ข่าวภูมิภาค

เลขา ปปท. ลงตรวจสอบข้อเท็จจริงการออกเอกสารสิทธิ์โดยมิชอบ

วันนี้ (21พ.ค.) พันโทกรทิพย์ ดาโรจน์ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.)พร้อมด้วย นาวาเอกบวร พรมแก้วงาม ผอ.สรมน.จว.ภูเก็ต เจ้าหน้าที่ป.ป.ท. เจ้าหน้าที่ กอ.รมน.ภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันตรวจสอบพื้นที่ที่สงวนเลี้ยวสัตว์ปากบาง ต.กมลา อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ซึ่งมีการร้องเรียนว่า นายทุนได้นำพื้นที่ในชาวต่างชาติออกเช่าเต็มพื้นที่ และการออกโฉนดที่ดินในพื้นที่ที่สงวนเลี้ยงสัตว์เกาะโหลน ต.ราไวย์อ.เมืองภูเก็ต รวมถึงการตรวจสอบข้อร้องเรียนกรณีการตัดถนนการตัดถนนผ่านป่าสงวนแห่งชาติป่าเทือกเขากมลาของทาง อบต.กมลา อ.กะทู้ ด้วย โดยในแต่ละพื้นที่ได้มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมตรวจสอบและให้ข้อมูลด้วย อาทินายอำเภอกะทู้ ปลัดอำเภอเมืองภูเก็ต ตัวแทนเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดภูเก็ต เป็นต้น

พันโทกรทิพย์ ดาโรจน์ เลขาธิการ ป.ป.ท. กล่าวภายหลังการตรวจสอบพื้นที่แต่ละแปลง ว่า สำหรับที่สงวนเลี้ยงสัตว์ปากบาง ต.กมลา อ.กะทู้ ซึ่งเบื้องต้นพบว่า กระทรวงมหาดไทย ประกาศหวงห้ามไว้เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2480 ซึ่งรัฐบาลหวงห้าม ลำดับแปลงที่ 14 และได้นำขึ้นทะเบียนไว้ตั้งแต่วันที่ 19 เมษายน 2480 มหาดไทยเป็นผู้หวงห้ามเพื่อวัตถุประสงค์ใช้เป็นที่เลี้ยงสัตว์ ประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกันเนื้อที่ 18-2-46 ไร่ อาณาเขต ทิศเหนือ แจ้งจด สวนมะพร้าวนายดำ กรุณา ทิศใต้ แจ้งจด คลองปากบาง ทิศตะวันออก แจ้งจด ประทานบัตรบริษัท กมลาติน ทิศตะวันตกแจ้งจด อ่าวกมลา โดยพบว่ามีการยื่นขอออกโฉนดที่ดินในพื้นที่ 3 แปลง หนึ่งในจำนวนนั้น ช่างรังวัดได้รายงานว่าไม่ทับที่สาธารณประโยชน์ ซึ่งช่างรังวัดคนนี้ เป็นบุคคลเดียวกับคนรังวัดที่ดินเนื้อที่กว่า 200 ไร่ บนเทือกเขากมลาต.ป่าตอง อ.กะทู้ ให้อดีตรองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นอกจากนั้นสภาพในพื้นที่ปัจจุบัน บางส่วนเป็นโรงเรียนประชานุเคราะห์ 36 แต่พื้นที่ส่วนที่เหลือไม่ปรากฏสภาพที่สงวนเลี้ยงสัตว์ พบแต่ร้านค้าร้านอาหาร จำนวน63 ร้าน โรงแรม 5แห่ง ซึ่งพบว่าร้านอาหารขนาดใหญ่เป็นของรองนายก อบต.ท่านหนึ่ง และร้านค้าส่วนใหญ่เป็นของชาวต่างชาติ รวมทั้งยังพบว่า ได้มีการยื่นขอออกโฉนดที่ดินในพื้นที่ 3 แปลง แต่ยังไม่สามารถออกโฉนดที่ดินได้

Advertisements

ในส่วนของที่สงวนเลี้ยงสัตว์เกาะโหลน ต.ราไวย์ อ.เมืองภูเก็ต ข้าหลวงประจำจังหวัด ได้ประกาศหวงห้ามเมื่อ พ.ศ. 2476 ซึ่งรัฐบาลหวงห้าม ลำดับแปลงที่ 24 และได้นำขึ้นทะเบียนไว้ตั้งแต่วันที่ 12 กรกฎาคม 2493 ข้าหลวงประจำจังหวัดเป็นผู้หวงห้ามเพื่อวัตถุประสงค์ใช้เป็นที่เลี้ยงสัตว์ เนื้อที่ 2,500 ไร่ อาณาเขต ทิศเหนือ ระยะ 50 เส้น แจ้งจดควนเขาใต้ ระยะ 50 เส้น แจ้งจด ทะเล ทิศตะวันออก ระยะ 50 เส้น แจ้งจด ทะเล ทิศตะวันตก ระยะ 50 เส้น แจ้งจดทะเล ตรวจสอบพบว่าที่ดินอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเกาะโหลน (เป็นป่าคุ้มครองเมื่อปี พ.ศ. 2481 และประกาศป่าสงวนเมื่อ 22/11/2511 เบื้องต้นพบว่ามีการออกโฉนดที่ดินจำนวน 4 แปลง และ หนังสือรับรองการทำประโยชน์อีกจำนวน 1 แปลง เนื้อที่กว่า 246 ไร่ ซึ่งเอกสารเดิมที่นำยื่นขอออกคือ ส.ค.1 ซึ่งยื่นเมื่อปี พ.ศ. 2498 ผู้แจ้งอ้างว่าสับสร้างมาประมาณ 3 ปี (พ.ศ. 2495) สับสร้างเอง เมื่อประมาณ 8 ปี (พ.ศ.2490) ซึ่งเป็นการแจ้งภายหลังการประกาศหวงห้ามเป็นที่สาธารณประโยชน์เมื่อปี พ.ศ.2476 และเมื่อรวมเนื้อที่ ส.ค.1 ทุกแปลง เนื้อที่เพียง 101ไร่ แต่นำไปออกน.ส.3 ก. ได้เนื้อที่ 146 ไร่

“อย่างไรก็ตามในระหว่างที่ตรวจสอบพื้นที่ได้มีชาวบ้านยื่นหนังสือให้ตรวจสอบการตัดถนนผ่านป่าสงวนแห่งชาติป่าเทือกเขากมลา ของ อบต.กมลา โดยมีการอ้างว่าไม่ได้รับอนุญาตจากกรมป่าไม้ และจากการลงพื้นที่ไปตรวจสอบไม่มีบ้านเรือนราษฎรพบแต่โรงแรม และพบว่ากำลังมีการก่อสร้างอาคารขนาดใหญ่ พื้นที่กว่า 40 ไร่ จึงได้ดำเนินการตรวจสอบด้วยเครื่อง GPS ตรวจวัดความสูงจากระดับน้ำทะเล พบว่า สูงกว่าระดับน้ำ 108 เมตร ซึ่งตามประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดเขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ในบริเวณพื้นที่จังหวัดภูเก็ต พ.ศ. 2560 พื้นที่ที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางเกินกว่า 80 เมตรขึ้นไป ห้ามมิให้ก่อสร้างอาคารใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งจะได้ตรวจสอบว่าได้หน่วยงานใดเป็นผู้อนุญาตให้ก่อสร้าง และได้มีการทำจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมเบื้องต้นหรือรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมหรือไม่ ซึ่งเรื่องทั้งหมดจะได้ให้สำนักงานป.ป.ท.เขต 8 ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างละเอียดอีกครั้ง รวมทั้งจะได้แจ้งให้กับทางจังหวัดภูเก็ต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบต่อไป” พันโทกรทิพย์ กล่าวในที่สุด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button