มูลนิธิบุญรอด-เอกพจน์ วานิช” มอบทุนการศึกษาครั้งที่ 22
เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ (23 พ.ค.) ที่บ้านวานิชเลขที่ 7/3 ม.2 ถ.เทพกระษัตรี ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายอภิรักษ์ วานิช ประธานมูลนิธิบุญรอด-เอกพจน์ วานิช พร้อมด้วย นางอัญชลี วานิช เทพบุตร อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดภูเก็ต รองประธานมูลนิธิฯ ร่วมมอบทุนการศึกษาของมูลนิธิฯ ครั้งที่ 22 ประจำปี 2561จำนวน 22 ทุน เป็นเงินรวม 84,800 บาท ให้แก่นักเรียน นักศึกษาในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ที่มีความประพฤติเรียบร้อยแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต
นายอภิรักษ์ วานิช ประธานมูลนิธิบุญรอด-เอกพจน์ กล่าวว่า มูลนิธิบุญรอด-เอกพจน์ วานิช เกิดขึ้นจากดำริของคุณแม่บุญรอด ที่ต้องการสละทรัพย์ เพื่อจัดตั้งเป็นกองทุนการศึกษาให้แก่เด็กในจังหวัดภูเก็ต ที่มีความประสงค์จะศึกษาเล่าเรียน แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ให้มีโอกาสได้ศึกษาต่อ เพื่อเป็นการสร้างโอกาสให้กับเยาวชนของชาติ ให้เป็นผู้มีคุณภาพที่ดี ทั้งร่างกาย จิตใจและสติปัญญาโดยการจัดตั้งมูลนิธิบุญรอด-เอกพจน์ ได้รับอนุญาตจดทะเบียนจัดตั้งเป็นมูลนิธิ
เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม2539 จากสำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ ด้วยทุนจดทะเบียน 2 ล้านบาท และนำดอกผลมามอบเป็นทุนการศึกษา เริ่มตั้งแต่ปี 2540 เป็นต้นมา ทั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อจัดสรรทุนการศึกษาแก่นักเรียน นักศึกษาที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ ส่งเสริมงานวัฒนธรรม ดำเนินการเพื่อสาธารณประโยชน์ โดยเริ่มมอบทุนการศึกษาสำหรับนักเรียน นักศึกษา ที่ตั้งใจศึกษาเล่าเรียน มีความประพฤติเรียบร้อย แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ ตั้งแต่ปี พ.ศ.2540 จนถึงปัจจุบัน รวม 21 ครั้ง จำนวน 507 ทุน เป็นเงิน 1,687,000 บาท
สำหรับปีการศึกษา 2561 ทางมูลนิธิฯ ได้กำหนดมอบทุนการศึกษา ครั้งที่ 22 แก่นักเรียน นักศึกษา จำนวน22 ทุน จำแนกตามระดับการศึกษา ดังนี้ 1.ทุนระดับประถมศึกษา 2 ทุนๆ ละ 2,000 บาท 2.ทุนระดับมัธยมศึกษาตอนต้น 6 ทุนๆ ละ 3,300 บาท 3.ทุนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย 6 ทุนๆ ละ 4,000 บาท 4.ทุนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นต้น 3 ทุนๆ ละ 4,000 บาท 5.ทุนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง 1 ทุนๆ ละ 5,000บาท และ 6. ทุนระดับอุดมศึกษา/ปริญญาตรี 4 ทุนๆ ละ 5,000 บาท รวมทั้งสิ้น 22 ทุนเป็นเงิน 84,800 บาท
“ทุนการศึกษาที่มูลนิธิฯ มอบให้แก่นักเรียน นักศึกษาในวันนี้ด้วยหวังว่านักเรียน นักศึกษาทุกคนจะใช้เงินทุนการศึกษาที่ได้รับให้เกิดประโยชน์สูงสุด เป็นการสานต่อเจตนารมณ์ของผู้ก่อตั้งมูลนิธิ และบรรลุตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ โดยตั้งใจใฝ่ศึกษา และยกระดับคุณภาพชีวิต ขอให้ผู้ที่ได้รับทุนการศึกษาตั้งใจศึกษาเล่าเรียน ตามที่ได้ตั้งใจไว้อย่างเต็มที่ มีความอดทน มานะ อุตสาหะ ตั้งใจจริง พร้อมฝ่าฟันอุปสรรค และสร้างความสำเร็จให้กับตนเอง เพื่อที่จะได้จบการศึกษาออกไป และเป็นพลเมืองของชาติบ้านเมืองต่อไป” นายอภิรักษ์ กล่าว
นอกจากนี้ นายอภิรักษ์ ยังได้ขอให้นักเรียน นักศึกษาที่ได้รับทุนทุกคน ยึดถือพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ซึ่งได้พระราชทานแก่คณะครูและนักเรียนที่ได้รับพระราชทานรางวัลในปี พ.ศ.2524 ไว้ว่า “การศึกษาเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้าง และพัฒนาความรู้ ความคิด ความประพฤติและคุณธรรมของบุคคล สังคม และบ้านเมืองใดให้การศึกษาที่ดีแก่เยาวชนได้อย่างครบถ้วน ล้วนพอเหมาะกับทุกๆ ด้าน สังคมและบ้านเมืองนั้นก็จะมีพลเมืองมั่นคงของประเทศชาติไว้ และพัฒนาให้ก้าวหน้าต่อไปได้โดยตลอด”