รู้จัก “Meme” มีม คืออะไร มุกตลกสุดปั่นตามเทรนด์โลกออนไลน์
Meme (มีม) คืออะไร เปิดประวัติศาสตร์ภาษาภาพสากลในยุคโซเชียลดิจิทัล พร้อมทำความเข้าใจต้นกำเนิดเทรนด์มุกตลก ที่แพร่บนโลกอินเทอร์เน็ตแบบไวรัล มีทั้งมุกไทย มุกต่างประเทศ วัยรุ่นยุคดิจิทัลหนีไม่พ้นเจอทุกครั้งไป
มีม หรือชื่อในภาษาอังกฤษ Meme รูปแบบเทรนด์มุกตลกบนโลกออนไลน์ ที่แพร่กระจายไปทุกซอกมุมโลกดิจิทัล ที่มาสุดแปลกประหลาดจากนักวิทยาศาสตร์ที่ไม่ได้ตั้งใจให้เกิดขึ้น และกราฟฟิกดีไซเนอร์ผู้ให้กำเนิด มีม แรกของโลก กลายมาเป็นคำถามชวนสงสัยถึงจุดเริ่มต้นสุดป่วนแสนสะเทือนโลกอินเทอร์เน็ต
Thaiger ขออาสาพาไปไขข้อชวนสงสัยถึง ประวัติ ต้นกำเนิด Meme ทั้งมีมไทย มีมต่างประเทศ สิ่งเหล่านี้เรื่องราวอย่างไรบ้าง อ่านได้ข้างล่างนี้เลย
ประวัติ “มีม” ต้นกำเนิดปรากฏการณ์แห่งโลกอินเทอร์เน็ต
คำว่า Meme นั้น มีต้นกำเนิดครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1976 เมื่อมีนักวิทยาศาสตร์ชาวอังกฤษ Richard Dawkins (ชาร์ด ดอว์กินส์) ที่ได้เขียนหนังสือThe Selfish Gene โดยที่หนังสือเล่มนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับทฤษฎีวิวัฒนาการ การเผยแพร่ของชุดความคิดต่างๆ ที่สอดคล้องกับปรากฏการณ์ทางวัฒนธรรมในแต่ละยุคสมัย
ส่งผลให้ Richard Dawkins ได้สร้างคำว่า Meme ขึ้นมาโดยหยิบคำภาษาอังกฤษอย่าง Gene ที่แปลว่าพันธุกรรมมา ผสมกับภาษากรีก mɪmetɪsmos หรือ mimema ที่หมายถึง การลอกเลียนแบบ ที่มีความหมายว่า ไอเดียและชุดข้อมูลทางวัฒนธรรมที่ถูกส่งต่อกันมาเรื่อยๆ และได้รับการพัฒนาต่อยอดไปตามยุคสมัย แต่ทว่าในตอนนั้นคำ ๆ นี้ ยังไม่ได้เป็น Meme มุกตลกที่เข้าใจกัน
จุดเริ่มต้นของการกระจายตัวของ MEME ที่สั่นคลอนโลกออนไลน์
เรื่องราวได้เกิดขึ้นในปี ค.ศ. 1996 ที่มีกราฟดีไซน์เนอร์ชื่อว่า Michael Girald ด้สร้างซอฟต์แวร์ที่สามารถโปรแกรมการเคลื่อนไหว ที่ซอฟแวร์นี้สามารถสร้างภาพเคลื่อนไหวลงบนระบบคอมพิวเตอร์ได้
แต่ทว่าภาพที่เจ้าตัวใช้นั้นดันเป็นภาพ เด็กทารกยืนเต้นเคลื่อนไหวแบบ โบ้ะบ้ะ โบ้ะบ้ะ ที่มันได้กลายเป็นภาพ GIF ในภายหลัง และก็คงไม่ต้องสืบว่าเมื่อชาวโลกออนไลน์ที่ไม่เคยเจอสิ่งนี้มาก่อนจะทำอย่างไรกับกับเจ้าภาพ GIF นี้ ชาวเน็ตยุคก่อนจึงแพร่กระจายเจ้ารูปสุดเกรียนนี้ไปทั่วอินเทอร์เน็ตนั่นเองครับผม และสิ่งนี้มันเข้าเค้ากับคำว่า Meme ที่เคยมี จึงเป็นที่มาของมีมนั่นเองครับผม
มีมไทย มีมต่างประเทศ ต่างกันอย่างไร?
เมื่อกล่าวถึงจุดแตกต่างของมีมในไทยและต่างประเทศนั้น หากให้คำตอบเพียงว่าต่างกันแค่ภาษาใน มีม ก็เกรงว่าจะเป็นคำตอบดูขวานผ่าซากไปซะหน่อย เพราะสิ่งที่มากกว่านั้นคือ มีม เป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงช่วงเวลาที่มันอยู่หรือเกิดขึ้นในเทรนด์กระแสโลกอินเทอร์เน็ต ยกตัวอย่างเช่น มีม เลือกตั้ง 66 ที่ชาวเน็ตไทยชอบหยิบสถานการณ์ของการเมืองไทยมาทำเป็มมุกตลกต่าง ๆ อย่างสนุกสนานกันใหญ่โต มีม ยังบอกถึงวัฒนธรรมด้านตลกขบขันของกลุ่มคนนั้น ๆ ได้อ้อม ๆ อีกด้วย
ในกรณีนี้ก็คล้ายกับ Meme ต่างประเทศ ที่มีแนวทางของตัวเองในกลุ่มเป้าหมายนั้น ๆ ที่บ่งบอกถึงเหตุการณ์พิเศษในเวลานั้นไม่ต่างกับของประเทศไทยเลย แต่ถึงกระนั้น Meme ก็มีหลายประเภทแยกย่อยออกมานับกันไม่ไหว ที่ไม่ว่าจะเป็น มีมวิทยาศาสตร์ มีมความรู้ มีมเสียดสี และอื่น ๆ ทว่าสิ่งที่มีร่วมกันใน มีม คือการที่มันถูกส่งไปทั่วโลกอินเทอร์เน็ตนั่นเองครับผม
ตัวอย่างมีมสุดเกรียนบนโลกออนไลน์
Thaiger ขออนุญาตพาผู้อ่านทุกท่านไปดูกันว่า Meme หรือ มีม ที่ชาวเน็ตชอบหยิบมาใช้กันนั้นจะมีอะไรบ้างครับผม
สรุปแล้ว Meme หรือ มีม คือมุกตลกที่ผู้คนในโลกออนไลน์จะหยิบมาส่งต่อกันแบบทั่วหลาย จนกลายเป็นกระแสหลักถึงข้อความแฝงในบริยทนั้นๆ แต่ทว่าก็ไม่ใช่ทุกเทรนด์กระแสที่จะคงอยู่ไปตลอด เพราะก็มีบางมีมเช่นกันที่ผู้คนไม่ได้ให้ความสนใจกับ Meme บางอันแล้ว พวกเราจะเรียกมีมเหล่านั้นว่า มีมตาย (Dead Meme) ครับผม