ข่าวภูมิภาค
DEPA เดินหน้าเพิ่มศักยภาพดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำทะเล
นายประชา อัศวธีระ ผู้จัดการสำนักงานส่งเสริ มเศรษฐกิจดิจิทัล จำกัด สาขาภาคใต้ตอนบน หรือ DEPA กล่าวถึงความพร้อมการส่งเสริ มให้ภูเก็ตเป็น เมืองสมาร์ท ซิตี้ ว่า ถ้าพูดถึงเรื่องของระบบโครงสร้ างพื้นฐานในระบบดิจิทัล มีความสมบูรณ์แล้วขณะนี้จังหวั ดภูเก็ตมีการติดตั้งระบบ ฟรี WI-FI ครบทั้ง 1,000 จุดแล้ว และมีการเปิดตัวไปเมื่อเดือนที่ ผ่านมา นอกจากนั้นในเรื่องของระบบเน็ ตเวิร์กที่รอบรับในการติดตั้งอุ ปกรณ์ต่างๆก็ครอบคลุมหมดแล้ว รวมทั้งเรื่องของวางระบบโครงสร้ างพื้นฐานในเรื่องของกล้อง CCTV ที่เข้ามามีส่วนร่วมในการดูแลรั กษาความปลอดภัย ในพื้นที่สาธารณะขณะนี้ได้มี การติดตั้งไปแล้ว 1,300 ตัว
แต่สิ่งที่ทางจังหวัดกำลั งจะดำเนินการ เพื่อยกระดับการดูแลความปลอดภั ยนักท่องเที่ยวที่ลงเล่นน้ำ ในทะเล ให้มีมาตรฐานและศักยภาพมากขึ้น ด้วยการนำเทคโนโลยีเข้ามาเป็นตั วช่วย เพื่อลดความสูญเสี ยจากการประสบอุบัติเหตุจมน้ำ ตามชายหาดต่างๆของจังหวัดภูเก็ต คือการดำเนินโครงการ สมาร์ท บีช ซึ่งเป็นการนำกล้อง CCTV เข้ามาเป็นตัวช่วยเจ้าหน้าที่ ให้สามารถดูแลความปลอดภัยนักท่ องเที่ยวที่ลงเล่นน้ำได้ครอบคลุ มมากยิ่งขึ้น เพราะปัจจุบันต้องยอมรับว่านั กท่องเที่ยวที่เดินทางไปเล่นน้ำ ตามชายหาดมีเพิ่มมากขึ้นทุกวัน แต่กำลังเจ้าหน้าที่มีจำกัด รวมทั้งช่วงระยะเวลาในการทำงาน ทำให้ที่ผ่านมาความสูญเสียที่ เกิดขึ้นมีสูงตามไปด้วย จึงจำเป็นที่จะต้องนำเทคโนโลยี เข้ามาเป็นตัวช่วยและเสริมศั กยภาพการทำงานให้ดีขึ้น
ขณะที่ทาง DEPA ได้เสนอไปยังจังหวัดเพื่อขอสนั บสนุนงบประมาณในการดำเนิ นการโครงการ สมาร์ท บีช แล้ว คาดว่าจะใช้งบในการดำเนินการติ ดตั้งกล้อง CCTV 140 ล้าน ในจำนวน 13 หาดของภูเก็ต ซึ่งจะติดตั้งกล้องประมาณ 40 กว่าตัว การติดตั้งก็ขึ้นอยู่กั บสภาพของชายหาดแต่ละแห่ง ถ้าได้รับงบประมาณมา การดำเนินการติดตั้งกล้องรวมทั้ งการรันระบบก็ไม่น่าจะเกิน 4 เดือนก็สามารถใช้งานได้ ซึ่งสามารถทันใช้งานในช่วงไฮซี ซันพอดี แต่ถ้างบประมาณที่เสนอขอไปไม่ ได้รับการพิจารณาก็อาจจะเสนอให้ ท้องถิ่นแต่ละท้องถิ่นเป็นผู้ ดำเนินการเอง ซึ่งเรื่องนี้ยังอยู่ระหว่ างการพิจารณา
สำหรับโครงการ สมาร์ท บีช นั้นคิดว่าเป็นโครงการที่ จะสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้ กับนักท่องเที่ยว ในเรื่องของการดูแลความปลอดภั ยทางทะเลได้มากขึ้น และในส่วนของจังหวัดเองก็ สามารถที่บอกกับประเทศต่างๆ ถึงความพร้อม และ ศักยภาพในการดูแลนักท่องเที่ ยวไปยังประเทศต่างๆ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กั บแต่ละประเทศ ที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ ามายังจังหวัดภูเก็ต
นายประชา กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้ทาง DAPA กำลังทดสอบระบบ กล้อง CCTV ที่จะเข้ามาช่วยเจ้าหน้าที่ไลฟ์ การ์ด ดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ ยวบริเวณชายหาด โดยเทคโนโลยี ดังกล่าวจะเป็นตัวช่ วยในการกำหนดพื้นที่ หรือโซนเล่นน้ำ โดยเจ้าหน้าที่สามารถเข้าไปสั่ งการและขีดเส้นได้เองว่าจุดเล่ นน้ำที่เหมาะสมควรอยู่บริ เวณใดของแต่ละหาด เพราะจุดเล่นน้ำก็จะเปลี่ ยนไปตลอดเวลา ซึ่งเมื่อก่อนการที่จะทำให้นั กท่องเที่ยวเล่นน้ำในจุดใดก็ จะใช้เชือกนำไปทำเป็นเส้น เพื่อกำหนดเขตให้นักท่องเที่ ยวเล่นน้ำอยู่ในพื้นที่ที่กำหนด แต่หลังจากนำระบบดังกล่าวมาใช้ เจ้าหน้าที่ก็สามารถดูได้ จากสมาร์ทโฟน หากมีนักท่องเที่ยวออกนอกเขตเล่ นน้ำ หรือมีเรือเข้ามาในเขตเล่นน้ำ ระบบก็จะแจ้งเตือน รวมทั้งจะมีการบันทึกภาพไว้ด้ วยเพื่อใช้เป็นหลักฐานภายหลั งได้
นอกจากนั้นเทคโนโลยีตัวนี้ยั งสามารถช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ ในการดูแลนักท่องเที่ยวที่ แอบลงไปเล่นน้ำในช่วงกลางคืน ซึ่งเป็นช่วงที่ไม่มีเจ้าหน้าที่ ปฏิบัติงาน แต่เป็นช่วงที่นักท่องเที่ ยวไปเล่นน้ำจำนวนมาก ซึ่งอันตรายต่อชีวิตของนักท่ องเที่ยว จึงได้มีการติดตั้งกล้อง CCTV ตรวจจับความร้อนเพิ่มเข้ามาเพื่ อเฝ้าระวังในช่วงกลางคืน ถ้ามีคนลงไปเล่นน้ำในช่วงกลางคื นกล้องก็สามารถตรวจจับได้และส่ งข้อมูลไปยังเจ้าหน้าที่ รวมทั้งส่งไปที่ศูนย์แต่ละท้ องถิ่น และศูนย์ร่วมของจังหวัด ทันทีเช่นกัน ซึ่งจะทำให้เจ้าหน้าที่ ทราบและออกมาตรวจสอบได้ทันที
นายประชา ยังกล่าวต่อไปอีกว่า เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปด้ วยความรวดเร็ว ระหว่างรองบประมาณ ทาง DEPA ก้ได้ทำงานคู่ขนานไปก่อนแล้ว โดยขณะนี้ได้มีการทดลองติดตั้ งกล้อง CCTV ที่บริเวณหาดป่าตองแล้วจำนวน 1 เพื่อเป็นการทดสอบระบบ ซึ่งคาดว่าหลังจากที่ ทดลองระบบแล้วเสร็จกล้องก็ จะสามารถใช้งานได้ เมื่องบประมาณลงมาก็จะทำให้ การติดตั้งกล้องสามารถทำได้ทั นทีและทันใช้ในช่วงไฮซีซันที่ จะถึงนี้ได้ เมื่อติดตั้งกล้องเสร็จก็จะส่ งผลดีกับการท่องเที่ยวของจังหวั ดภูเก็ตอย่างแน่นอน โดยเฉพาะเรื่องของความเชื่อมั่ นในการดุแลความปลอดภัยให้กับนั กท่องเที่ยว