพราะอากาศในรถอาจจะยังมีแอลกอฮอล์ปนเปื้อนอยู่ ก่อนที่ทางคนถ่ายคลิปจะเป่าและไม่ขึ้นพบแอลกอฮอล์
ตามปกติแล้วเจ้าหน้าที่จะใช้วิธีการตรวจสอบหลายอย่างไม่ใช่แค่การเป่าเครื่องตรวจวัด อาจจะมีการสังเกตอาการผู้ขับขี่ประกอบด้วย ซึ่งกลิ่นเป็นสิ่งหนึ่งที่เจ้าหน้าที่ตำรวจมักจะใช้สังเกตเมื่อตรวจสอบผู้ขับขี่
