วิษณุ เครืองาม ยืนยันกรณีที่มีคนร้อง พิธา และ ก้าวไกล ปมแก้ ม.112 ไม่กระทบเลือกนายก ยังไม่ตอบว่าโทษร้ายแรงถึงขนาดยุบพรรคไหม
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงศาลรัฐธรรมนูญ มีมติให้ อัยการสูงสุด (อสส.) ว่าจะรับหรือไม่รับคำร้องภายใน 15 วัน กรณีนายธีรยุทธ สุวรรณเกสร (ผู้ร้อง) ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญ พิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49
ว่าการกระทำของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกฯ (ผู้ถูกร้องที่ 1) และพรรคก้าวไกล (ผู้ถูกร้องที่ 2) ที่เสนอร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. เพื่อยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 โดยใช้เป็นนโยบายหาเสียงเลือกตั้ง และยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยฯ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคหนึ่งหรือไม่ว่า ศาลรัฐธรรมนูญ ต้องสอบถามเพราะมีคนไปร้องมานานแล้ว และยังไม่ทำความเห็นส่งมาเสียที เพราะถ้าไม่ส่งเอกชนก็จะฟ้องร้องเอง
นายวิษณุตอบหลังถูกถามว่าศาลมีทางเลือกจะไม่รับคำร้องหรือไมนั้น นายวิษณุชี้ว่า เป็นไปได้ เมื่อถามย้ำว่าเป็นเพราะศาลไม่มีทางเลือกหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ใช่ มี เมื่อถามว่าหากอัยการสูงสุดไม่รับคำร้อง ผู้ร้องสามารถใช้ช่องทางตามมาตรา 49 ยื่นตรงให้ศาลรัฐธรรมนูญได้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ศาลจะรับก็ได้ หรือไม่รับก็ได้
เมื่อถามว่าหากศาลรับคำร้องจะส่งผลต่อการโหวตเลือกนายกฯหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่น่า เพราะเป็นเรื่องของพรรคก้าวไกล ไม่ใช่ตัวบุคคล และไม่มีเรื่องการให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ส่วนจะส่งผลต่อการเมืองในเรื่องของการโหวตเลือกนายกฯ เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับมาตรา 112 นายวิษณุ กล่าวว่า ก็แล้วแต่ว่าใครจะมีความรู้สึกอย่างไร
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าโทษร้ายแรงถึงขั้นยุบพรรคก้าวไกลหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า อย่าไปถามล่วงหน้า เอาให้จบเรื่องเสียก่อน ส่วนคำร้องให้เขียนว่าแค่ยกเลิกการกระทำ ถือเป็นสารตั้งต้นให้คนมาร้องคดีอาญา หรือคดียุบพรรค กรณีหากศาลตัดสินว่าผิดใช่หรือไม่ นายวิษณุ พยักหน้าและตอบว่า ใช่ และอย่าให้ตนไปแนะนำเลย และเมื่อถามว่า คดีดังกล่าวเมื่อเทียบกับคดีหุ้นไอทีวี มีความรุนแรงกว่าหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่รู้
