อึ้ง! ภาพถ่ายจากดาวเทียมเผย ภูเขาเสื้อผ้าขยะ ถูกทิ้งกลางทะเลทรายในประเทศชิลี ท่ามกลางปัญหา Fast Fashion ที่กลายเป็นประเด็นร้อนทั่วโลก
นับเป็นข่าวที่ทำเอาคนทั่วโลกตกใจไม่น้อย เมื่อมีการเปิดเผยภาพถ่ายจากดาวเทียม ซึ่งมาจากเว็บไซต์ SkyFi เผยให้เห็นกองเสื้อผ้าฟาสต์แฟชั่นขนาดใหญ่ที่ถูกนำมาทิ้งไว้ใน ทะเลทราย Atacama ของชิลี โดยมีการคาดการณ์ว่าเสื้อผ้าทั้งหมด อาจมีน้ำหนักมากถึง 39,000 ตัน เลยทีเดียว
เมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา สื่อต่างประเทศได้ออกมานำเสนอข่าวช็อกที่อาจสะเทือนวงการแฟชั่น เนื่องจากเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2023 ทวิตเตอร์ของ SkyFi ผู้ให้บริการภาพถ่ายดาวเทียม ได้ออกมาโพสต์ภาพที่ถูกถ่ายโดยดาวเทียมความละเอียดสูง จากบริเวณทะเลทรายในชิลี
SkyFi ได้ทวีตข้อความเอาไว้ว่า “เราสามารถยืนยันได้ว่า กองเสื้อผ้าขนาดยักษ์ในทะเลทรายชิลีมีอยู่จริง และพวกมันกำลังเติบโตมากขึ้นด้วย”
ทั้งนี้ได้มีข่าวออกมาว่า เสื้อผ้าส่วนใหญ่ที่เห็น ได้ถูกผลิตขึ้นในประเทศจีนและบังกลาเทศ ก่อนจะถูกขายไปทั่วโลกในหลายประเทศชั้นนำ ส่วนเสื้อผ้าที่ถูกขายไม่หมดก็จะถูกนำไปทิ้งตามที่เห็นในภาพ โดยเสื้อผ้าเหล่านี้ไม่สามารถส่งไปฝังกลบในเขตเทศบาลได้ เนื่องจากไม่สามารถย่อยสลายพวกมันได้ด้วยวิธีทางชีวภาพและสารเคมี
เป็นเหตุให้เสื้อผ้าที่ไม่ได้ถูกใช้ มีจุดหมายในการกำจัดอยู่ที่กลางทะเลทราย ในดินแดนห่างไกลของประเทศชิลี โดยที่นี่อยู่ไม่ไกลจาก ท่าเรือ Iquique ซึ่งมีกลุ่มคนยากจนอาศัยอยู่ห่างออกไปประมาณ 1 ไมล์ โดยมีการเปิดเผยว่า กองขยะแห่งนี้ได้เป็นที่สนใจของผู้อพยพและหญิงสาวท้องถิ่นจำนวนมาก (อ้างอิงจาก AFP)
ปัญหาเสื้อผ้าที่ถูกทิ้งจนกลายเป็นภูเขายักษ์ เกิดขึ้นจากอุตสาหกรรมแฟชั่นในปัจจุบัน ที่นิยมผลิตเสื้อผ้า Fast Fashion ออกมาตีตลาด ตอบสนองความต้องการที่แลกมาด้วยราคาที่ไม่แพง แต่กลับเพิ่มปริมาณคาร์บอนมากราว 2-8% เลยทีเดียว
จากการสำรวจพบว่า เสื้อผ้าที่ถูกผลิตใน Fast Fashion จำนวนกว่า 85% กลายเป็นขยะที่ถูกทอดทิ้ง อีกทั้งกระบวนการผลิตยังใช้น้ำและสร้างมลพิษมหาศาลแก่แม่น้ำลำธารอีกด้วย และภาพกองภูเขาเสื้อผ้าขยะในทะเลทรายชิลีที่ถูกถ่ายโดย SkyFi ก็ยิ่งตอกย้ำความเร็วร้ายของแฟชั่นได้มากขึ้นกว่าเดิม.
By purchasing a $44 Existing Image at 50 cm resolution, we can confirm the giant clothes pile in the desert of Chile exists and is growing. https://t.co/47SssKPdtI pic.twitter.com/RlfUSBWbu9
— SkyFi (@SkyfiApp) May 10, 2023
