เคลื่อนไหวแล้ว! ตัวแทนบริษัทกลูต้าผิวขาว ชี้แจง กรณีที่ลูกค้าวัย 19 ปี ตรวจเจอสารเมทแอมเฟตามีน ชนิดเดียวกับยาบ้า จนอาจพลาดเรียนต่อในคณะเภสัชของมหาวิทยาลัยดัง เผยอาจเป็นของเลียนแบบ
จากกรณีดราม่าดังที่เด็กสาว วัย 19 ปี ไปตรวจร่างกายเพื่อจะเข้าเรียนต่อคณะเภสัชศาสตร์ แต่กลับพบสารเมทแอมเฟตามีนในร่างกาย ซึ่งเป็นสารชนิดเดียวกันกับยาบ้า ทำให้แพทย์ไม่สามารถออกใบรับรองให้เด็กไปมอบตัวเรียนต่อได้ ซึ่งเด็กได้เปิดเผยว่า ได้ซื้ออาหารเสริมผิวขาวมาจาก TikTok ล่าสุดตัวแทนบริษัทกลูต้ายืนยันว่าไม่ได้ผสมสารเมทแอมเฟตามีน พร้อมเตรียมช่วยเหลือเด็กให้ได้เรียนต่อตามที่หวัง
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2566 ได้มีการรายงานข่าวว่า นักเรียนหญิงวัย 19 ปี ที่กำลังจะเข้าเรียนต่อระดับอุดมศึกษา คณะเภสัชศาสตร์ ได้ตรวจเจอสารเมทแอมเฟตามีนในปัสสาวะ ทำให้แพทย์ไม่สามารถออกใบรับรองให้เรียนต่อได้ ซึ่งแม่ของเด็กได้ระบุว่า
สารดังกล่าวอาจเกิดจากการที่ลูกสาวทานอาหารเสริมผิวขาวที่ซื้อใน TikTok ซึ่งลูกกิน 1 เม็ดตอนกลางคืน แถมลูกเป็นเด็กเรียนไม่เกเรและไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับสารเสพติด พร้อมขอให้สื่อช่วยตรวจสอบ เพราะผลิตภัณฑ์มี อย. แหล่งที่มาชัดเจน แต่เหตุใดถึงมีสารอันตราย อีกทั้งแบรนด์ยังมียอดขายแล้วกว่า 1 ล้านกระปุก ซึ่งอาจไม่มีใครรู้ว่ามีสารดังกล่าว
หลังจากกลายเป็นข่าวไม่นาน ประเด็นนี้ก็ได้กลายเป็นไวรัลที่สังคมจับตามอง จนทางคณะเภสัชศาสตร์ได้ออกมาชี้แจงว่า TCAS3 มีกำหนดสัมภาษณ์วันที่ 31 พ.ค. 66 ซึ่งจะมีการให้ยื่นผลตรวจร่างกาย หากผลตรวจร่างกายไม่เป็นไปตามเกณฑ์ที่ได้กำหนดไว้ ทางคณะจะขอให้ไปตรวจร่างกายซ้ำ และไม่ได้ตัดสิทธิการเข้าเรียนทันที
ด้านอาจารย์อ๊อด รองศาสตราจารย์ ที่ มหาวิทยาลัยเกษตรศาตร์ ออกมาวิเคราะห์ว่า ผลิตภัณฑ์ที่ผสมกลูตาไธโอนมีสูตรโมเลกุลคนละตัวกับยาบ้า เป็นไปไม่ได้ที่ตรวจวิเคราะห์ผิดพลาด แนะให้ตรวจผลิตภัณฑ์อย่างละเอียดหรือตรวจร่างกายซ้ำ ชี้ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว บริษัทแอบใส่ยาหรือเด็กเสพยาเอง
ล่าสุดทางตัวแทนของบริษัทอาหารเสริมผิวขาว ได้ชี้แจงผ่านทางช่อง 3 ว่า ผลิตภัณฑ์ชนิดนี้ได้มีการผลิตมากว่า 1 ปี ส่วนสารเมทแอมเฟตามีนมีราคาสูง ราวกิโลกรัมละล้านบาท บริษัทไม่นำมาผสมอย่างแน่นอน พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า หากพบสารในผลิตภัณฑ์อาจเกิดจากสินค้าปลอมที่ทำเลียนแบบ เผยเหยื่อบางรายที่ทานของปลอมแบรนด์อื่น ก็ถึงกับชีวิตมาแล้ว
นอกจากนี้ทางตัวแทนบริษัทยังเปิดเผยว่า จะให้คำแนะนำรวมถึงหารือแนวทางช่วยเหลือ เพื่อให้นักเรียนสาววัย 19 ปี ได้มอบตัวเข้าเรียนในคณะเภสัชศาสตร์ต่อไป.
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้
