หยก ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวยืนยันว่า พร้อมปีนรั้วโรงเรียนทุกวัน และจะใส่ไปรเวทมาเรียนทุกวัน ยืนยันพร้อมปรับ แต่อยากจะคุยปรับกับทางโรงเรียน
จากกรณีที่ หยก ธนลภย์ เยาวชน 15 ผู้ต้องหาคดี ม.112 ที่อายุน้อยที่สุด ปีนรั้วโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ เป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน หลังจากที่ทางโรงเรียนปิดประตูไม่ให้เข้า เนื่องจากหยกไม่ได้มีสถานภาพเป็นนักเรียน ตามที่มีการรายงานไปก่อนหน้านี้นั้น
ล่าสุดภายหลังจากที่หยกปีนรั้วเข้าไปในโรงเรียนได้ประมาณ 30 นาที พบว่ามีตัวแทนสมาคมผู้ปกครอง ไปบอกให้อาจารย์ประจำชั้นหยุดสอน และเชิญตัวหยกออกจากห้องเรียน โดยให้เหตุผลผลว่า หยกคือบุคคลภายนอก หยกจึงยอมออก และต่อสายมาหาบุ้ง ที่รออยู่หน้าโรงเรียน เพื่อให้คุยกับตัวแทนสมาคมผู้ปกครอง ซึ่งปลายสายชี้แจงกับบุ้งว่า ในเมื่อไม่สามารถปฏิบัติตามกฎระเบียบของโรงเรียนได้ ก็ควรออกจากโรงเรียน ไปเรียนที่ออก ก่อนจะมีการโต้เถียงกันว่า ถ้ากฎระเบียบมันละเมิดสิทธิมนุษยชน ก็ไม่มีที่ไหนรับได้
หยกลงมาพูดคุยกับบุ้ง และสมาชิกกลุ่มทะลุวัง ผ่านประตูรั้วโรงเรียน แสดงเจตจำนงยืนยันว่าจะไม่กลับบ้าน และจะรอเข้าเรียนในคาบบ่าย ซึ่งหลังเลิกเรียนในเวลา 15.40 น. หยก ยืนยันกับผู้สื่อข่าวว่า ตนได้เข้าเรียนในคาบบ่าย แต่มีสมาคมผู้ปกครองคอยตามเฝ้าอยู่หน้าห้องตลอดเวลา สร้างความอึดอัดให้กับตนเอง และเพื่อนร่วมชั้นอย่างมาก
แต่ภายในห้องเรียนไม่ได้มีปัญหาอะไร ไม่ได้ถูกเลือกปฏิบัติ พร้อมยืนยันว่า ในวันพรุ่งนี้และวันต่อๆ ไปจะยังคงมาเรียนเหมือนเดิม หากทางโรงเรียนปิดประตูไม่ให้เข้าก็จะปีนรั้ว และจะใส่ชุดไปรเวทตามสิทธิและเสรีภาพบนร่างกายของตน ไม่กลับไปใส่ชุดนักเรียน หากโรงเรียนอยากให้ตนปรับปรุงตัวตนก็ยินดีปรับ แต่อยากให้มาพูดคุยกัน เพื่อปรับทั้ง 2 ฝ่าย ตนจะไม่ปรับเพียงฝ่ายเดียว
ส่วนเรื่องผู้ปกครองนั้น น้องหยก บอกว่า ตอนนี้ไม่อยากติดต่อหรือกลับไปอยู่กับแม่ เพราะกลัวว่าหากตนเองยังยืนยันจะต่อสู้ตามวิถีทางประชาธิปไตย และถูกจับ เจ้าหน้าที่จะไปกดดันแม่ให้มาประกันตัวเธอ ดังนั้นหากถึงที่สุดแล้วไม่สามารถเรียนที่โรงเรียนนี้ต่อได้ก็จะดูหนทางย้ายไปเรียนที่โรงเรียนอื่นที่อนุญาตให้ใส่ชุดไปรเวทได้
‘หยก’ ปีนรั้ว 2 วันติด หลังโรงเรียนไม่เปิดประตูให้ ยันมอบตัวกับโรงเรียนแล้ว (คลิป)
