วันนี้ 22 มิถุนายน 2566 เวลาบ่าย 3 โมงตามเวลาประเทศไทย ยังเหลือเวลาอีก 3 ชั่วโมงก่อนออกซิเจนบนเรือดำน้ำไททันจะหมด ตามการณ์คาดการณ์ขอผู้เชี่ยวชาญ ขณะที่หน่วยกู้ภัยยังเร่งภารกิจค้นหาพื้นที่มหาสมุทรขนาดมหึมาทั้งใต้น้ำและทางอากาศ
ขณะนี้อุปกรณ์ช่วยชีวิตที่ทันสมัยได้เร่งส่งไปยังมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ เพื่อหวังว่าจะช่วยชีวิต 5 คนบนเรือได้ทันท่วงที ท่ามกลางสภาพน้ำอันหนาวถึงจุดเยือกแข็ง ความลึก 4 กิโลเมตรจากผิวน้ำ พื้นที่ภายในที่ขับแคบ คาร์บอนไดออกไซด์เพิ่มขึ้นทุกทีตามเวลาที่ผ่านไป อาจก่อให้เกิดสภาวะหายใจติดขัด หรือขาดอากาศหายใจได้
ภายในเรือดำน้ำลึกขนาดเพียง 6.4 เมตรที่มีเพียงเครื่องควบคุมพื้นฐานและไม่มีที่ว่างให้ผู้โดยสารยืดตัว ลูกเรือจะได้รับอาหารและน้ำที่จำกัด
เรือดำน้ำที่รู้จักกันในชื่อ “ไททัน” เริ่มต้นการเดินทางแต่ละครั้งเพื่อสำรวจซากเรือไททานิกใช้เวลาประมาณ 96 ชั่วโมง สูญหายไปตั้งแต่เช้าวันอาทิตย์ โดยกำหนดให้เช้าวันพฤหัสบดีเป็นเป้าหมายสำคัญในการค้นหาเรือและผู้ที่อยู่บนเรือ
เรือของหน่วยยามฝั่งแคนาดาที่มีระบบโซนาร์ John Cabot มาถึงที่เกิดเหตุเมื่อวันพุธเพื่อเข้าร่วมการค้นหา กองทัพเรือสหรัฐฯ ยังส่งระบบลิฟต์ที่สามารถดึงวัตถุหนักใต้ทะเลจากความลึกได้ถึง 6 พันเมตร เพื่อช่วยกู้หากพบวัตถุใต้น้ำ
ทว่างานยากของภารกิจครั้งนี้คือ พื้นที่ค้นหาเรือดำน้ำที่หายไปมีขนาดประมาณสองเท่าของรัฐคอนเนตทิคัต และลงไปลึกถึงสองไมล์ครึ่ง
ก่อนหน้านี้ หน่วยกู้ภัยยินเสียงกระแทกในพื้นที่ค้นหา ลูกเรือเปลี่ยนเส้นทางยานพาหนะที่ควบคุมจากระยะไกลเพื่อสำรวจที่มา ตามรายงานของ US Coast Guard เสียงใต้น้ำที่ตรวจพบโดยอุปกรณ์โซนาร์เมื่อวันอังคาร ครั้งแรกเกิดขึ้นทุกๆ 30 นาที และได้ยินอีกครั้งในอีก 4 ชั่วโมงต่อมา
อย่างไรก็ตาม ยังไม่ชัดเจนว่าเสียงดังกล่าวมาจากเรือดำน้ำที่หายไปหรือไม่ ผู้เชี่ยวชาญด้านการเดินเรือกำลังวิเคราะห์การบันทึกเสียงเพื่อหาที่มาของมัน “ผมบอกไม่ได้ว่าเสียงนั้นคืออะไร”
ริก เมอร์คาร์ ผู้อำนวยการฝึกอบรมนานาชาติของ National Association of Cave Divers กล่าวว่า ปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม ต่างๆในมหาสมุทรมีแนวโน้มซับซ้อนในการระบุเสียง
กระแสน้ำสามารถเบี่ยงเบนเสียงเพื่อให้ดูเหมือนว่ามันมาจากหลายไมล์จากแหล่งที่มาที่แท้จริง และตอนนี้เรายังไม่สามารถระบุพิกัดที่แน่ชัดได้ ขณะที่เวลาเนื้อลงเต็มที
นาวาเอก David Marquet อดีตกัปตันเรือดำน้ำได้อธิบายเมื่อวันพุธถึงสิ่งที่เขาจินตนาการว่าผู้โดยสารทั้งห้ากำลังประสบกับเรือดำน้ำไททันไว้ว่า
ผู้โดยสารของไททันน่าจะกระหายน้ำและหิว และอึดอัดมาก
“ข้างล่างหนาวจัด น้ำรอบ ๆ เรือทั้งหมดเป็นน้ำแข็งหรือต่ำกว่าเล็กน้อย เมื่อหายใจออก ลมหายใจจะควบแน่น มีน้ำแข็งเกาะด้านในชิ้นส่วนของเรือดำน้ำ” มาร์เกต์กล่าว “พวกเขาต้องอยู่รวมกันโดยพยายามรักษาอุณหภูมิของร่างกายเอาไว้ มีออกซิเจนเหลือน้อยและพวกเขากำลังหายใจเอาก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกมา”
เขากล่าวว่าเรือดำน้ำมี “ความสามารถจำกัด” ในการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่หายใจออก ซึ่งระดับที่สูงอาจทำให้ปวดหัว สับสน และคลื่นไส้ได้
“ออกซิเจน คาร์บอนไดออกไซด์ และความเยือกแข็งเป็นสิ่งที่พวกเขาต้องรักษาไว้ให้นานที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อให้ผู้ช่วยชีวิตมีเวลาที่พวกเขาต้องการ” มาร์เกต์กล่าวเสริม
ผู้ที่อยู่บนเรือจะต้องประหยัดพลังงาน โจ แมคอินนิส แพทย์และนักประดาน้ำชื่อดังซึ่งเคยเดินทางไปยังซากเรือไททานิคถึง 2 ครั้ง กล่าว
“พักผ่อน หายใจให้น้อยที่สุด และพยายามสงบสติอารมณ์ นั่นคือสิ่งสำคัญที่สุด” เขาบอกกับ CNN เมื่อเช้าวันพุธ
ที่มา : edition.cnn.com
